บทที่๑...ไม่เคยสำคัญ (๑)
บทที่๑...ไม่เคยสำคัญ
มือหนาจับมั่นที่สะโพกมนขณะที่กระแทกกายเข้าไปในช่องทางแน่นไม่ยั้งแรง ก้นกลมกลึงเด้งรับกับแรงคลอเสียงครางที่ดังลั่นห้อง แขนเรียวยันพื้นเอาไว้ครางกระเส่ายามมือสากเอื้อมมากอบกุมทรวงอกของตนแล้วบีบเคล้นเต็มไม้เต็มมือ
เขาดึงเธอให้นั่งลงแทนท่าที่คล้ายกับการคลานเข่า กายบางนั่งทับตักหนาโดยที่ร่างกายของเราสองคนยังคงเชื่อมถึงกันและกัน หยาดเหงื่อไหลโทรมกายถึงในห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ หญิงสาวไม่อาจทานทนได้กับความเสียวกระสันที่ได้รับจากชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีอย่างถูกต้องตามนิตินัยและพฤตินัย เขาผู้เข้ามาปั่นป่วนหัวใจลามมาถึงร่างกายของเธอ
การร่วมรักของเราสองคนเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน...
ไม่ใช่สิ...มันคือการร่วมรักของหล่อนเพียงผู้เดียว
เพราะสำหรับเขาแล้วก็เป็นแค่เซ็กส์ไว้ระบายความใคร่เท่านั้น ไม่มีอารมณ์อื่นมาปะปนตามที่เขาเคยบอกเอาไว้
“อ่ะๆ พี่ใหญ่ ไม่ไหวแล้ว...” บอกเสียงพร่าจนเขาต้องผลักให้เธอนอนคว่ำลงบนเตียง ทุกครั้งที่ร่วมรักกันยามจะถึงจุดสูงสุดเป็นต้องจบลงที่ท่านี้ทุกครั้งไป คล้ายว่าเขาไม่อยากจะเห็นหน้ากันตอนที่กำลังร่วมรัก จนหลายครั้งที่เธอนึกน้อยใจแต่ก็ต้องหายเองเพราะเขาไม่คิดง้อ
การแต่งงานของเราไม่เหมือนคนรักอย่างคู่อื่น เพียงแค่เหมาะสมตามความเห็นของผู้ใหญ่เท่านั้น หล่อนมีความสุขต่างจากเขาที่แววตาเต็มไปด้วยความทุกข์ หนึ่งปีที่อยู่ด้วยกันมาเหมือนใช้ชีวิตเคียงข้างก้อนหิน
หวังว่าสักวันหนึ่ง...ก้อนหินจะมีหัวใจกับเขาบ้าง
“อือ ใกล้แล้ว” จบคำพูดนั้นก็กระแทกกายเข้ามาอย่างแรง เธอครางเสียงหลงพลันนิ่งไปเมื่อถึงจุดสุดยอดเช่นเดียวกัน ดวงตากลมพร่าเลือนจนต้องปิดเปลือกตา
ขณะที่เขาถอนกายออกพร้อมกับทิ้งถุงยางอนามัยลงถังขยะ เดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายไม่ได้ดูดำดูดีคนนอนบนเตียงสักนิด เธอต้องหยัดกายลุกมาสวมเสื้อคลุมแล้วนั่งรอเขาบนเตียง รอจนกระทั่งชายหนุ่มเดินออกมาจึงได้เข้าไปในห้องน้ำบ้าง
“คืนนี้เธอจะนอนห้องนี้เหรอ” ยังไม่ทันที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำ เขาก็ถามเสียงเรียบแต่คล้ายกับการบังคับให้ไปนอนอีกห้องที่จัดเตรียมไว้สำหรับหญิงสาวโดยเฉพาะ ปากอวบอิ่มเม้มแน่นขณะที่ขอบตาร้อนผ่าว
หนึ่งปีที่แต่งงานกันมา...เธอมีค่าแค่เป็นเครื่องระบายอารมณ์ของเขาใช่ไหม
อยู่ในโอวาทอย่างที่เขาบอกตลอด ว่านอนสอนง่ายจึงอยู่กันได้นานขนาดนี้ แต่น่าแปลกที่แม้เราจะอยู่บ้านหลังเดียวกัน กินข้าวด้วยกันและนอนด้วยกัน แล้วเหตุใดความสัมพันธ์จึงไม่พัฒนาเลย เหมือนย่ำอยู่ที่เดิม
ปรัตยา ฐิติยานนท์ นักธุรกิจพันล้านเจ้าของห้างสรรพสินค้าและโรงแรมหลายแห่งทั่วประเทศ ขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคเอเชีย ทั้งยังจับธุรกิจสนามกอล์ฟที่ขยายสาขากว่าห้าแห่งในกรุงเทพและเขตปริมณฑลพร้อมทั้งต่างจังหวัดตามหัวเมืองต่างๆ
เขามีอำนาจและบารมีที่สั่งสมมาจากการเข้ารับช่วงต่อธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ความน่าเกรงขามไม่ต่างจากบิดาสักนิด เพียงแค่ปรายตามองก็ทำเอาคนอื่นหวาดผวา เห็นจะมีเพียงคนเดียวที่เขายอมอ่อนข้อให้เธอ
ดาวประดับ ฐิติยานนท์ น้องสาวที่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยง ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดและครั้งที่เธอเพิ่งมาอยู่บ้านเขาก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด แต่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นความรู้สึกของเขาจึงเปลี่ยนไป กลายเป็นดูแลอยู่เคียงข้าง...พัฒนาเป็นความรัก
แต่ไม่อาจเคียงคู่ได้เพราะคำว่าพี่น้องที่ค้ำคอ
สุดท้ายเขาก็ต้องแต่งงานกับแก้วเจ้าจอม เลิศกรเกียรติ์ ลูกสาวเพื่อนพ่อที่รู้จักกันมาแต่เล็ก ความดื้อความซนของหล่อนโดนเขากำราบ จนกลายเป็นความภักดีและอยู่ในโอวาท เสนอตัวเองปรนเปรอถึงรู้เต็มอกว่าเขาไม่รัก
แล้วก็ได้ชายหนุ่มมาครอง...นอนกอดทะเบียนสมรสสมใจ
แต่ก็ไม่เคยได้หัวใจของเขา
“ค่ะ” ตอบเสียงหนักแน่นแล้วหันไปสบดวงตาคม ร่างหนาสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว ยืนจ้องหล่อนเช่นนั้นก่อนก้าวไปที่ตู้เสื้อผ้า แล้วตอบอย่างไม่ยีหระ