บทที่ 2 รอ
รถมอเตอร์ไซค์แล่นออกจากลานจอดรถ แสงไฟท้ายรถแดงวาบ น้ำฟ้าเลี้ยวรถตามเส้นทางด้านหลังโรงพยาบาลถึงถนนสายหลัก ใจยังคิดถึงห้องเก็บของ คิดถึงหมอวิภาส คิดถึงคนสั่งลูกน้อง
“พรุ่งนี้ฉันจะถามอาจารย์หมอ แต่..ไม่ถามดีกว่า น่าจะเป็นความลับ ไม่งั้นคงไม่ไปคุยกันในห้องเก็บของหรอกน่ะ ความลับอะไรนักหนาเชียว เฮ้ย.ไม่ยุ่ง ไม่ยุ่ง”
เช้าวันใหม่ ข่าวการเสียชีวิตของนายแพทย์วิภาส วิภาพรรณ แพร่สะพัดไปทั่วโรงพยาบาล น้ำฟ้าไม่ทราบข่าวนี้กระทั่งบ่าย 3 โมงเย็น
“ยายน้ำ รู้เรื่องรึยัง”
น้ำฟ้าเข้าทำงานในช่วงบ่าย เหลืออีก 2 วันจะเปลี่ยนเวรเป็นรอบเช้า ข่าวเศร้าสำหรับหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทุกคน จึงรู้แค่ในโรงพยาบาลเท่านั้น ประภาศรีเพื่อนร่วมงานและเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของน้ำฟ้า พยายามติดต่อน้ำฟ้าเพื่อส่งข่าวร้ายแต่ไม่สามารถติดต่อได้เพราะเพื่อนสาวปิดโทรศัพท์จนกว่าจะตื่นนั่นแหละจึงจะเปิดโทรศัพท์รับสายของเพื่อน ๆ
“เรื่องอะไร ทำไมทำหน้าตื่นยังงั้นล่ะ”
“อาจารย์หมอเสียแล้ว”
ประภาศรีตอบคำถามของเพื่อนพร้อมกับน้ำตาเอ่อเต็มลูกตาทั้ง 2 ข้าง น้ำตาไหลเป็นรอบที่เท่าไหร่หล่อนไม่สนใจสักนิด ความรัก เคารพในตัวหมอวิภาสเสมือนญาติผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง แนะนำพยาบาลตัวเล็ก ๆ อย่างหล่อน ให้รู้งานมากขึ้น สอนทั้งทางตรงและทางอ้อม เมื่อญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตจะให้กลั้นน้ำตาไว้อย่างนั้นหรือ หล่อนทำไม่ได้
“อาจารย์หมอ..อาจารย์หมอไหน หา หมอไหนเหรอศรี”
หากเวลานั้นหัวใจของน้ำฟ้าเต้นแรง มือเย็นเฉียบ คำตอบอยู่ในใจตัวเองขณะรอฟังคำยืนยันจากปากของเพื่อนรัก ประภาศรีเอ่ยออกมาฟังแทบไม่ได้ยิน
“หมอวิภาส”
“...!”
อาการช็อคเกิดขึ้นฉับพลันแม้เพียง 10 วินาที ขนหัวลุกจนรู้สึก ขนแขนตั้งจนต้องใช้มือลูบแขนตัวเองสลับกัน เมื่อคืนนี้ เมื่อคืน...หญิงสาวหยุดคิดเพียงแค่นั้น เท้าพาหล่อนก้าวเร็ว ๆ ตรงไปยังห้องเก็บของ
“แกจะไปไหนน้ำ”
“ไปห้องเก็บของ”
“เฮ้ย.ไปทำไม แกรู้เหรอว่าอาจารย์หมอเสียที่นั่น ใครบอกแก..”
ประภาศรีวิ่งตามน้ำฟ้า ฉุดแขนรั้งไว้ ใครก็เข้าไปบริเวณนั้นไม่ได้ ที่สำคัญ น้ำฟ้าต้องไม่ไปปรากฏตัวที่นั่น
“อะไรนะ อาจารย์หมอเสียที่นั่นจริง ๆ เหรอศรี”
ยิ่งตอกย้ำภาพเมื่อคืนชัดเจนกว่าเดิม คำสั่งของเขาคนนั้น ให้ลูกน้องสองคนเฝ้าดูความเรียบร้อยแล้วไปรายงานเขา ใช่.แล้ว พวกเขาฆ่าอาจารย์หมอวิภาส พวกเขา...
“พวกมันฆ่าอาจารย์หมอ”
ทุกสรรพสิ่งรอบ ๆ ร่างบาง เหมือนจะเคลื่อนไหวช้าลงในทันทีเมื่อเสียงของหล่อนดังออกมา ประภาศรีลืมว่าจะห้ามเพื่อนอย่างไร เจ้าหน้าที่กำลังเดินผ่านสองสาวเหลียวมองอย่างสงสัยและชายหนุ่มกำลังจะเดินเลี้ยวมุมตึก ต้องชะงักเท้าหยุดนิ่ง
ดวงตายาวรีหรี่ลงเล็กน้อย ประกายในดวงตาไหววับ มือค่อย ๆ กำอย่างลืมตัว เท้าก้าวต่อจนถึงมุมตึกและหยุดยืนอีกครั้ง สายตาพุ่งตรงไปข้างหน้า ภาพสองสาวกำลังฉุดดึงกันและกัน คนสูงจะเดินมาทางมุมตึก คนต่ำกว่าเล็กน้อยดึงแขนให้กลับเข้าตัวตึกใหญ่
“เห็นได้ยังไง” ความระแวงเกิดขึ้นเมื่อคำพูดของหญิงสาวย้อนกลับมาในสมองอีกครั้ง
“พวกมันฆ่าอาจารย์หมอ”
“ในเมื่อเธอเห็น ฉันก็ต้องจัดการความระแวงของฉันให้หมดจากใจแล้วละ”
ร่างสูงหมุนตัวก้าวกลับไปทางเดิม การประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เขาเข้าห้องประชุมช้าไปสัก 10 นาที คงไม่เป็นไรกระมัง
ผู้บริหารโรงพยาบาลเข้ามารวมในห้องประชุมของโรงพยาบาล การเสียชีวิตของนายแพทย์ศัลยกรรม อันดับหนึ่งของโรงพยาบาล นำมาซึ่งความโศกเศร้าของทุกคน เพื่อนร่วมงาน แพทย์รุ่นน้องและแพทย์ผู้เคยเป็นลูกศิษย์ ยังอยู่ในอาการเสียใจ ไม่มีใครถามหรือพูดคุยเช่นทุกครั้งขณะเข้ามารอฟังการประชุม ห้องทั้งห้องจึงเงียบสนิท
เอกภพ อิสราพรชัย ลูกชายนักการเมืองชื่อดังของประเทศ เป็นประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลอิสราเวช เขาเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องประชุม ไม่แปลกใจกับความเงียบ ทุกคนยังช็อกกับการจากไปของนายแพทย์วิภาส ความสงสัยมีอยู่ในใจของทุกคนแต่ไม่มีใครเอ่ยปาก ความคลางแคลงในการเสียชีวิต ไม่ถูกถามและตั้งข้อสงสัยใด ๆ จดหมายลาลูก ภรรยาและเพื่อน ๆ ช่วยให้หลายคนเลิกระแวง เลิกสงสัยแต่ยังมีคนสงสัยเรื่องนี้โดยไม่ปริปากถามใครหรือปรึกษากับนายแพทย์รุ่นพี่คนไหน เขาเก็บความสงสัยไว้เพียงลำพัง เขาอยากปรึกษาใครบางคน รอให้คน ๆ นั้นกลับมาก่อนเถอะ