บทที่ 3 ข่าวใหม่
“เราเริ่มประชุมกันได้แล้วครับ ทุกคนเสียใจ ผมก็เสียใจแต่หมอวิภาสก็จากเราไปแล้ว เราต้องทำหน้าที่ของเราต่อนะครับ”
“คุณเอกภพจะทำยังไงต่อไปครับ นายแพทย์ศัลฯเรามีคนเดียว”
แพทย์อาวุโสเป็นหนึ่งคณะกรรมการทั้งหมด 10 คน เอ่ยถามประธานกรรมการ เอกภพเตรียมคำตอบมาจากบ้าน อย่างไรต้องมีคนถามเรื่องนี้ เขาหงุดหงิดใจทุกครั้งเมื่อก้าวเข้ามาในห้องประชุมไม่เห็นหน้าธัญยธรณ์ รองประธานกรรมการ ชายหนุ่มทำตัวห่างจากสังคมเพื่อหาประสบการณ์ชีวิตในต่างแดน อนุญาตให้นายแพทย์กิตติทัต ทำหน้าที่ประชุมแทนทุกครั้ง กิตติทัตออกความคิดเห็นแทนรองประธานโดยบางเรื่องขัดแย้งต่อประธาน นี่คือสาเหตุของการไม่ถูกชะตากับนายแพทย์กิตติทัตและพาลโกรธรองประธานผู้ไร้ตัวตนในห้องประชุมไปด้วย
“ผมจะรับแพทย์ศัลฯคนใหม่มาประจำโรงพยาบาลเรา หมอกิตติทัตคงไม่ค้านผมนะครับเพราะถึงคุณคัดค้านแทนคุณธัญยธรณ์ก็ไม่มีประโยชน์ ทางโรงพยาบาลต้องการแพทย์ด่วน หมอคงเข้าใจนะครับ”
สายตาของเอกภพท้าทายบางอย่างกับคำถามของตัวเอง หมอกิตติทัต สบตาท่านประธานด้วยสายตาเช่นเดียวกัน รอยยิ้มประดับเพียงใบหน้าของเอกภพจางลง ใจเต้นแรงเมื่อหมอหนุ่มไม่หลบสายตาของตน
“ผมเข้าใจดีทุกอย่างครับ คุณธัญยธรณ์ไม่คัดค้านแต่อย่างใดครับ ท่านประธานสบายใจได้”
“ดีมากครับ งั้นเอาตามนี้ ผมจะเลือกหมอศัลฯจากโรงพยาบาลรัฐฯ เขาอาจมาทำงานให้เราแค่ช่วงเวลาว่าง ไม่ประจำเหมือนหมอวิภาส ผมมีเรื่องบอกแค่นี้ ส่วนเรื่องหมอวิภาส ผมเสียใจเหมือนทุกท่าน ถ้าใครมีปัญหาอะไร อย่าเก็บไว้คนเดียวนะครับ ปรึกษาเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัว ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข อย่าด่วนตัดสินใจอย่างหมอวิภาสนะครับ ผมฝากแค่นี้ เลิกประชุมครับ อ้อ.หมอกิตติทัต ผมขอคุยด้วยสักครู่นะครับ เลิกประชุมครับ”
ความโกรธยังกรุ่นอยู่ในใจ กิริยานิ่งเฉยของกิตติทัต บอกนัยบางอย่างให้เอกภพต้องขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
“หมอทัต ติดต่อคุณธัญได้บ้างมั้ย ผมพยายามติดต่อก็ไม่สำเร็จ”
“ไม่เลยครับ ผมอยากให้คุณธัญยธรณ์กลับมาเร็ว ๆ ผมขี้เกียจเข้าประชุมแทน”
การนั่งพิงพนักเก้าอี้ ๆ ในท่าสบาย ๆ สายตาจับอยู่ที่ปากกาในมือขณะหมุนไปเรื่อย ๆ นั้น ยิ่งเพิ่มความโกรธให้กับเอกภพ
“ทำไมครับ ประชุมแทนโก้ออกนะหมอ แทนท่านรองประธานด้วย เท่อย่าบอกใครเชียวนะ”
“ผมไม่ชอบ คุณจะถามผมแค่นี้ใช่มั้ย คนไข้รอตรวจอยู่ ผมขอตัว”
“อย่าโอหังให้มากนัก อย่าคิดว่าเพื่อนคุณมันจะอุ้มคุณไว้ได้นานนะ คราวหน้าถ้ามันไม่เข้าประชุมด้วยตัวเอง ผมจะขอคะแนนโหวต ให้นายธัญพ้นตำแหน่งรองประธาน”
“ตามสบายครับ ถ้าคุณธัญยธรณ์ติดต่อมา ผมจะบอกเขาให้นะครับ ผมขอตัว”
หากการคาดเดาของเขาแม่นอย่างนี้ เขาซื้อล็อตเตอร์รี่ถูกหลายงวดแล้ว เอกภพเรียกเขาไว้เพื่อให้เขานำคำพูดไม่น่าฟังส่งถึงธัญยธรณ์ เพื่อนรักของเขาและเป็นเพื่อนเอกภพตั้งแต่สมัยเรียน เอกภพไม่เคยชนะธัญยธรณ์สักครั้งเรื่องการเรียน รวมถึงความรักซึ่ง พิริยา เลือกคบกับธัญยธรณ์แม้ว่าเอกภพจะตามตื๊อหล่อน ซื้อของราคาแพงให้ พาไปทานอาหารร้านหรู หล่อนไม่ใจอ่อน ยอมให้เขาก้าวขึ้นมาเทียมธัญยธรณ์ นั่นเป็นมูลเหตุแห่งความร้าวของความเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน พิริยาไม่ให้โอกาสเอกภพแข่งกับธัญยธรณ์ หล่อนประกาศชัดว่า ธัญยธรณ์คือชายหนุ่มผู้มีสิทธิ์ครอบครองหัวใจทุกห้องของหล่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น
จากปริญญาตรีถึงปริญญาโท เอกภพพยายามแข่งธัญยธรณ์ ทุกเรื่อง เขาชนะในปีสุดท้ายของการเรียนปริญญาโทด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ส่วนธัญยธรณ์ได้อันดับสอง นั่นเป็นความภาคภูมิใจของเอกภพและเขาเลือกควงหญิงสาวไฮโซอวดเพื่อน ๆ รวมทั้งธัญยธรณ์ด้วย
เขาแต่งงานเมื่อต้นปี งานแต่งงานจัดยิ่งใหญ่สมเกียรติของนักการเมืองผู้มีเชื่อเสียงอย่าง อภิชน อิสราพรชัยแต่ปลายปีเดียวกัน วิรตี ขอหย่ากับเอกภพโดยให้เหตุผลกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า “ไปกันไม่ได้” ซึ่งนักข่าวไม่เชื่อ เริ่มขุดคุ้ยหาความจริงเพราะรอยช้ำบนใบหน้าวิรตี
การหย่าครั้งนั้นเพราะวิรตีทนกับการถูกทำร้ายร่างกายไม่ไหว เอกภพตบตีเมื่อภรรยาขัดใจทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเงิน เขาใช้เงินภรรยาลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อน ๆ ธุรกิจเจ๊งภายใน 3 เดือนและไม่มีเงินคืนหล่อนตามกำหนดเวลา เมื่อหล่อนเอ่ยปากทวงจึงทำร้ายจนสลบและหากหล่อนนำเรื่องนี้บอกตำรวจ เขาจะฆ่าหล่อน นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หล่อนไม่บอกกับใครแม้แต่พ่อแม่ของหล่อน
ความลับถูกเปิดเผย หลังจากวิรตีเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ เอกภพไม่ยอมรับทุกกรณีที่นักข่าวถาม เรื่องนี้เดือดร้อนถึงอภิชน ขอร้องให้นักข่าวยุติการเสนอข่าวของเอกภพในทางลบ ให้เสนอข่าวใหม่ ข่าวการเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลอิสราเวชต่อจากลุงซึ่งปลดเกษียณตัวเองเข้าวัดถือศีล ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติใด ๆ ของตระกูล
เอกภพคุยโวโอ้อวดกับเพื่อน ๆ ทุกคนและเชิญให้มาใช้บริการโรงพยาบาลของเขาแต่ความดีใจผ่านไปไม่ถึงเดือน ความโกรธแค้นเข้ามาแทนที่เมื่อ นายแพทย์ผดุงเดช วิริยะกุล ขอเปลี่ยนตัวรองประธานจากตัวเองเป็นหลานชาย