บท
ตั้งค่า

๓ ข้างกายแสนไกล (๑)

ข้างกายแสนไกล

ไปทำบุญที่วัดก็ตรงเข้าที่ทำงานทันที เขานั่งทำงานทั้งวันไหนจะต้องประชุมหัวหมุนอีก กลับมาถึงบ้านจึงค่อนข้างค่ำมากแล้ว ฝ่าการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนในเวลาที่ทุกคนเลิกงาน ดีที่วันนี้ให้คนรถของที่บ้านเป็นคนขับ ปกติเขามักจะชอบขับรถเองมากกว่า ยิ่งได้เหยียบคันเร่งก็เหมือนจะปลุกสัญชาตญาณนักล่าในตัว

เมื่อก่อนตนเคยเป็นนักแข่งรถแต่พอมารับช่วงต่อกิจการครอบครัวจากบิดาก็ห่างหายไป แทบจะไม่ได้ก้าวเข้าสู่สนามอีกเลย งานที่ต้องรับผิดชอบอยู่ในมือค่อนข้างเยอะพอสมควร ถึงบรรดาพี่ๆ ในสนามแข่งจะทักมาชวนก็ต้องเอ่ยปฏิเสธ โครงการที่เขารับผิดชอบมีเยอะจนไม่อาจละทิ้งไปได้

ลงจากรถก็เห็นว่าไฟในบ้านถูกปิดเอาไว้ทั้งที่ปกติจะเปิดสว่าง ขมวดคิ้วด้วยความฉงนแล้วค่อยเดินขึ้นบันไดมาทีล่ะขั้น จนเข้ามายังโถงด้านในที่มีแจกันใบใหญ่ตั้งไว้บนโต๊ะกลมลายฉลุซึ่งมีราคาเกือบเจ็ดหลัก

“ทำไมบ้านมืด ไม่เปิดไฟกันหรือไง” จังหวะที่กำลังเดินไปที่สวิตซ์ไฟแล้วคิดจะทำการเปิด ก็มีเสียงเพลงดังขึ้นพร้อมกับเค้กที่ถูกปักเทียนเอาไว้ พร้อมตัวเลขซึ่งหมายถึงอายุของเขาที่เพิ่มขึ้นหนึ่งปี มือหนาหยุดชะงักถูกดึงกลับมาแนบลำตัวตามเดิม

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู! แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์...ทูยู” นอกจากหญิงสาวที่เดินนำแล้ว บรรดาคนในบ้านก็เดินตามเป็นขบวน ทั้งยังทำป้ายสุขสันต์วันเกิดให้อีกต่างหาก มุมปากหยักแอบยกยิ้มแม้ใบหน้าจะยังดูนิ่งเหมือนเดิมก็ตาม

แววตาเป็นประกายไม่คิดว่าจะมีคนเซอร์ไพรส์วันเกิด

ความจริงวันเกิดของเขาจัดทุกปีแต่เป็นในรูปแบบเชิญคู่ค้าทางธุรกิจมาสังสรรค์พูดคุยมากกว่า ทำไปก็เพื่อประโยชน์ไม่ใช่การฉลองอย่างแท้จริงเหมือนวัยเด็ก จนเขาลืมเลือนความรู้สึกพิเศษเหล่านี้ไปแล้วแล้วด้วยซ้ำ

กระทั่งเห็นร่างบางถือเค้กออกมาพร้อมร้องเพลงอวยพรวันเกิด เท้าหนักก็ยืนนิ่งไม่อาจขยับไปไหนได้ จนเธอยื่นเค้กมาตรงหน้า ดวงตากลมใสเป็นประกาย ชายหนุ่มฟังคำอวยพรของเธอโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับสักคำ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดอะไรออกไป

“สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ใหญ่ ขอให้พี่ใหญ่มีความสุขตลอดปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ยิ้มเยอะกว่าเดิมยิ้มกว้างทุกวัน แล้วก็...อยู่กับแก้วแบบนี้ไปนานๆ นะคะ” ยิ้มกว้างในความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากเทียนส่องสว่าง ดวงตาคมไม่ได้เคลื่อนไปทางอื่นนอกจากจ้องหน้าภรรยาอยู่เช่นนั้น ก่อนที่เธจะบอกให้เขาอธิษฐานซึ่งในความคิดของปรัตยาไม่ค่อยจะอยากทำเท่าไหร่ เป่าเทียนก็น่าจะพอไม่ใช่หรือ

“อธิษฐานก่อนเป่าค่ะ”

ทว่าเมื่อมองหล่อนที่ทำหน้าซื่อก็ไม่อาจปฏิเสธได้ลง จึงหลับตาเพื่ออธิษฐานเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธี จากนั้นจึงเป่าเทียนให้มอดลงพร้อมกับไฟที่เปิดสว่างในวินาทีต่อมา

ฟู่ว...

“เย้!” เสียงร้องดีใจดังจากหญิงสาวและบรรดาแม่บ้านที่เธอตระเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อไฟถูกเปิดคนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ทยอยเดินออกไป ปล่อยให้สามีภรรยาได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เธอจึงใช้โอกาสนี้อวดเค้กยกใหญ่ว่าตัวเองเป็นคนทำ โทรไปถามจากคุณปัจจรีว่าสามีชอบกินเค้กอะไรโดยเฉพาะ

ดูสูตรจากอินเตอร์เน็ตแล้วเอามาปรับใช้ กว่าจะได้รสชาติที่ต้องการก็ฝึกทำอยู่สามสี่วัน พอวันจริงก็ค่อนข้างพึงพอใจในเค้กของตัวเองเป็นอย่างมาก ไม่รอช้ารีบจูงกึ่งลากร่างหนามาที่ห้องอาหาร แล้ววางเค้กลงบนโต๊ะยาวกว่าสิบหกที่นั่งถึงจะใช้จริงแค่สองที่นั่งก็ตาม

อุปกรณ์ถูกเตรียมไว้แล้ว เธอจึงตัดเค้กแล้วแบ่งใส่จานให้เขาได้กิน ค่อนข้างภูมิใจในการนำเสนอเป็นอย่างมาก

“เค้กนี่แก้วทำเองนะคะ เป็นทาร์ตเค้กราสเบอร์รี่ของโปรดพี่ใหญ่ อาจจะไม่อร่อยเท่าร้านดังแต่ว่าไม่หวานเลี่ยนแน่นอน ลองชิมดูนะคะว่าพี่ใหญ่ชอบหรือเปล่า ถ้าชอบคราวหน้าแก้วจะทำให้ทานอีก” ยื่นช้อนให้เขาแล้วยกมือขึ้นเท้าคาง จ้องเจ้าของวันเกิดตาเป็นประกาย หวังกับคำตอบเป็นอย่างมากจนท่านประธานเริ่มเกร็ง

เค้กตรงหน้าค่อนข้างน่าทาน จึงไม่รอช้าที่จะตักกินคำใหญ่ก่อนพบว่าอร่อยกว่าร้านเจ้าประจำของเขาเสียอีก ชายหนุ่มจึงเอ่ยชมเธอจากใจจริง เล่นเอาคนทำยิ้มกว้างหุบไม่ลง มองเขากินอย่างเพลิดเพลินไม่เหลียวไปทางอื่น

“อร่อยดี”

เริ่มเกร็งกับสายตาของภรรยา เธอเอาแต่มองไม่พูดจาสักคำ เขาจึงเป็นฝ่ายชวนคุยไม่ให้บรรยากาศมันเงียบจนน่าอึดอัด ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มห่วงกับความรู้สึกของหญิงสาว เพียงแค่เขาไมได้ทบทวนตัวเองว่าคิดเช่นไรกับหล่อน

เพราะสำหรับปรัตยาแล้ว แก้วเจ้าจอมคือหญิงสาวเอาแต่ใจที่ชอบเอาชนะเป็นที่หนึ่ง

เขาจึงไม่เคยชอบเธอในเชิงชู้สาวเลยสักครั้ง

“ไม่ตัดไปแบ่งคนอื่นเหรอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel