บท
ตั้งค่า

4 – ตายไปจากกัน

คนของหงสาเจอมะลิลาก่อน และด้วยความเป็นห่วงลูกสาว หงสาให้คนของตัวเองพามะลิลาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อตรวจร่างกายให้ละเอียด พอตรวจอย่างละเอียดหงสาและหัสดินก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาลพอดีพร้อมกับคุณหมอรายงานอาการ และที่ทำให้ทั้งสองพ่อลูกต้องหันมาสบตากันก็เมื่อคุณหมอบอกว่า ‘เด็กในท้องก็ปลอดภัย’ สองมือเหี่ยวย่นของหงสากำแน่นเข้าหากันด้วยดวงตาวาวโรจน์ ส่วนหัสดินแทบอยากไปอัดหน้าของพัดยศให้แหลก

“ผมทนไม่ไหวแล้วนะพ่อ มันทำร้ายยัยหอมมากเกินไปแล้ว ผมจะฆ่ามัน!” หัสดินเอ่ยกับคนเป็นพ่อด้วยโทสะ

“อย่าวู่วามหิน ตอนนี้คนที่เราต้องห่วงที่สุดคือยัยหอมกับหลานของพ่อและแกในท้องของยัยหอม”

“หลานของผมต้องไม่มีพ่อระยำแบบมัน! และไม่รู้มันจะแต่งงานกับยัยหอมทำไม ถ้าจะรับผิดชอบด้วยทะเบียนสมรสก็อย่าทำ เพราะตัวและหัวใจมันอยู่กับผู้หญิงคนอื่น” หัสดินพูดพร้อมกำหมัดแน่น

“เก็บอารมณ์ของตัวเองแล้วเข้าไปดูน้องสาวเราก่อนเถอะ” พูดจบหงสาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติทั้งๆ ที่ในอกนั้นเต็มไปด้วยไฟโกรธลูกชายบุญธรรมของตัวเอง แต่ก็เดินเข้าไปหาลูกสาวในห้องพักฟื้นพร้อมกับมีไม้เท้าพยุงเดิน ส่วนหัสดินก็ได้แต่ยืนลูบหน้าตัวเองแรงๆ แล้วทุบหมัดเข้าผนังตรงหน้าแล้วเดินตามพ่อไปด้วยใบหน้าที่เป็นปกติ แต่ในใจนั้นร้อนดั่งไฟโลกีย์

“เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนรึเปล่าฮึ” น้ำเสียงอ่อนโยนต่างจากก่อนหน้านี้และสีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงลูกสาวของตนเองออกมาชัดเจนจนทำให้มะลิลาน้ำตาคลอแล้วลุกขึ้นโถมกายเข้ากอดคนเป็นพ่อที่นั่งลงเก้าอี้ข้างเตียงพักฟื้นของตัวเอง

ฮือๆๆ

“พ่อ...อึก! หอมคิดว่าหอมจะไม่ได้เจอพ่อกับพี่หินแล้ว” เธอซบหน้ากับอกพ่อพร้อมกับพ่อของเธอใช้แขนอีกข้างที่ว่างจากถือไม้เท้าตวัดโอบกอดและหัสดินที่เดินตามมาหยุดยืนข้างพ่อก็ยกมือขึ้นลูบหัวน้องสาวด้วยใจที่ปวดร้าวเมื่อได้เห็นน้ำตาของมะลิลาที่เป็นหัวใจของตัวเองและพ่อ

“ร้องออกมาลูก ร้องออกมา หอมมีพ่อกับมีพี่หินนะลูก ร้องออกมาเถอะ คนดีของพ่อ” มือเหี่ยวย่นลูบแผ่นหลังเล็กที่ไหวสะอื้นพร้อมบอกปลอบ หัสดินก็ลูบหัวทุยเล็กปลอบด้วย

ฮือๆๆๆ

คนที่เฉียดความตายมาได้แต่บอกตัวเองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะร้องไห้และทำตัวอ่อนแอให้พ่อกับพี่ชายเป็นห่วง และเธอก็ตั้งใจแล้วจะปล่อยพัดยศให้เป็นอิสระ จะปล่อยให้เขาไปมีความสุขกับเพณิตา เป็นเธอเองที่ผิด เป็นเธอเองที่เข้ามาขัดขวางเส้นทางรักของทั้งสอง

“หอมรู้ไหมว่าตอนนี้หอมกำลังจะเป็นแม่คนแล้วนะลูก” เมื่อลูกสาวดันตัวเองออกจากอ้อมกอดพร้อมกับมือเหี่ยวย่นซับเช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแก้มออกให้อย่างอ่อนโยน

“หอมรู้ค่ะพ่อ หอมรู้ว่าหอมกำลังจะเป็นแม่คน”

“แล้วไอ้ยศมันรู้รึยังล่ะ แล้วหอมทำไมร้องไห้ก่อนหน้านี้ หอมไปไหนมา แล้วไปทำ...ตุ้บ!” คนหัวร้อนถามน้องสาวและคนเป็นพ่อก็กระแทกไม้เท้าในมือกับพื้นห้ามไม่ให้พูดต่อ หัสดินจึงนิ่งเงียบไป

“เรื่องลูกเหรอคะ ยังค่ะพี่หิน และคุณยศเขาไม่จำเป็นต้องรู้ค่ะ ลูกของหอม หอมจะเลี้ยงเขาเอง และไม่ต้องบอกเขานะคะว่าวันนี้หอมเกิดอุบัติเหตุ หอมเหนื่อยแล้วค่ะ หอมอยากมีชีวิตใหม่ อยากเริ่มต้นใหม่ค่ะพ่อ พี่หิน และเรื่องลูกในท้อง หอมขอร้องพ่อกับพี่หินนะคะ ห้ามบอกคุณยศ หอมไม่อยากให้เขารู้เรื่องลูกค่ะ หอมจะไปเริ่มต้นใหม่” คำพูดของมะลิลาทำให้หงสากับหัสดินมองสบตากันพร้อมขมวดคิ้วไม่เข้าใจในความหมายของมะลิลา

มะลิลาเห็นสีหน้าของพ่อและพี่ชายมึนงงไม่เข้าใจ เธอก็เอ่ยพูดต่อในสิ่งที่ตัวเองคิดมาตลอดตั้งแต่ได้รับการตรวจเช็กสภาพร่างกายของตัวเองและลูกน้อยในท้องที่ยังปลอดภัยอยู่

“หอมอยากเป็นคนใหม่ ให้หอมคนนี้และคนเมื่อวานตายไปจากโลกนี้ได้ไหมคะ อุบัติเหตุครั้งนี้หอมรู้ว่าพ่อกับพี่หินปิดบังความจริงได้ แต่สร้างเรื่องขึ้นมาใหม่ว่าหอมได้ประสบอุบัติเหตุในวันนี้และจากทุกคนไปแล้ว และตัวหอมจะไปเริ่มต้นใหม่ หอมจะเป็นคนใหม่ หอมอยากเป็นคนที่เข้มแข็งกว่านี้ค่ะ ถ้าหอมยังอยู่ตรงนี้ อยู่แบบนี้ หอมคงทำให้พ่อกับพี่หินเป็นห่วงตลอด ให้หอมได้ไปอยู่ที่ใหม่ เริ่มต้นใหม่นะคะพ่อ พี่หิน”

หงสาเข้าใจในความหมายของลูกสาวแล้ว และหัสดินเองก็เข้าใจในความหมายของน้องสาวแล้วเช่นกัน

“หอมแน่ใจนะว่าจะจากไปแบบนี้ แล้วหลานของพี่ล่ะ หอมจะเอายังไง” หัสดินยังคงห่วงและเพิ่มมาอีกห่วงคือหลานน้อยในท้องของน้องสาว

“พี่หินไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หอมจะดูแลลูกอย่างดี และพ่อของเขาต้องไม่รู้ว่ามีเขาในโลกนี้ จากวันนี้ไปหอมกับคุณยศจะเป็นแค่อดีตของกันและกัน เขามีคนที่เขารัก หอมก็จะปล่อยเขาไป สิ่งที่เกิดขึ้นกับหอมและคุณยศ หอมจะคิดว่าชาติที่แล้วหอมติดค้างเขา ชาตินี้หอมเลยต้องชดใช้ให้เขาแบบนี้” เธอบอกพี่ชายและพ่อ

“ถ้าหอมคิดมาดีแล้ว พ่อจะจัดการให้ตามที่หอมต้องการ เรื่องนี้พ่อเองก็ผิด ผิดที่ไปบังคับให้ไอ้ยศมันรับผิดชอบลูกของพ่อ จนทำให้หอมมีแผลเหวอะหวะแบบนี้ พ่อขอโทษลูกรัก” หงสาลูบแก้มนวลเนียนลูกสาวพร้อมกับหันไปสั่งลูกชายต่อ “ไปจัดการตามที่น้องต้องการได้แล้วหิน”

“ครับพ่อ หอมไม่ต้องห่วงนะ พี่จะจัดการให้เราตามที่เราต้องการ” หัสดินรับคำและบอกน้องสาว

“ขอบคุณนะคะพี่หิน และหอมอยากขอร้องพี่หินอีกอย่าง อย่าไปทำร้ายคุณยศเขา ให้มันจบตรงนี้ได้ไหมคะ พ่อเองก็ด้วย อย่าไปทำร้ายเขา ปล่อยเขาไปใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการเถอะค่ะ” เธอรู้นิสัยของพี่ชายและพ่อดีจึงเอ่ยขอร้องและนั่นทำให้หงสาและหัสดินพากันพยักหน้ารับคำขอร้องของลูกสาวอย่างจำยอม เพราะไม่อาจปฏิเสธได้

“พี่ไปนะหอม” ก่อนจะเดินจากไปหัสดินโอบกอดน้องสาวพร้อมก้มลงมาหอมกระหม่อมน้องสาว ก่อนจะเดินจากไปทิ้งเหลือแต่พ่อและน้องสาวในห้องกันตามลำพัง

“หอมคิดดีแล้วใช่ไหมลูก?” หงสาถามย้ำอีกครั้ง เพราะเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันและพูดต่อ “จริงๆ หอมไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ พ่อจัดการกับไอ้ยศให้ลูกได้และผู้หญิงของมันก็ด้วย”

“หอมคิดดีแล้วค่ะพ่อ และอย่าทำแบบนั้นเลยค่ะพ่อ มันบาป อีกอย่างตอนนี้คุณพ่อกำลังจะเป็นคุณตาแล้วนะคะ ถือว่าปล่อยเขาทั้งสองไปเถอะค่ะ เป็นหอมเองที่เข้าไปวุ่นวายในชีวิตของเขาทั้งสอง” เธอบอกพ่อ

“ลูกสาวพ่อ...” แล้วหงสาก็รวบร่างน้อยของลูกสาวเข้ามากอดแนบแน่น มะลิลาเองก็กอดตอบคนเป็นพ่อเช่นกันพร้อมกับปล่อยเสียงสะอื้นไห้ดังออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มต้นใหม่ และเธอสัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอจะเป็นคนใหม่ และทุกคนจะไม่ได้เห็นน้ำตาของเธออีกต่อไป

พัดยศไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง เมื่อหัสดินได้โทรมาบอกว่ามะลิลาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เขาไม่อยากเชื่อกับข่าวที่เพิ่งได้รับจากหัสดิน และยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของเขามันเจ็บหน่วงอย่างบอกไม่ถูกว่ารู้สึกเสียใจกับการจากไปของมะลิลาหรือว่าดีใจกันแน่ที่ตัวเองจะได้เป็นอิสระ ตั้งแต่วันนั้นที่ร้านกระเป๋า เขาก็ไม่ได้เจอหน้าของเจ้าหล่อนอีกเลย ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยโผล่หน้าไปบ้านสักครั้งหลังแต่งงานกัน

“เป็นอะไรคะพี่ยศ” เพณิตาถามแฟนหนุ่มที่ยกมือกุมขมับ ก่อนหน้านี้เธอรู้แต่ว่าเขาคุยโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร

“หอมตายแล้วกี้” พัดยศเงยหน้าขึ้นบอกแฟนสาวที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าตัวเองพร้อมกับมือใหญ่คว้าจับมือเล็กมาบีบแน่น

“ว่าไงนะคะ เกิดอะไรขึ้นคะ” หล่อนถามเสียงดังพร้อมกับดึงมือออกจากอุ้งมือหนาของแฟนหนุ่มมาทาบอกตัวเองทั้งๆ ที่ในใจนั้นยิ้มดีใจกับเรื่องที่ได้ทราบ และเรื่องวันนี้ที่มะลิลามาหาพัดยศจะถูกปิดตายไปกับชีวิตอันน่าสงสารของมะลิลา ให้มันตายไปพร้อมกับเธอและลูกในท้องของหญิงสาว และวันนี้เธอก็สั่งทุกคนที่บริษัทของพัดยศให้เก็บเป็นความลับด้วยเรื่องที่มะลิลามาที่บริษัท

“ผมไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ไอ้หินพี่ชายเธอโทรมาบอกแค่ว่าเกิดอุบัติเหตุ และตอนนี้ศพก็ตั้งอยู่ที่วัด…แล้ว ไอ้หินบอกว่าไม่ได้เอาไว้หลายวัน จะเผาพรุ่งนี้” พัดยศบอกแฟนสาว

“ไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่ามันจะเป็นเรื่องจริง พรุ่งนี้พี่ยศไปลาเธอครั้งสุดท้ายหน่อยนะคะ” หล่อนแสร้งเป็นคนดีเห็นใจคนที่จากไป ทั้งๆ ที่ใจจริงไม่อยากให้พัดยศไปเลยสักนิด

“ครับ พี่จะไปส่งเธอครั้งสุดท้าย อย่างน้อยพี่กับเธอก็เป็นผัวเมียกัน” เขาบอกตอบ

“ให้กี้ไปด้วยไหมคะพรุ่งนี้”

“พี่ไปคนเดียวได้ แค่ไปลาเธอเท่านั้นเอง”

“อือ...งั้นวันนี้พี่ยศจะไปไหว้ศพเธอที่วัดไหมคะ?”

“ไม่ล่ะ ไปพรุ่งนี้ตอนเผาทีเดียวดีกว่า” และมันเป็นคำตอบที่ทำให้เพณิตายกยิ้มพึงพอใจกับคำพูดของพัดยศ แต่พัดยศไม่มีโอกาสได้เห็นยิ้มของนางมารร้ายตนนี้

“งั้นเราก็กลับกันเถอะค่ะ เนี่ยก็เลยเวลาเลิกงานมาเยอะแล้วค่ะ”

“แล้วดินเนอร์คืนนี้?”

“ไม่ไปแล้วค่ะ กี้รู้นะคะ ถึงแม้ว่าคุณยศไม่ได้รักเด็กคนนั้น แต่ก็เห็นเธอมาตั้งแต่เด็ก คงรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น”

“ขอบคุณนะครับที่เข้าใจพี่ ขอบคุณนะกี้”

“เพราะกี้รักพี่ยศไงล่ะคะ ไปกันเถอะค่ะ วันนี้กี้ทำอาหารให้ทานเอง” แล้วหล่อนก็เดินอ้อมมาฉุดดึงร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้นยืนแล้วเก็บกระเป๋าข้าวของสำคัญของเขาใส่กระเป๋าให้แล้วฉุดดึงพาออกจากห้องทำงานไป ส่วนพัดยศก็ยอมให้เพณิตาดึงลากไปตามใจ เพราะตอนนี้จิตใจของเขามันวุ่นวายสับสนไปหมดว่ารู้สึกยังไงกันแน่กับการจากไปของมะลิลา แต่ที่รู้ตอนนี้คือเขาเจ็บหน่วงในอก แต่บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงรู้สึกเจ็บหน่วงเหมือนใจจะขาดแบบนี้ก็ไม่รู้

งานศพที่ไร้ศพถูกจัดขึ้นเงียบๆ มีเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้นที่มาร่วมงานศพในครั้งนี้ และเมื่อทุกคนวางดอกไม้จันทน์หน้าเมรุกันหมดทุกคนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหงสา หัสดิน และคนรับใช้ในบ้านสิบกว่าคนและบอดี้การ์ดอีกยี่สิบกว่าคนที่มาวางดอกไม้จันทน์ และปิดท้ายด้วยพัดยศ

“ผมมาลาคุณครั้งสุดท้ายแล้วนะหอม” มือใหญ่วางช่อดอกไม้จันทน์หน้าแท่นเมรุอย่างเบามือพร้อมหันไปมองรูปของภรรยาที่ตั้งอยู่ข้างๆ แท่นดอกไม้ แล้วมืออีกข้างที่ว่างก็ยกขึ้นปาดเช็ดน้ำตาที่กำลังจะหยดไหลทิ้ง แม้ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ว่าเป็นยังไง แต่ก็มั่นใจว่าไม่ได้ดีใจแน่ที่มะลิลาจากไป

“เพราะแก! เพราะแกคนเดียวทำให้ยัยหอมต้องจากไปแบบนี้” เสียงห้าวแข็งกระด้างดังขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่กระโจนเข้าหาน้องเขยที่ไม่เคยมีตัวตนในสายตาครอบครัวตัวเอง หากไม่ใช่งานศพน้องสาวก็คงไม่โผล่หน้ามา แต่ยังไม่ถึงตัวของน้องเขยก็ถูกญาติคนอื่นๆ กอดรั้งไว้

“พอได้แล้วตาหิน” เสียงทุ้มของชายชราดังขึ้นห้ามปรามลูกชาย เพื่อให้นึกถึงคำขอร้องของลูกสาวของตนเอง ซึ่งหงสากับหัสดินก็สัญญากับมะลิลาแล้วว่าจะไม่ทำร้ายพัดยศ หลังจากวันนี้ไปจะต่างคนต่างอยู่อย่างที่มะลิลาต้องการอยากให้เป็น

“คุณท่าน ผมขอโทษ” พัดยศเอ่ยขอโทษพร้อมย่อตัวคุกเข่ากับพื้นหน้าแท่นดอกไม้จันทน์ แต่หงสาไม่ได้สนใจจะมอง เขาเดินหนีคนที่นั่งคุกเข่าตรงหน้าตัวเองไปนั่งในศาลา เพราะหากยังอยู่ตรงนี้คงได้เอาไม้เท้าในมือฟาดทุบอีกฝ่ายแน่นอน

“คำขอโทษของมึงมันสายไปแล้วไอ้ยศ พูดไปน้องกูก็ไม่กลับมาแล้วไอ้เชี่ย!”

หัสดินผลักอีกฝ่ายออกไปให้พ้นทางเดินตัวเองแล้วเดินตามพ่อไปนั่งในศาลา ส่วนพัดยศก็หันไปมองรูปของมะลิลาแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนี้

อีกมุมหนึ่งของวัด หญิงสาวที่มีหน้าตาคล้ายรูปตั้งหน้าเมรุพร้อมเผานั้นยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาตัวเองที่หลั่งรินไม่หยุด ใช่...นั่นคือ ‘งานศพของเธอ’ ที่ถูกจัดขึ้นเพื่ออำลาเธอครั้งสุดท้าย

“มันสายไปแล้วคุณยศ เรื่องของเรามันจบตั้งแต่ที่คุณเลือกผู้หญิงคนนั้นแล้ว” เธอพึมพำกับตัวเองแล้วตวัดผ้าที่คล้องคอขึ้นมาคลุมหน้าเดินออกจากมุมวัดไปเงียบๆ พร้อมกับโลงศพที่ไร้ศพถูกส่งเข้าเมรุ แล้วควันโขมงก็ลอยออกจากปล่องเมรุ…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel