บท
ตั้งค่า

1 - จุดเริ่มต้น

ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!

เสียงไม้เท้าที่ใช้พยุงเดินดังกระทบพื้นทำให้เจ้าของห้องที่นอนหลับสนิทตื่นขึ้นมา และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าเครียดตึงของผู้มีพระคุณที่กำลังจดจ้องมาทางตนเองพร้อมกับปากของท่านเม้มแน่นเป็นเส้นตรง นั่นแหละทำให้เขารีบสลัดไล่ความมึนงง

“คุณท่าน!”

“แต่งตัวแล้วออกไปคุยกับฉันที่ห้องทำงาน และปลุกยัยหอมด้วย”

ชายวัยเจ็ดสิบเอ็ดเอ่ยสั่งเสียงเย็นพร้อมกับมองไปยังลูกสาวตัวเองที่หลับสนิท ในตอนแรกที่เดินผ่านหน้าห้องของลูกชายบุญธรรมก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอเห็นว่าประตูห้องเปิดแง้มอยู่เลยผลักเปิดเข้ามาดู เพราะปกติแล้วเจ้าของห้องไม่ค่อยได้กลับมาค้างที่นี่เท่าไหร่ เพราะตั้งแต่เรียนจบชายหนุ่มก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองจนตอนนี้มีบริษัทเล็กๆ เป็นของตัวเอง ถึงจะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ทว่ามั่นคงพอตัว

“ครับ คุณท่าน” เขารับปากไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก เมื่อท่านเดินออกไป เขาก็ยกมือขึ้นกุมขมับแล้วมองไปยังคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทข้างตัวเอง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เมื่อคืน มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขาและหญิงสาวตัวเล็กกัน

ประมุขใหญ่ของบ้านมองหน้าลูกบุญธรรมวัยสามสิบสามปีของตัวเองเดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาวสุดที่รักของตัวเองวัยยี่สิบสองปีเดินก้มหน้าเข้ามาในห้องทำงานของตัวเองด้วยสายตานิ่งสงบเยือกเย็นทำเอาทั้งสองที่มาใหม่ขนลุกขนพองหวาดกลัวไปกับสายตาของเขาไปตามๆ กัน

“คุณพ่อ...” เสียงเล็กหวานเอ่ยเรียกพ่อตัวเองพร้อมกับเดินเข้าไปหาท่าน

“พ่อไม่ถามหอมหรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น” หงสาเอ่ยกับลูกสาวที่น่ารักของตัวเอง

“คุณท่าน เรื่องของผมกับคุณหอม ผม...” พัดยศยังพูดไม่ทันจบความ เสียงแหบแห้งห้วนก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน

“ฉันไม่ต้องการคำอธิบายอะไรทั้งนั้น แกต้องแต่งงานกับลูกสาวของฉันกับสิ่งที่แกทำลงไป ฉันไม่รู้หรอกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แกควรรับผิดชอบและตอบแทนที่ฉันให้ใช้นามสกุล ‘สูงส่ง’ ของฉัน ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก รักแกเหมือนลูกแท้ๆ ไม่แพ้ไอ้หินกับยัยหอม แต่แกทำแบบนี้กับลูกสาวของฉันได้ยังไง ฉันไม่ให้ฆ่าแกก็ดีเท่าไหร่แล้วกับสิ่งที่แกทำกับลูกสาวฉัน ไอ้ยศ...ตุ้บ!” พูดจบท่านก็กระแทกไม้เท้าในมือกับพื้นด้วยความเดือดดาลก่อนจะลุกขึ้นยืน

“คุณพ่อ คือเรื่องนี้หอม...” เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงเข้มของพัดยศก็ดังแทรกขึ้น

“ครับ คุณท่าน” แม้จะเป็นการฝืนใจไม่เต็มใจ แต่เพื่อตอบแทนพระคุณของท่าน เขาก็พร้อมจะรับผิดชอบลูกสาวของท่าน จริงอย่างท่านพูด เขาควรรับผิดชอบ

“หวังว่าแกจะดูแลลูกสาวฉันได้ดีไม่แพ้ฉัน แกรู้ใช่ไหมยศว่ายัยหอมคือแก้วตาดวงใจของฉัน” ท่านเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมกับสบดวงตาสีสนิมเข้มของอีกฝ่ายอย่างต้องการคำสัญญา

“ครับ”

“ถ้าวันไหนแกทำลูกสาวฉันเสียใจ แกรู้ใช่ไหมว่าฉันทำอะไรได้บ้าง”

“ครับท่าน ผมจะดูแลคุณหอมให้ดี”

หึหึ

แล้วชายแก่ก็เดินออกจากห้องทำงานไป ทิ้งให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่ในห้องกันตามลำพัง

“คะ...คือคุณยศคะ คือคุณยศไม่ต้องมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้นะคะ” มะลิลาเอ่ยไม่เต็มเสียงนัก

“ผมปฏิเสธได้เหรอ คุณหอมก็รู้นี่ว่าพ่อของคุณมีบุญคุณกับผมมากแค่ไหน ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องของเรามันเกิดขึ้นได้ยังไง ผมเมา ผมจำอะไรไม่ได้ แต่สบายใจได้ ผมจะรับผิดชอบพรหมจรรย์ของคุณเอง” น้ำเสียงเย็นชาตอบกลับแล้วก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้สาวน้อยยืนน้ำตาคลออยู่คนเดียวในห้อง

มะลิลายืนนิ่งมองแผ่นหลังกว้างของพัดยศที่หายลับออกไปจากประตูห้องทำงานแล้วก็ยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอาบสองแก้มตัวเองออกพร้อมนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เมื่อคืนเรื่องทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเธอไม่ตื่นมาดื่มน้ำตอนดึกแล้วเดินกลับขึ้นชั้นสองเห็นประตูห้องของพัดยศเปิดกว้างอยู่จึงเดินไปดู พอเดินมาดูเห็นเจ้าของห้องที่เมาจนทรงตัวไม่ได้กำลังคลานไปยังเตียงจึงหวังดีไปพยุงคนตัวโตไปยังเตียง และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทุกอย่างมันเหมือนฝัน มันเหมือนภาพตัดก็ว่าได้ และผิดที่เธอเองด้วยที่มีใจให้คนตัวโตจนปล่อยตัวเองให้เขาเชยชมทั้งๆ ที่ควรจะดิ้นหนี

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วและวันนี้มะลิลาก็ได้เป็นเจ้าสาวของพัดยศอย่างที่คิดฝันมาตลอด แต่ทุกอย่างมันไม่เป็นแบบที่ฝันไปเสียหมด เมื่อถูกส่งตัวเข้าห้องหอ ผู้ใหญ่กลับไปหมด เธอก็อยู่กับพัดยศลำพังในห้องนอนที่ถูกตกแต่งใหม่สวยงาม

“เรามาตกลงกันดีกว่าคุณหอม” พัดยศดึงลากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมานั่งตรงหน้าคนที่นั่งปลายเตียง

“คะ คุณยศ” สาวเจ้ากลอกตาสงสัยและไม่เข้าใจในประโยคคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้าที่ตอนนี้เป็นสามีถูกต้องตามกฎหมายของตัวเอง

“คุณรู้ว่าผมหมายถึงอะไร และคุณหอมก็รู้ว่าผมมีคนรักอยู่แล้ว” เขาบอกเธอ

“แต่เราแต่งงานกันแล้วนะคะคุณยศ”

หึหึ

พัดยศยิ้มขำในลำคอให้กับความใสซื่อของคนตรงหน้า

“คุณขำหอมทำไมคะ?”

“ฟังผมนะคุณหอม เรื่องระหว่างเรามันเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาด และผมก็ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบคุณไม่ได้ เพราะผมมีทุกวันนี้ได้เพราะพ่อของคุณ ผมโตมาเป็นผมได้ทุกวันนี้ เพราะท่านให้โอกาสผมได้มีชีวิตที่ดี”

“แต่ว่าเราแต่งงานกันแล้วนะคะคุณยศ” สาวน้อยยังคงทำหน้าซื่อ ทั้งๆ ที่ตัวเองเข้าใจและตอนนี้เจ็บปวดหัวใจจนไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้

“เราแต่งงานกันก็จริง แต่เราจะแต่งงานกันแค่ในนาม เราจะอยู่กันแบบพี่น้อง และผมจะไม่แตะต้องตัวคุณแม้แต่ปลายเส้นผมหรือทำอะไรแบบนั้นอีก เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผมขอให้คุณลืมมันได้ไหม”

‘เขากำลังขอให้ฉันลืมเรื่องเมื่อต้นเดือนงั้นเหรอ เขามันใจร้ายมาก’ มะลิลาพึมพำในใจพร้อมกับมองคนตัวโตตรงหน้าลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

“คุณเข้าใจที่ผมพูดไหมคุณหอม” เมื่อเห็นสาวเจ้าเงียบจึงถามย้ำ

“หอมเข้าใจค่ะ เข้าใจว่าคุณยศไม่ได้ชอบหอม และคุณยศมีคนรักอยู่แล้ว”

“ผมหวังว่าเราจะอยู่กันด้วยดีไม่มีปัญหา และผมหวังว่าในอนาคตคุณจะเจอคนที่คุณชอบและอยากใช้ชีวิตด้วย” เขาบอกมะลิลาแล้วลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำนอน

“ในวันนี้หรือในอนาคต คนที่หอมอยากอยู่ด้วยคือคุณยศคนเดียว หอมไม่ต้องการใคร” เธอพูดกับตัวเองเมื่อประตูห้องน้ำปิดแนบสนิทไร้เงาของคนตัวโตให้เห็น เขามันใจร้าย

ค่ำคืนที่แสนทรมานผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับค่ำคืนแรกของการแต่งงาน มะลิลามองแผ่นหลังสามีของตัวเองที่กำลังยืนแต่งตัวที่หน้ากระจกแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปหาเขาเพื่อจะช่วยผูกเนคไทให้ แต่เขาก็ปัดมือเธอออกอย่างรังเกียจ

“ไม่ต้อง! ผมทำเอง ผมบอกแล้วไงว่าเราจะต่างคนต่างอยู่ อย่าพยายามทำหน้าที่ภรรยากับผม” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นก่อนเดินไปยังที่เตียงเพื่อหยิบโทรศัพท์ของตัวเองและจังหวะนั้นเองก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาพอดี

ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!

มุมปากหนาของพัดยศยกยิ้มเมื่อเห็นชื่อที่โชว์หน้าจอก่อนจะกดรับสายปลายสายพร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงนุ่มไม่สนใจภรรยาที่อยู่ในห้องด้วย

“พี่กำลังจะออกไป กี้อยากกินอะไรไหม พี่จะแวะซื้อไปให้ที่คอนโด” พัดยศกรอกเสียงนุ่มอ่อนโยนส่งไปในสายพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดที่คุยกับคนในสายโดยไม่สนใจว่าใครอีกคนจะเจ็บปวดกับการกระทำของตัวเอง

‘ผู้หญิงที่คุณยศรักสินะโทรมาหาถึงได้ยิ้มมีความสุขแบบนี้’ เธอพึมพำกับตัวเองในใจแล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่อหนีภาพและน้ำเสียงนุ่มอ่อนโยนที่คุยกับหญิงอื่น ส่วนพัดยศเขาใช้หางตามองภรรยาที่เดินหนีหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วยกยิ้มมุมปากก่อนจะลุกขึ้นคุยโทรศัพท์เดินออกจากห้องนอนโดยไม่ลืมหยิบกุญแจรถยนต์ส่วนตัวของตัวเองไปด้วย

หัสดินเห็นน้องเขยออกไปจากบ้านแต่เช้าจึงมาหาน้องสาวที่รักของตัวเอง เพราะตอนนี้ก็สายแล้วไม่เห็นออกจากห้อง แถมมื้อเช้าก็ไม่ยอมลงไปทาน ทำไมเป็นแบบนี้ทั้งๆ ที่เพิ่งแต่งงานกันแค่วันเดียวเอง

“หอมเป็นอะไรรึเปล่าฮึ?” เขาถามเจ้าของห้องที่เดินมาเปิดประตูให้ตัวเอง ดวงตาของมะลิลาแดงก่ำเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

“ไอ้ยศมันทำอะไรหอมรึเปล่า?” หัสดินถามต่อเมื่อน้องสาวยังนิ่งเงียบ

“หอมไม่ได้เป็นอะไรค่ะพี่หิน ว่าแต่พี่หินเถอะค่ะ ทำไมวันนี้อยู่บ้านได้คะ”

“พอดีว่าตอนบ่ายพี่ต้องไปเชียงใหม่น่ะ เลยไม่ได้เข้าบริษัทตอนเช้า” เขาบอกตอบน้องสาวแล้วเดินมาโอบเอวประคองน้องสาวที่ตัวเองประคบประหงมดุจไข่ในหินเข้าไปในห้องแล้วพานั่งลงบนเตียงนุ่ม

“ไปกี่วันคะพี่หิน”

“พรุ่งนี้เย็นพี่ก็กลับแล้ว เราเถอะ โอเคแน่นะ แต่พี่ว่าหอมสีหน้าไม่ค่อยดี ถ้าไอ้ยศมันทำอะไรให้หอมไม่สบายใจหรือทำให้หอมไม่พอใจบอกพี่ได้นะ หรือบอกพ่อก็ได้”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่หิน คุณยศเขาก็ยังปกติดีกับหอม”

“ปกติกับหอมคือเย็นชาแบบนั้นน่ะเหรอ พี่รู้ว่ามันไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับหอม ที่มันยอมเพราะมันขัดคำสั่งพ่อของเราไม่ได้” หัสดินพูดตามที่เห็น ลืมนึกถึงจิตใจของน้องสาว พอหันมาสบตาน้องสาวก็ต้องรีบยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาให้

“พี่ขอโทษนะหอม พี่พูดไม่คิด พี่ขอโทษนะคนดีของพี่ ไม่ร้องนะเด็กน้อยของพี่” เขารั้งร่างเล็กของน้องสาวเข้ามากอดปลอบพร้อมกับหอมกระหม่อมบางไปด้วย ส่วนมะลิลาก็กอดตอบพี่ชายแน่นแล้วปล่อยเสียงสะอื้นไห้ดังกว่าเดิม จากที่คิดว่าจะเข้มแข็งจะไม่อ่อนแอให้พี่ชายและพ่อเป็นห่วง แต่เมื่อนึกถึงความเย็นชาที่พัดยศหยิบยื่นให้ เธอก็เก็บความปวดร้าวไว้ในอกไม่ไหว

อึก! ฮือๆๆ

หัสดินกำมือที่ลูบแผ่นหลังเล็กของน้องสาวที่ไหวโยกตามแรงสะอื้นไห้ด้วยความเดือดดาล ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพัดยศนั้นมีคนรัก แต่มันสมควรแล้วเหรอที่ปฏิบัติตัวเย็นชาไร้หัวใจกับน้องสาวของเขาแบบนี้ ทั้งๆ ที่พัดยศเองก็มองออกมาตลอดว่ามะลิลานั้นมีใจให้ตัวเองมาตั้งแต่เด็ก

‘ไอ้ยศ’ หัสดินได้แต่ขบฟันแน่นด้วยความเคืองแค้นอีกฝ่ายที่ทำแบบนี้กับน้องสาวตัวเอง น้องสาวของเขาไม่ใช่คนไร้ค่า ไม่ใช่ของตายที่พัดยศจะมองข้าม ‘แกมันเลวไอ้ยศ!’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel