บทที่๑...ไม่เคยสำคัญ (๔)
“ทีหลังอย่ามาชี้นิ้วสั่งคนของฉัน เธอเป็นคนอื่นไม่เกี่ยวกับที่นี่” บอกด้วยความไม่ชอบใจกับการกระทำที่เหมือนกับตัวเองใหญ่คับฟ้าของเธอ ร่างสูงไม่ได้มองว่าแก้วเจ้าจอมกำลังหึง แต่เหมือนเธออยากแสดงความเป็นเจ้าของเขามากกว่า
ซึ่งตนไม่ชอบใจ...
เขาไม่ได้เป็นของของใคร
“แก้วไม่ได้ยุ่ง แค่แนะนำค่ะ หรือพี่ใหญ่หวงแม้กระทั่งพนักงานระดับล่าง” ปากอวบอิ่มเม้มแน่นก่อนหันหน้าตรงมาโต้กลับบ้าง เผลอใช้น้ำเสียงแข็งกับดวงตากร้าวจ้องอีกฝ่ายกลับเช่นเดียวกัน หนึ่งปีที่ผ่านมาพยายามอยู่ในโอวาทของสามีตลอด
อะไรยอมได้ก็ยอม แต่สิ่งใดที่เป็นของเธอแล้วคนอื่นมายุ่ง...แก้วเจ้าจอมยอมไม่ได้
“ฉันไม่ว่าง เธอไปกินข้าวคนเดียวเถอะ” ไม่ได้ตอบกลับคำถามนั้นเพราะรู้สึกว่ามันไร้สาระ เขาเลือกเปลี่ยนเรื่องด้วยการปฏิเสธการไปรับประทานอาหารกับภรรยา ลุกจากเก้าอี้ตัวหนาพลางสวมเสื้อสูทที่ตัดมาพอดีตัว
ความหล่อเหลาเทียบระดับพระเอก ไหนจะความร่ำรวยของชายหนุ่ม ทุกคนจึงลงความเห็นว่าคู่ของปรัตยากับดาราสาวแสนจะเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก ไม่มีใครรู้เบื้องหลังว่ามันไม่ได้สวมงามอย่างที่คิด
“พี่ใหญ่จะไปไหนคะ ให้แก้วไปด้วยสิวันนี้แก้วว่างทั้งวันเลย” เก็บความไม่พอใจเอาไว้จนมิด จากนั้นจึงเดินไปควงแขนเขา แต่กลับถูกปลดออกไม่แยแส หันมาถอนหายใจใส่แล้วพูดถึงการทำงานของหล่อนที่หยุดมานาน
แก้วเจ้าจอมหน้าชาอีกครั้ง แต่พยายามยิ้มสู้บอกเหตุผลของตัวเองเท่าที่จะทำได้และอยากให้เขาเห็นใจตัวเองบ้าง
แค่อยากใช้เวลาในฐานะภรรยาของเขาให้เต็มที่...เท่านั้นเอง
เหมือนว่าปรัตยาจะไม่ต้องการ
“ว่างก็หางานทำบ้าง บริษัทที่บ้านก็มีไม่เข้าไปทำสักที เลิกตามติดฉันได้ไหมมันน่ารำคาญ เหมือนผู้หญิงที่มีชีวิตอยู่เพื่อผู้ชายไปวันๆ” คำพูดของเขาล้วนออกมาจากใจจริง ซึ่งมันทำให้หล่อนเจ็บปวดแต่ก็ยังยิ้มสู้เหมือนไม่รู้สึกรู้สา
“แก้ว...อยู่ในช่วงพักค่ะ”
“พักปีหนึ่งแล้วนะ”
“ค่ะ”
เธอหยุดงานทุกอย่างตามระยะเวลาของการแต่งงาน คอยดูแลบ้านหลังใหญ่แล้วก็ทำทุกอย่างเพื่อเอาใจสามี พยายามไม่ตามติดเขามากนักแต่ก็มาบริษัททุกสัปดาห์ นำอาหารมาให้บ้างหรือหาข้ออ้างอื่นเพื่อพบหน้าสามีช่วงกลางวัน แสดงตัวตนให้หญิงอื่นที่พยายามเข้าหารู้ว่าเรายังรักกันหวานชื่น
ทั้งที่ความจริงเป็นเธอต่างหาก...ที่รักเขาข้างเดียว
ตืด ตืด ตืด
เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้น พร้อมกับสีหน้าของเขาเปลี่ยนฉับพลันจนเธอนึกอิจฉาคนที่ทำให้ปรัตยายิ้มได้ เพราะไม่ว่าหล่อนจะพยายามแค่ไหนก็ไม่เคยทำได้เลย จนตอนนี้อยากทิ้งความพยายามทุกอย่างของตัวเอง
ถ้ารักมันจะเหนื่อยขนาดนี้ก็ควรพอหรือเปล่า
“ครับ เดี๋ยวพี่ไป” เหลือบมองชื่อของคนโทรเข้าก็ต้องกำหมัดแน่น กลืนน้ำลายหนืดลงคอด้วยความอิจฉา
ดาวประดับ...น้องสาวที่เขาคิดเกินเลย
คนที่ปรัตยายอมสิโรราบ...
เที่ยงนี้ที่เขาบอกไม่ว่างเป็นเพราะต้องไปกินข้าวกับหล่อนอย่างนั้นหรือ แค่คิดก็เกิดอาการน้อยใจปนกับหึงหวงจนเผลอดึงชายเสื้อร่างสูงเอาไว้ ช้อนตามองเขาแววตาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน เหมือนลูกหมาตัวหนึ่งที่ไม่อยากให้เจ้าของไปไหน
“ไม่...ไม่ไปได้ไหมคะ” ถามเสียงสั่น เธอไม่อยากอ่อนแอ อยากเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวแต่ไม่เคยทำได้เลย
พ่ายแพ้ให้เขาหมดทุกทาง กระทั่งชายหนุ่มปลดมือตนออกแล้วเดินออกจากห้อง หญิงสาวก็ทำได้แค่มองตามก่อนปาดน้ำตาออก ต้องไม่ร้องไห้ที่นี่เด็ดขาด เดินออกไปข้างนอกยังต้องเจอคนอีกมากมาย สิ่งที่หล่อนทำได้คือซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้ แล้วยิ้มอย่างเบิกบานแม้ในใจกำลังทุกข์ระทมกับความรักที่ไม่เคยได้รับจากคนเป็นสามีก็ตาม
ฝ่ารถติดช่วงเที่ยงมาถึงร้านอาหารที่นัดกันไว้ ใบหน้าคมแย้มยิ้มแล้วเดินมาหาหญิงสาวที่นั่งคอยท่า เธอยกมือโบกเพื่อเรียกเขา แสดงตัวตนว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้ ซึ่งความจริงไม่จำเป็นสักนิด เพราะปรัตยาเห็นหล่อนตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้ว
ราวกับแสงสว่างทั้งหมดไปอยู่ที่ดาวประดับ...
“ขอโทษที่พี่มาช้า เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางรถเลยติดยาว ดาวอยากกินอะไรสั่งหรือยัง กินข้าวไม่ตรงเวลาโรคกระเพาะจะถามหาเอานะ” บอกเหตุผลของตัวเอง เธอพยักหน้ารับทราบไม่ได้ว่าอะไร เข้าใจเป็นอย่างดีอีกทั้งตัวเองก็เพิ่งมาถึงไม่นานเช่นเดียวกัน
ดาวประดับเป็นลูกสาวติดแม่เลี้ยงที่ตอนแรกเขาคัดค้านไม่ยอมร่วมบ้านกับคนมาใหม่ แต่สุดท้ายก็แพ้ความดีของทั้งสองคน แถมยังตกหลุมรักสาวซึ่งใช้นามสกุลเดียวกันอีก
แน่นอนว่ารักของเขาไม่อาจเกิดขึ้นได้ หล่อนเป็นน้องสาว...บิดาจึงไม่เห็นด้วยแล้วกีดกัน
ลงท้ายตนก็ต้องแต่งงานกับคนอื่น คงเหลือสถานะพี่น้องของเราเอาไว้ดั่งเดิม ช่างน่าเศร้าเสียเหลือเกิน
“ทราบค่ะ พี่ใหญ่บอกมาตลอด...ดาวสั่งของโปรดตัวเองแล้วก็ของโปรดพี่ใหญ่ไว้หมดแล้ว นั่งลงแล้วดื่มน้ำหน่อยไหมคะ ดูเหมือนจะวิ่งมาไกลหอบเชียว" วิ่งมาเพราะเห็นว่าตัวเองสายมากแล้ว ไม่อยากปล่อยให้ดาวประดับรอนาน
“ครับ” รับน้ำเปล่ามาดื่มดับกระหาย เช็ดเหงื่อที่ซึมออกตามไรผม จากนั้นก็จดจ้องดวงหน้าหวานของหญิงสาวไม่วางตา เธอยังน่ารักเหมือนเด็กหญิงตัวน้อยคนเดิม เพียงแค่ขยายจากส่วนสูงหนึ่งร้อยสี่สิบห้าเซนติเมตรเป็นหนึ่งร้อยหกสิบสี่เซนติเมตร
เรารู้จักกันมานาน ผ่านหลายอย่างมาด้วยกัน
อีกเหตุผลที่ทำให้ไม่ชอบภรรยาในปัจจุบันก็เพราะอดีตหล่อนเคยแกล้งน้องสาวของเขา ความร้ายกาจของแก้วเจ้าจอมไม่มีทางเลือนหายหรอก เพียงแค่หล่อนซ่อนมันเอาไว้จากสายตาของเขาเท่านั้น