บท
ตั้งค่า

บทที่๑...ไม่เคยสำคัญ (๓)

ที่สำคัญหล่อนมีเพื่อนน้อยนับคนได้ สนิทจริงก็แค่สองคนเท่านั้น...ชวนแล้วกลับโดนปฏิเสธไร้เยื่อใย

ต้องลองเสี่ยงชวนพี่สาวคนสวยของตนดูบ้าง คิดว่าอย่างไรกิ่งกานดาก็ต้องตามใจน้องแน่

“วันนี้พี่ไม่ว่างน่ะสิ ต้องไปกินข้าวเที่ยงกับผู้บริหารท่านอื่น แก้วไปด้วยกันไหม” ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ เมื่อพี่ต้องไปกินข้าวกับบรรดานักบริหารแล้วพูดคุยเรื่องงานที่น่าเอียนสำหรับหล่อน แบบนั้นกับข้าวจะอร่อยตรงไหน

แค่คิดก็ส่ายหน้าปฏิเสธรวดเร็ว “ไม่เอาหรอก กินข้าวไม่ลงกันพอดีพูดแต่เรื่องธุรกิจ แก้วไปกินข้าวกับพี่ใหญ่ดีกว่า” ทางเลือกของหล่อนคือไปรับประทานอาหารกับสามีสุดที่รัก เพียงแค่คิดก็ยิ้มกว้างออกมาแล้ว

คนเป็นพี่เห็นน้องมีความสุขก็ยิ้มตาม ทราบดีถึงการแอบรักข้างเดียวของแก้วเจ้าจอม จนกระทั่งได้แต่งงานมีความสุขสมหวังในรักกับเขา เห็นแล้วก็นึกเบาใจเพราะตอนแรกอดเป็นห่วงไม่ได้ แววตาของปรัตยาปราศจากความเสน่หาในตัวน้องของหล่อน

ตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น...

ทว่าพอเห็นความสดชื่นของคนตรงหน้าก็พอเบาใจว่าอยู่ดีมีความสุข ไม่ได้อมทุกข์อย่างที่ตนนึกกลัว

เคยบอกน้องหลายรอบเรื่องการแต่งงานที่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ ไม่อยากให้เอาใจลงไปเล่น ผู้ใหญ่แค่เปรยไม่ได้หมายความว่าต้องแต่ง

สุดท้ายแก้วเจ้าจอมก็ยอมแต่งเพราะรัก...ต่างจากฝ่ายชายที่ทำเพื่อผลประโยชน์อย่างเดียว

“จ้ะ ถ้าว่างก็เข้ามาทำงานที่บริษัทได้นะ ตำแหน่งเหลือเยอะให้น้องพี่ทำ...แต่ถ้าจะให้ดีก็ใจอ่อนรับเป็นแบรนด์แอมฯ ทีเถอะ ติดต่อไปหลายปีไม่ยอมรับสักที” ครอบครัวของเธอทำธุรกิจสายการบินที่ได้ผลกำไรเป็นอันดับหนึ่งมาหลายปีติดต่อกัน ทั้งยังมีกิจการร้านเพชรของมารดาที่พี่ชายต้องดูแลควบคู่ไปอีก

เพราะตอนนี้บุพการีต่างจับมือพากันไปฮันนีมูนรอบโลก ปล่อยให้บุตรธิดาจัดการงานทุกอย่าง ส่วนตนก็รอรับเงินเดือนกับเงินปันผล

ขณะที่แก้วเจ้าจอมขอปฏิเสธเข้ามาบริหาร กระนั้นเวลามีประชุมผู้ถือหุ้นก็ต้องมาเข้าประชุมตลอดเพราะตัวเองมีหุ้นที่บิดาให้ไว้

โดนรบเร้าจากพี่สาวบ่อยครั้งให้มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของสายการบิน ถือเป็นหน้าตาแก่การบินแต่หล่อนก็ไม่รับ เดี๋ยวบรรดาผู้บริหารคนอื่นก็ออกมาต้อนรับทำกันแบบเอิกเกริก อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว

“เดี๋ยวคนอื่นหาว่าใช้เส้น...ไปแล้วค่ะ ไว้วันไหนว่างจะเข้าไปกินข้าวที่บ้านนะ” เข้าไปกอดพี่แล้วหอมแก้มอีกฝ่ายเป็นการอ้อน ค่อยยื่นแก้มให้กิ่งกานดาหอมคืนเป็นเรื่องปกติของหญิงสาวทั้งสองไปแล้ว จากนั้นจึงโบกมือลาค่อยออกจากห้อง

“จ้า”

ปลายทางที่ตั้งเอาไว้แต่แรกคือตึกใหญ่ใจกลางมหานครที่รถติด อยู่ไม่ห่างจากที่ทำงานของพี่สาวมากนัก พอถึงด้านหน้าของตัวตึกก็บอกให้คนรถไปรับประทานอาหารแล้วค่อยวนกลับมารับหล่อน ส่วนตนจะขึ้นไปหาสามีด้านบน

ระหว่างทางก็มีพนักงานค้อมศีรษะทำความเคารพหญิงสาวเป็นแถบ ทราบดีว่าเธอคือใคร...

นอกจากเป็นนักแสดงดังแล้ว ยังมีภรรยาของประธานบริษัทอีกต่างหาก แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ทำความเคารพได้อย่างไร

ชั้นทำงานของเขาอยู่ข้างบนสุด นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนบิดาที่เกษียณอายุงานแล้วไปทำกิจการรีสอร์ทเล็กๆ ที่ต่างจังหวัดในแถบภาคใต้ ปลีกวิเวกอยู่เพียงลำพังกับภรรยาอันเป็นที่รัก แต่ไม่ใช่มารดาของปรัตยา...

“คุณแก้ว” เลขานุการหน้าห้องของท่านประธานเห็นหญิงสาวมาแต่ไกล ยิ้มรับแล้วทักทายนายสาวอย่างจงรักภักดีไม่ต่างจากเจ้านายของตัวเอง หล่อนจึงยื่นขนมที่ซื้ออยู่ห้างสรรพสินค้าให้อีกฝ่าย ถือเป็นของฝากและสินบนให้ช่วยสอดส่องดูแลสามีของตน

การที่เขามีภรรยาไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสาวใดคิดเข้าใกล้ น่าแปลกที่คนเหล่านั้นศีลธรรมต่ำหรือไรคุณธรรมในจิตใจถึงได้ชอบส่งสายตาหวานให้สามีชาวบ้านอยู่เรื่อย

“พี่ใหญ่อยู่ไหมคะ” ถามด้วยเสียงสดใส ใบหน้าสวยหวานกับดวงตากลมแป๋ว ใครบ้างจะไม่หลงใหลยามได้สบตา

“อยู่ค่ะ แต่กำลังคุยกับคุณฟ้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ นั่งรอก่อนไหมคะหรือจะเข้าไปข้างในเลย” เพียงแค่ได้ยินชื่อก็นึกไม่ชอบ จำได้ว่าคราวก่อนที่หล่อนอยู่ด้วยหญิงคนนั้นก็มาส่งเอกสารแล้วทอดสายตาหวานให้สามีคนอื่น

พอได้ยินว่าตอนนี้อยู่กันลำพังก็เกิดอาการไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก แต่ยังคงเก็บอาการรักษาความเป็นนางเอกเอาไว้อย่างดีเยี่ยม

“ขอบคุณค่ะ” ตอบเสียงหวานแต่สายตาเอาเรื่อง

มือบางเคาะประตูสองครั้งแล้วหมุนกลอนเพื่อผลักเข้าไปข้างใน สามีที่ก้มหน้าเซ็นเอกสารเงยขึ้นมองว่าใครมา พอเห็นหล่อนค่อยกลับมาอ่านตัวหนังสือในกระดาษคล้ายไม่สนใจ ใจเธอหล่นวูบแต่ยังยิ้มหวานแสดงละครการเป็นภรรยาที่แสนน่ารักได้แนบเนียน

“พักได้แล้วค่ะ ถึงเวลามื้อเที่ยงแล้วพี่ใหญ่ควรกินข้าวนะ” เลือกจะเดินไปยืนข้างเก้าอี้ตัวใหญ่เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ อยากนั่งตักเขาแต่รู้ว่าการกระทำเช่นนั้นไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ดวงตากลมจ้องเสี้ยวหน้าคมด้วยความหลงใหล แล้วค่อยผินมาสบตากับสาวสวยของฝ่ายประชาสัมพันธ์

“ออกไปได้แล้ว” เซ็นเอกสารเรียบร้อยก็ยื่นแฟ้มให้หล่อน

“ค่ะ” เจ้าตัวรับมาถือไว้แล้วปรายตามองท่านประธานอย่างโจ่งแจ้ง เหมือนต้องการประกาศศึกกับดาราสาวจนแก้วเจ้าจอมทนแทบไม่ไหว จิกเบาะนุ่มแล้วเดินไปขวางหน้าคนที่อยากท้าทายตัวเอง ถ้าเป็นหล่อนเวอร์ชั่นก่อนคงได้ใช้กำลังไปแล้ว

แต่เพราะรู้ว่าการทำเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องดี ซ้ำจะสร้างภาพลักษณ์เลวร้ายให้ตัวเอง จึงต้องเปลี่ยนแปลงให้เป็นคนมีสติบ้าง กระนั้นแววตาก็ยังเหยียดคนตรงหน้าชัดเจน

“คุณฟ้าคะ...คราวหลังแต่งตัวให้มิดชิดหน่อยก็ดี มาทำงานก็ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยคนอื่นถึงจะมองว่าเป็นพนักงานบริษัท ไม่ใช่สาวเชียร์เบียร์” เสื้อเปลือยไหล่คว้านคอลึกกับกระโปรงสั้นจนแทบปิดอะไรไม่มิดก็นึกหงุดหงิด ไม่รู้ว่าแต่งทุกวันหรือแต่งเพื่อมาห้องท่านประธานโดยเฉพาะกันแน่

ปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้ม แต่กลับทำให้คนฟังหน้าชาก่อนค้อมศีรษะกำลังจะเอ่ยขอโทษ ดาราสาวไม่คิดจะฟังเลือกเดินกลับไปหาสามีเหมือนเดิม ปล่อยบุคคลที่สามก้าวเท้าออกจากห้องแล้วปิดประตูเสียงเบา

เหลือเพียงปรัตยากับภรรยาที่อยู่ด้วยกันลำพัง เธอเดินไปหาเขาก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเพื่อนั่งคุยกับสามี เธอหันใบหน้าข้างที่คิดว่าตัวเองสวยแล้วส่งสายตาให้เขาบ้าง แต่ปฏิกิริยาที่ได้กลับมาทำเอาแก้วเจ้าจอมหน้าชา รอยยิ้มจางหายไปในประโยคเดียวของเขา

“ไปกินข้าวกันค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel