บท
ตั้งค่า
บทที่ 5 องค์ชายสี่ ถังจวิน
เว่ยอีมองเขาอยากรู้สึกงุนงง เขาก็แค่ไปสั่งให้ในครัวจัดมาเพิ่ม
“ท่านอ๋อง ชานี่ไม่เหมือนเดิมหรือพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยก็ให้คนครัวจัดมาและบอกว่าให้เอาแบบชุดเดิมนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ยกออกไป ข้าไม่กินแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยอีกยกน้ำชา และกำลังจะยกขนมออกไป
“รอก่อน ยกแต่ชาไป ขนมไม่ต้อง เอาชาอู่หลงมาให้ข้าแทน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยหลงยกชาออกมา และให้คนครัวไปเปลี่ยนเป็นชาอู่หลงแทน
“ท่านอ๋อง รายงานพ่ะย่ะค่ะ”
“ว่ามา”
“ข้าสืบเรื่องของพระชายามาแล้ว ก่อนหน้านี้ นางถูกฮองเฮาวางยาพิษอยู่เนืองๆ และยังถูกหมั้นหมายกับบุตรชายของเสนาบดีมาก่อน ทั้งคู่โตมาด้วยกัน ชื่อสือเยว่เทียน เข้าปักใจรักพระชายามากพ่ะย่ะค่ะ และตอนนี้เขาทราบเรื่องที่นางอภิเษกมาที่นี่แล้ว และกำลังตามมาหานางพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม เข้าใจแล้ว เรื่องอื่นล่ะ”
“พระชายามีอาจารย์หมอเทวดาอยู่คนหนึ่ง อยู่บนเขาเทียนซาน ทุกปีนางจะขึ้นไปเยี่ยม แต่ปีนี้ เห็นว่าอาจารย์นางออกท่องเที่ยว นางเลยไม่ได้ไปพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้ารู้แล้ว เจ้าไปได้ ติดตามนางเงียบๆ อย่าให้นางรู้ตัว ระวังองครักษ์หญิงของนางด้วย”
“รับพระบัญชา กระหม่อมทูลลา”
เว่ยอียกชามาถึงห้องหนังสือและวางลง เขาเงยหน้ามอง
“เจ้ามีอะไรก็พูดมาสิ”
“ทูลท่านอ๋อง ข้าพระองค์พึ่งทราบว่าเหตุใดชากาที่สองจึงรสชาติไม่เหมือนเดิมพ่ะย่ะค่ะ”
“เพราะอะไรล่ะ”
ชินอ๋องเริ่มเขียนฎีกาตอบ และฟังเว่ยหลงอย่างใจลอย
“ขนมกุหลาบ และน้ำชานั้น พระชายาเป็นคนทำพ่ะย่ะค่ะ ชานั้น เป็นชาที่นางทำเอง หมักเอง น้ำที่เอามาต้ม ก็เป็นน้ำค้างจากยอดใบบัวในสวน ซึ่งนางจะตื่นขึ้นมาเก็บน้ำค้างตอนตีสี่ทุกวัน เพื่อให้ได้น้ำชาที่รสชาติดีเข้ากับใบชาของนางพ่ะย่ะค่ะ”
มู่เหรินหยุดเขียน นี่นางตั้งใจทำเรื่องพวกนี้ เพื่อเขาอย่างนั้นหรือ เขาไม่เคยกินน้ำชาที่ไหนแล้วรู้สึกสดชื่นแบบนี้มาก่อน ชาที่นางชงก็รสชาติไม่เหมือนชาทั่วๆ ไป ชานี้กลิ่นหอม รสชาติไม่ฝาด ดื่มแล้วลื่นคอ และทำให้สดชื่นขึ้น ช่างพิเศษจริงๆ
“อืม ข้ารู้แล้ว เจ้าไปได้”
เว่ยอีหุบยิ้มทันที เขาพูดขนาดนี้ ท่านอ๋องยังเฉย น่าเห็นใจพระชายายิ่งนัก
“พยายามมากขนาดนี้ เจ้าต้องการอะไรกันแน่”
เขาพูด พลางมองไปที่ขนมที่วางอยู่บนโต๊ะ
ช่วงที่อยู่จวนอ๋อง นอกจากการปลูกสมุนไพรแล้ว ซีเฟยก็มีโอกาสได้ออกไปเดินดูที่ตลาดในเมืองอยู่บ่อยๆ นางเริ่มรู้จักร้านขายยา และแหล่งที่จะเก็บสมุนไพรได้เพิ่ม อย่างน้อยการอยู่ในเมืองชิงโจว นางก็ไม่ต้องคอยระแวงคนที่อยากจะทำร้ายนางมากเหมือนที่แคว้นเยี่ยน
ระหว่างที่นางกำลังดูอินเหมยพรวนดินให้สมุนไพรที่พึ่งได้มาจากตลาด อาเหยากำลังรดน้ำที่เหลือให้ นางกำลังจะเดินกลับ จึงได้พบกับชายหนุ่มรูปงาม เดินเข้ามา เขาถือพัดประจำตัวหนึ่งอัน และกำลังเดินมาทักนาง
“ไม่ทราบว่าแม่นางคือ”
“บังอาจนัก ท่านนี้คือพระชายาชินอ๋อง องค์หญิงจ้าวซีเฟย ท่านเป็นผู้ใดกัน”
หนุ่มรูปงามหุบยิ้มเล็กน้อย พระชายาอย่างนั้นหรือ น่าเสียดายจริงๆ
“ขออภัยพระชายา ข้าน้อยถังจวิน องค์ชายสี่ วันนี้กะว่าจะมาเยี่ยมเสด็จพี่รอง ล่วงเกินท่านแล้ว”
“ที่แท้เป็นองค์ชายสี่ ขออภัยที่ข้าไม่ทราบ ล่วงเกินท่านแล้วเพคะ”
“ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ท่าน เอ่อ จ้าวซีเฟยใช่หรือไม่ พี่รองอยู่หรือไม่ วันนี้ข้าแวะมาทักทาย ข้าพึ่งกลับมาจากเมืองอี้ เอาของฝากมาให้เขาน่ะ”
“ทูลองค์ชายสี่ ท่านอ๋องเข้าวังไปตั้งแต่เช้าเพคะ นี่ก็คงใกล้เวลาจะกลับแล้ว ท่านจะรับของว่างรอท่านอ๋องก่อนหรือไม่เพคะ หม่อมฉันจะให้เด็กๆ เตรียมให้”
“ถ้าอย่างนั้น คงต้องรบกวนท่านแล้ว”
“มิได้เพคะ ท่านเป็นแขก เชิญทางนี้เพคะ”
ซีเฟยเดินนำเขาไปที่ศาลา ในสวน
“อื้มม พระชายา ขนมนี่อร่อยยิ่งนัก ชานี่ก็อร่อยมาก ข้าไม่เคยดื่มชาที่ไหนอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย ท่านซื้อมาจากที่ใดหรือ”
“กราบทูลองค์ชายสี่ ข้าหมักชานี้เองเพคะ ข้าชอบทำอาหารทานเองจนชิน เลยเรียนรู้วิธีการทำชา ชานี้ไม่เพียงทำให้ท่านสดชื่น ยังปรับธาตุในตัวท่านให้เกิดสมดุลในร่างกาย จึงทำให้ผ่อนคลาย และสดชื่นในคราเดียวกันเพคะ”
“ยอดเยี่ยมไปเลย สงสัยว่าข้าต้องแวะมาที่จวนนี้บ่อยๆ แล้วล่ะ พระชายา ท่านน่าจะทำขายได้เลยนะ อร่อยมาก”
“องค์ชายสี่ เรียกข้าว่าซีเฟยก็ได้เพคะ”
“ได้ๆ ซีเฟย ต่อไปเจ้าก็เรียกข้าว่าถังจวิน หรืออาจวินละกันนะ”
“ข้าถนัดเรียกองค์ชายสี่ดีกว่าเพคะ”
“ตามใจเจ้าเลย”
เขารู้สึกเสียดายนิดๆ ที่นางไม่ยอมเรียกชื่อเขา ทำไมเขาถึงพลาดการอภิเษกครั้งก่อน เขาไม่คิดเลยว่าผู้ที่จะมาอภิเษก จะงดงามขนาดนี้ อีกทั้งอาหาร ขนม และชาที่นางทำ ยังยอดเยี่ยมปานนี้ น่าอิจฉาเสด็จพี่รองจริงๆ
ชินอ๋องเดินเข้าจวนมา เขาเหลือบไปเห็นผู้ที่นั่งอยู่ที่ศาลา
“นั่นใคร ที่จวนมีแขกหรือ”
“ทูลท่านอ๋อง องค์ชายสี่พ่ะย่ะค่ะ มาพบพระองค์ พระชายาเลยรับรอง….. ที่ …. สวน….พ่ะย่ะ…ค่ะ”
เสี่ยวหลงยังพูดไม่ทันจบ ชินอ๋องก็รีบเดินไปออกไปที่ศาลาในสวนทันที
“น้องสี่”
“อ้าว เสด็จพี่รอง ท่านกลับมาแล้ว มาๆ นั่งก่อนๆ ข้ามารอท่านตั้งนาน นี่ๆ มาชิมดู ซีเฟยทำขนมมาให้ข้า อร่อยมากเหมือนขึ้นสวรรค์เลย ท่านดื่มชาก่อน เร็วๆ เข้า ชาของนาง อร่อยมากจริงๆ ไม่เคยดื่มชาที่ไหนอร่อยแบบนี้เลย เสด็จพี่ ข้าคงต้องมาขอกินขนมอร่อยๆที่จวนท่านบ่อยๆ แล้ว”
มู่เหรินมองนางด้วยสายตาที่เยือกเย็น นางกำลังยิ้มให้องค์ชายสี่ หันมาเจอเขา นางหุบยิ้มทันที
“ท่านอ๋องพึ่งกลับมาถึง ข้าจะไปจัดของว่างมาให้ท่านอีกชุดนะเพคะ”
“ไม่ต้อง ข้าไม่หิว น้องสี่ เจ้าตามข้ามานี่”
“แต่ข้ายังกินขนมไม่หมดเลยนะ”
มู่เหรินหันมามองเขา สายตาเย็นที่ส่งมาทำให้องค์ชายสี่ไม่กล้าขัดใจ
“ก็ได้ๆ นี่ซีเฟย เจ้าจะห่อให้ข้า .. แบบว่า..”
“ได้เพคะ องค์ชายสี่ ข้าจะให้เด็กห่อขนมให้ท่านกลับ ข้าจะให้ใบชาไปด้วย ท่านจะได้เอาไปชงดื่มนะเพคะ”
“ขอบคุณเจ้ามากเลยซีเฟย เจ้านี่ดีที่สุดในโลกเลย”
เขาเอื้อมไปจับมือนาง ถังมู่เหรินหันมาเห็น เขาหันไปมองซีเฟย และบอกองค์ชายสี่
“น้องสี่ นางคือพระชายาของข้า เจ้าสำรวมกิริยาหน่อย บ่าวไพร่จะนินทาเอาได้”
องค์ชายสี่ค่อยๆ ปล่อยมือนางอย่างเสียดาย นางมองมาที่มู่เหริน ตาเขากระตุกอย่างยากจะควบคุม
“ไปได้แล้ว”
“เสด็จพี่ ทำไมท่านไม่นั่งที่สวนล่ะ ลากข้ามาห้องเย็นนี่ทำไมกัน”
“เจ้าไปสนิทสนมกับพระชายาข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“เสด็จพี่ ข้าพึ่งมาจวนท่านและเจอนางวันนี้เอง เสียดาย หากรู้ว่าเป็นนาง ข้าคงรับบัญชาอภิเษกในครั้งนั้นแล้ว”
มู่เหรินกัดกรามแน่น หันไปมองหน้าเขา
“เจ้ามาที่นี่ทำไม”
“ข้าพึ่งกลับมาจากเมืองอี้ เลยแวะมาหาท่านก่อน เอาของฝากมาให้ท่าน ใครจะคิดว่าโชคดีเจอซีเฟยเข้า ได้กินของอร่อยๆ นี่นางรับปากว่าจะห่อขนมกับชาให้ข้ากลับตำหนักด้วยนะ วันหลังต้องซื้อของขวัญมาตอบแทนนางหน่อยแล้ว”
“ไม่ต้อง หากเจ้าไม่ได้มีธุระอะไร ก็ไม่ต้องมาที่นี่บ่อยๆ ข้าอยู่ในวังมากกว่า มีอะไรก็ไปคุยกันที่นั่น”
“เสด็จพี่ นี่ถ้าข้าไม่รู้นิสัยท่าน ข้าคงคิดว่าท่านกำลังหึงพระชายาอยู่นะ แต่ท่าน ดูเหมือนไม่ได้สนใจอะไรนางเลยนี่นา”
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
“ข้าได้ข่าวว่าชิงอี้เหนียงกลับมาแล้วนี่ ท่านเจอนางหรือยังล่ะ”
“เหตุใดข้าต้องเจอนางด้วย”
“นี่ท่าน ตัดใจจากนางได้แล้วอย่างนั้นหรือ”