บท
ตั้งค่า

๒.๕ รักแท้ หรือแค่ลวง

“เดี๋ยวสิหนูดี อยู่ก่อนเถอะนะ พี่อยากอยู่กับหนูดีแบบนี้ไปนานๆ อย่าเอาแต่หนีพี่นักสิ”

คราวนี้เตชินท์เปลี่ยนจากการพูดยั่วยวนกวนอารมณ์ มาเป็นออดอ้อนด้วยเสียงทุ้มนุ่มชวนวาบหวาม ทำเอาอนุรดีที่กำลังจะลุกเกิดอาการลังเลขึ้นมาโดยพลัน

“ถ้าพี่เตไม่อยากให้หนูดีหนี พี่เตก็ห้ามพูดห้ามทำอะไรมักง่ายแบบนี้กับหนูดีอีก”

“แล้วถ้าพี่จะบอกว่าพี่ไม่ได้ทำเพราะความมักง่าย แต่ทำเพราะอยากทำล่ะ”

“มันต่างกันยังไงคะ”

“ความหมายของมันต่างกันชัดเจน ขึ้นอยู่กับว่าหนูดีจะอยากเชื่อหรืออยากเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง”

“หนูดีไม่เชื่อ และไม่เข้าใจค่ะ”

“ก็นั่นน่ะสิ เพราะฉะนั้นพี่ว่าพี่ทำดีกว่ามานั่งพูดกับคนไม่อยากรับรู้นะ”

“พี่เตจะตามตอแยหนูดีทำไมนักหนา” เธอตัดสินใจถามไปตรงๆ เพราะเตชินท์ชอบพูดกำกวมคล้ายกับจะบอกอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมาให้ชัดเสียที

“หนูดีไม่รู้จริงๆ น่ะเหรอว่าทำไม”

“รู้ค่ะ”

“รู้ว่า?”

“รู้ว่าพี่เตว่างมากและชอบหว่านเสน่ห์ แต่ทำไมต้องมาทำแบบนี้กับหนูดี ผู้หญิงอื่นมีตั้งมากมายที่เต็มใจจะให้พี่เตทำเล่นๆ ด้วย อย่างน้อยหนูดีก็อยู่ในฐานะน้องสาวของพี่เตนะคะ”

“พี่มีน้องสาวคนเดียวคือยัยตวง ส่วนหนูดีพี่ไม่เคยคิดว่าเป็นน้องสาว อีกอย่างกับผู้หญิงอื่นพี่อาจจะทำเล่นๆ แต่กับหนูดีพี่เอาจริง”

คำพูดประโยคนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ปราศจากอาการยั่วเย้าหรือขี้เล่นเหมือนเช่นที่ผ่านมา อนุรดีไม่รู้จะตอบโต้ยังไง นอกจากบอกตัวเองว่าให้ทำใจแข็งๆ ไว้ อย่าหวั่นไหวหรือเชื่อคำหวานของเขาง่ายนัก

ดูเหมือนว่าเตชินท์จะอ่านความคิดของเธอออก เพราะหลังจากวันนั้นเขาก็พาตัวเข้ามาใกล้ชิดกับเธอตลอด และทุกครั้งที่มีโอกาสได้อยู่กันตามลำพัง เขาก็ไม่เคยที่จะละโอกาสในการกอดจูบเธอเลยสักครั้ง จูบครั้งที่สาม สี่ ห้า หก และ เจ็ด แปด เก้า สิบ จึงตามมาแบบรัวๆ ซึ่งครั้งหลังๆ นี้เตชินท์ล้วนแต่จูบเธอแบบดูดดื่มเร่าร้อน ไม่เคยมีครั้งไหนที่ลิ้นของเขาไม่สอดส่ายเข้ามาในปากของเธอ และไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอไม่ได้สอดลิ้นเข้าไปในปากของเขา โดยที่อนุรดีไม่กล้าปริปากบอกผู้ใหญ่อย่างที่เคยพูดไว้แต่อย่างใด

ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางกายลึกซึ้งมากเกินกว่าพี่น้องหรือคนรู้จักกัน แต่กระนั้นสถานะระหว่างเขากับเธอคลุมเครือมาตลอด จนอนุรดีไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่าเตชินท์มีผู้หญิงมาพัวพันมากหน้าหลายตาแค่ไหน แม้แต่อาจารย์สาวๆ บางคน หรือผู้หญิงสวยๆ ระดับดาวมหาวิทยาลัย ก็ยังเป็นหนึ่งในคู่ควงจำนวนมากของเตชินท์เลย

จนกระทั่งวันนี้ วันที่เตชินท์บอกรักออกมาตรงๆ จากปากของเขา ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่บอกและย้ำถึงสองครั้ง ซึ่งเธอเองก็บอกเขาเป็นนัยๆ กลับไปแล้วว่า เธอเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขา มันเกิดขึ้นตอนไหน อนุรดีก็ไม่อาจหาคำตอบให้ตัวเองได้ อาจจะตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกเขาจูบ หรือก่อนที่เขาจะไปต่างประเทศ ที่เธอยังไม่รู้ว่าความรักคืออะไรด้วยซ้ำ ทว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหนก็ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าตอนนี้เขาและเธอต่างเปิดใจให้กันแล้ว ที่เหลือก็คงจะสุดแล้วแต่พรหมลิขิต

เย็นวันต่อมาพ่อกับแม่ของอนุรดีไม่อยู่บ้าน เพราะต้องไปงานแต่งงานของลูกสาวเพื่อนอาจารย์ที่สอนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับอาจารย์วิชัยยุทธ ทำให้อนุรดีต้องอยู่บ้านคนเดียว คุณปาริชาติจึงให้ตระการตามาตามอนุรดีไปทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกัน

แม้จะมีสาวน้อยข้างบ้านมาร่วมโต๊ะอาหารเย็นด้วย แต่สมาชิกครอบครัวของบ้านหลังใหญ่กลับอยู่กันไม่ครบ เพราะคุณไตรอยู่ระหว่างเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ อนุรดีไม่ได้รู้สึกขัดเขินอะไรที่ต้องร่วมโต๊ะอาหารกับครอบครัวของเตชินท์ เพราะเธอมาทานข้าวที่นี่ค่อนข้างบ่อยและคุ้นเคยกับทุกคนเป็นอย่างดี ยกเว้นใครเพียงคนเดียวซึ่งห่างเหินกันไปหลายปี และเพิ่งจะกลับมา ‘สนิทสนม’ กันเมื่อไม่นานมานี้เอง

“ทานเยอะๆ นะหนูดี วันนี้ป้าเข้าครัวเอง รู้ว่าอาจารย์วรรณกับอาจารย์ยุทธจะไม่อยู่บ้าน เลยทำแกงเทโพของโปรดของหนูดีเผื่อไว้ให้ด้วย” คุณปาริชาติบอกอย่างใจดี หลังจากสาวใช้ตั้งโต๊ะและตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว

“ขอบคุณคุณป้ามากเลยนะคะ แกงเทโพฝีมือคุณป้าอร่อยสุดๆ เป็นไปได้หนูดีอยากกินทุกวันเลยค่ะ”

“อยากกินก็มากินสิจ๊ะ ป้าทำให้หนูดีกินทุกวันก็ได้นะ”

“หนูดีก็อยากมานะคะ แต่ถ้ามารบกวนคุณป้าทุกวัน แม่ต้องเอาหนูดีตายแน่เลย ข้อหาไม่รู้จักเกรงใจผู้ใหญ่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel