บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 คำสั่ง

หญิงสาวลืมทุกสิ่งอย่างอยู่รอบข้าง เรื่องอื่นใดก็ไร้สาระ ไม่มีความสำคัญเท่าชีวิต ในวินาทีนี้ รองเท้าผ้าใบกลางเก่ากลางใหม่ ไม่มียี่ห้อ จำได้ว่าซื้อมาจากตลาดนัดใกล้หอพัก ราคา 199 บาท ใส่ได้นุ่มเท้า พอดีกับเท้าและมันกลายเป็นรองเท้าคู่ใจ คู่ใหม่แทนคู่เก่าซึ่งขาดวิ่นแทบปิดปลายนิ้วเท้าทั้ง 5 นิ้วไม่มิด

เท้าก้าวเหยียบพื้นดินอย่างมั่นคง ก้าวตามแรงโถมลงบนพื้นเป็นจังหวะขณะหัวใจเต้นรัว ทั้งเหนื่อยและกลัว หยุดไม่ได้ อย่างไรก็หยุดไม่ได้ หากก้าวพลาดล้มลงหรือหยุดเพื่อให้คลายความเหนื่อยบ้าง ชีวิตของหล่อนอาจจบสิ้นในวินาทีนั้น หยุดไม่ได้จริง ๆ

“หยุดนะ หยุด กูบอกให้หยุด”

เสียงไล่ตามหลังมาแม้จะห่างอยู่มาก มันก็ดังชัดเจน มันดังก้องอยู่ในโสตประสาทของหล่อนเมื่อ 30 วินาทีที่ผ่านมา หล่อนกำลังเคลิ้มหลับ อยู่ ๆ ประตูห้องถูกเคาะแบบไม่เกรงใจ เคาะรัวและหยุด

“เปิดประตู ออกมาคุยกันหน่อย”

เสียงห้วนเป็นเสียงผู้ชายและจากน้ำเสียงนั้น บอกให้เจ้าของห้องรู้โดยไม่ต้องฟังซ้ำว่า คนเคาะประตูไม่ได้มาอย่างมิตร เท่านั้นเอง สมองของน้ำฟ้าสั่งการโดยอัตโนมัติ

“อันตราย หนี...”

ผ้าห่มสลัดพ้นตัว เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเป็นชุดนอนประจำไม่ต้องเปลี่ยน รองเท้าผ้าใบสวมอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาหยิบของติดตัวยกเว้น สร้อยทองที่เคยสวมวางอยู่บนหัวเตียง พระเครื่ององค์เล็กติดอยู่กับสร้อย หล่อนคว้าสวมลงทางศีรษะ มองหาอาวุธป้องกันตัว ไม่มีอะไรสักอย่าง

“เปิดประตูมาคุยกันหน่อยสิจ๊ะที่รัก”

เสียงเคาะตามด้วยเสียงห้าวดังขึ้นอีก คราวนี้เปลี่ยนหางเสียงเป็นเสมือนคนคุ้นเคย ข้างห้องคงสงสัยใครเคาะประตูดังราวกับกำแพงจะถล่ม เสียงนั้นจึงลดความห้าวลงบ้างแต่มันไม่ได้ทำให้น้ำฟ้ารู้สึกดีสักนิด

“เปิดประตู”

แม้เสียงจะเบาแต่เนื้อเสียงกำลังโกรธ หากไม่มีเสียงตอบออกไป การบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจเกิดขึ้น

“จ้า เปิดแล้วจ้า”

วินาทีนั้น น้ำฟ้าไม่คิดอะไรอีกแล้วนอกจากเตรียมพร้อมหนี สมองสั่งให้ทำอย่างนั้น เพื่อยืดอายุลมหายใจและทันทีที่กลอนปลดล็อค ลูกบิดหมุน บานประตูเปิดผลัวะออกไปกระแทกกับคนอยู่ด้านนอกเต็มพลังของคนในห้องผลักออกมา

“โอ๊ย..”

ไม่เพียงเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เสียงล้มกลิ้งตึงตังดังเกือบพร้อม ๆ กันและร่างบางโผกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางหน้าประตู

“วิ่งสุดชีวิต...”

คำสั่งบอกตัวเองเบามาก ร่างกายปฏิบัติตามไม่เบา รองเท้าแตะพื้นไม่เต็มเท้า วิ่งลงบันไดรวดเดียว ลืมหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง สมองมีคำว่า อันตราย ๆ เท่านั้นในเวลานี้ ฝีเท้าไล่ตามหลังมา คิดตามระยะเสียงเท้ากระทบกับพื้น อยู่ไม่ไกลจากตัวหล่อนเท่าไรนัก

สายตามองฝ่าความมืดซึ่งบัดนี้ เท้าพาร่างพ้นรั้วหอพัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าประตูรั้วคงเพิ่งตื่น หน้าตางง ๆ กว่าจะเดินออกมาพ้นป้อมยาม อะไรแวบ ๆ ก็ผ่านรั้วไปแล้วแต่คนวิ่งตามมาถูก รปภ.ขวางไว้แต่

“ไม่ต้องเสือก”

คนวิ่งนำหน้า ผลัก รปภ.กระเด็นไปทางหนึ่ง คนที่สองและสามกระทืบซ้ำและวิ่งผ่านตามหัวหน้าของมันออกมา

น้ำฟ้าเหลียวมองข้างหลังแวบเดียวเท่านั้น เงาคนวิ่งตามมา ช่วยเร่งฝีเท้าของหล่อนสับเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว สามคนนั้นตามล่าหล่อนทำไม เขาเคาะประตูผิดหรือเปล่า น่าจะเป็นคนข้างห้องมั้ย คำถามเหล่านั้นผุดขึ้นมาแต่ไม่มีคำตอบและไม่หยุดถามพวกมัน แวบหนึ่ง ภาพเมื่อคืนวานผ่านเข้ามาในความทรงจำ

“ผมขอร้อง อย่าทำอะไรลูกเมียผม ผมยอมแล้ว ผมจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อน ผมขอชีวิตลูกเมียผม พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้”

“ก็ได้ งั้นจัดการตัวเองก็แล้วกัน เขียนจดหมายลาไว้ด้วยล่ะ เพื่อยืนยันว่าอาไม่ทำให้ผมเดือดร้อน ถ้าไม่เขียน คงรู้นะว่าลูกเมียอาจะเป็นยังไง”

กลุ่มคน 5 คนเดินออกมาจากห้องเก็บของโรงพยาบาลซึ่งอยู่ด้านหลัง ใกล้กับลานจอดรถพนักงาน น้ำฟ้ากำลังจะเดินผ่านห้องเก็บของ ได้ยินเสียงคนคุยกันจึงย่องเข้าไปดูตามรอแย้มของประตู นายแพทย์ศัลยกรรมประจำโรงพยาบาล ยืนค้อมตัวเล็กน้อย ตรงหน้าเขาคือชายหนุ่มหน้าตาดีกับชายวัยไล่เลี่ยกัน 4 คน

แม้ไม่ได้ยินเสียงชัดนักแต่ต้องเป็นเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นสีหน้าของอาจารย์หมอวิภาสไม่เศร้าอย่างนี้

“ทำไมต้องมาคุยในห้องเก็บของด้วย สั่งงานอะไรในนี้ แปลกแฮะ”

ความสงสัยระคนแปลกใจวิ่งวุ่นอยู่ในใจ อยากเข้าไปถามวิภาสแต่ต้องรีบหลบเพราะประตูเปิดกว้างออก พวกนั้นเห็นหล่อนไม่ได้ กลั้นหายใจและยืนนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

“อยู่ตรงนี้สองคน รอให้ไฟในห้องดับก่อน ค่อยกลับไปรายงานฉัน ส่วนแกสามคนตามมา”

เสียงสั่งในมุมสลัวเลยลานจอดรถ อีก 2 คนเฝ้าหน้าห้องเก็บของ เฝ้าทำไม รอให้ไฟดับ รอทำไม วิภาสไม่ออกมาหรือ อยู่ในนั้นทำไม คำถามไหลออกมาเป็นระรอกแต่หล่อนต้องรีบกลับไปนอนและต้องไปก่อน 2 คนนั้นจะกลับมายืนเฝ้าหน้าห้องเก็บของตามคำสั่งนาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel