บท
ตั้งค่า

ถูกเปรียบเทียบ

บทที่ 2 ถูกเปรียบเทียบ

"ฝ่าบาททำเช่นนั้นไม่โหดร้ายกับองค์ชายเกินไปหรือพ่ะย่ะค่ะ ถวายบังคมฝ่าบาทถวายบังคมองค์ชายสาม" เสียงปริศนาเดินเข้ามาเอ่ยขึ้นพร้อมโค้งคำนับทั้งสอง

"หากองค์ชายสามเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งมากความสามารถเสมือนบุตรชายของท่านข้าคงไม่โหดร้ายเช่นนี้ " ฝ่าบาทนั่งลงที่บันลังก์เมื่อเห็นว่าใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางเสนาบดีฝ่ายซ้ายเดินเข้ามา

"ฝ่าบาทเอ่ยเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ บุตรชายของกระหม่อมยังต้องเรียนรู้ฝึกฝนอีกมากขอบพระทัยที่ฝ่าบาทเมตตา"

"หากบุตรชายของเจ้าเป็นบุตรชายของข้าคงดี คงไม่มีเรื่องที่ข้าต้องทุกข์ใจ " ฝ่าบาทเอ่ยเปรียบเทียบเมื่อเห็นว่าบุตรชายของใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางนั้นเก่งทั้งบุ้นและบู้ต่างจากบุตรชายของตนอย่างมาก แต่วาจาที่ฝ่าบาทเอ่ยออกมาทำให้เซียวอี้หรือองค์ชายสามกำมือแน่นพร้อมไม่เอ่ยอันใดเดินออกไปจากท้องพระโรงทันที

เซ่อเจาหยางบุตรชายของใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางตั้งแต่ยังเยาว์เขาเข้ามาในวังหลวงพร้อมบิดา ครั้งแรกที่เซียวอี้เห็นก็ได้ถูกชะตาเชิญชวนเซ่อเจาหยางมาเล่นที่ตำหนักของตนเองบ่อยครั้งแต่ทว่าทุกครั้งกลับต้องเจอวาจาเอ่ยเปรียบเทียบเสมอมา จนกระทั่งเติบเติบอายุสิบห้าหนาว เซ่อเจอหยางสอบเข้าเป็นขุนนางโดยไม่ได้ใช้เส้นสายของตระกูล ด้วยความเก่งที่เขามีตั้งแต่กำเนิดจึงทำให้ฝ่าบาทเอ็นดูและมอบหน้าที่ให้เขาเป็นท่านแม่ทัพที่ดูแลทหารนับหมื่นนายและด้วยความเก่งกาจเฉลียวฉลาดทำให้เขาได้รับชัยชนะมาสู่แคว้น ยิ่งทำให้ฝ่าบาทชื่นชอบเขามากกว่าเดิมและทุกครั้งที่ฝ่าบาทพบเจอกับเซียวอี้ก็มิวายเอ่ยชมเซ่อเจาหยางเสมอ ทำให้เขาเริ่มไม่ชอบใจจากสหายกลับเป็นคนอื่น ความสนิทกลับกลายเป็นเหินห่างจนกลายเป็นความเกลียดชังในที่สุด

เซียวอี้เดินกลับมาที่ตำหนักหนานฉี่แต่ไม่ได้กลับไปนอนเช่นเดิมหลังจากที่เขาพบเจอเรื่องเช่นนี้เขามักจะมาระบายอารมณ์ด้วยการฟาดฟันดาบ

เซียวอี้หรือองค์ชายสามขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิตเอาแต่ใจตนเองไม่ว่าผู้ใดที่ขัดขวางเขาและไม่ได้ดังใจเขามักจะให้องครักษ์ประจำกายจัดการทันที ทำให้เหล่าเสนาบดีหรือแม้แต่ประชาชนต่างพากันหวาดกลัวและไม่ชอบองค์ชายเซียวอี้

เขาร่ายรำฟาดฟันหุ่นจนแทบไม่เหลือเค้าโครงจนอารมณ์ของเขายามนี้เย็นลงร่างกายเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขานั่งลงที่เก้าอี้วางดาบเก็บไว้ที่เดิมพร้อมจ้องมองไปยังท้องฟ้าก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

"เจ้าถูกท่านพ่อตำหนิมาอีกแล้วเช่นนั้นหรือ คราวนี้ไปทำเรื่องอันใดให้ท่านพ่อต่อว่าเข้าล่ะ" น้ำเสียงแหบแห้งเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเอ่ยถามมาจากด้านหลัง เซียวอี้ลุกขึ้นยืนขึ้นทันทีพร้อมเข้าไปประคอง

"ท่านพี่เหตุใดถึงมาที่นี่เพียงลำพังพ่ะย่ะค่ะ เหล่าข้ารับใช้ไปทางใดกันหมดถึงกล้าปล่อยให้ท่านพี่เดินเหินไปมาเพียงลำพังช่างไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ต้องจับไปโบยสักร้อยครั้ง " องค์ชายเฟยหลงหรือรัชทายาทอันดับหนึ่งผู้ที่จะเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แต่ทว่าเกิดมามีร่างกายที่ไม่แข็งแรงมักจะถูกฮ่องเฮาสั่งให้อยู่แต่เพียงในตำหนักเพราะกลัวว่าถูกแดดถูกลมจะจับไข้ทำให้อาการกำเริบได้ แต่องค์ชายเฟยหลงมักจะแอบนางกำนัลออกมาเดินเล่นเพียงลำพังอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสองเป็นพี่น้องที่เกิดจากมารดาผู้เดียวกันนั้นคือฮองเฮา องค์ชายเฟยหลงรักและเอ็นดูน้องชายของตนมาก และรู้มาเสมอว่าน้องชายต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้เพราะตนเอง หากเขามีร่างกายที่แข็งแรงคงไม่ต้องแบกรับตำแหน่งที่เขาไม่รับเช่นนี้

"เจ้าไม่ต้องสั่งลงโทษพวกนางกำนัลหรอก ข้าเองต่างหากที่หนีออกจากตำหนักมา ว่าแต่เจ้าเถิดถูกท่านพ่อตำหนิมาอีกแล้วอย่างนั้นรึ"

"ท่านพี่มักจะมองข้าออกเสมอ ข้าไม่อยากรับตำแหน่งองค์รัชทายาท ตำแหน่งนี้เป็นของท่านพี่ ท่านพี่คู่ควรที่จะได้รับมันมิใช่ข้าที่เป็นองค์ชายที่โหดร้ายและทำตัวเที่ยวเตร่เช่นนี้"

"ที่เจ้าเที่ยวเตร่และเสเพลทุกอย่างเพราะข้ามิใช่หรือ? เซียวอี้เจ้าเป็นน้องชายของข้า ข้ารู้ว่าเจ้ามิใช่คนโหดร้ายเช่นนั้น เลิกทำตนเช่นนั้นเถอะนะต่อให้เจ้าทำตัวเลวร้ายเพียงใดตำแหน่งองค์รัชทายาทต้องเป็นของเจ้าอยู่ดี ไม่มีทางที่ข้าจะนั่งบนบันลังก์นั้นได้ "

"ไม่นะท่านพี่ อย่างไรบันลังก์นั้นก็เป็นของท่านข้าไม่อยากได้พ่ะย่ะค่ะ"

"ข้ารู้ตัวเองดีว่าข้าเกิดมาเพื่อเป็นพี่ชายของเจ้า แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นองค์รัชทายาท เจ้าเลิกทำตัวเหลวไหลแล้วทำให้ข้าภูมิใจเสียที หากเจ้านับถือว่าข้าเป็นพี่ชายของเจ้าถือว่าการรับตำแหน่งองค์รัชทายาทนี้ทำเพื่อข้าได้หรือไม่ " แววตาและน้ำเสียงสร้อยเศร้าขององค์ชายเฟยหลงทำให้เซียวอี้สลดเล็กน้อย เขาอยากมอบร่างกายที่แข็งแกร่งให้ท่านพี่ซะเหลือเกินเพราะเขารู้ดีว่าท่านพี่นั้นตั้งใจอ่านตำราขึ้นครองบังลังก์เพียงใด แต่ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรงนั้นทำให้เขาไม่สามารถทำตามที่ใจต้องการได้

"ท่านพี่หากข้าเป็นฮ่องเต้ที่ไม่ดี หรือว่าข้าปกครองบ้านเมืองจนล่มจมเล่าเรื่องนี้ผู้ใดจะรับผิดชอบท่านพี่ยังคงภูมิใจเช่นนั้นหรือ" เฟยหลงยิ้มจาง ๆ ใช้มือตบที่บ่าของเซียวอี้พร้อมเอ่ยออกมาอย่างเชื่อมั่น

"ข้าเชื่อในตัวของเจ้าว่าเจ้าต้องเป็นฮ่องเต้ที่ดี แค่ก ๆ !!" เอ่ยจบองค์ชายเฟยหลงมีอาการไอขึ้นมาอย่างเฉียบพลันจนทำให้เซียวอี้ตกใจรีบตกปากรับคำ

"พ่ะย่ะค่ะหากท่านพี่เชื่อใจข้า ข้าจะทำให้ท่านพี่สุดความสามารถแต่ทว่ายามนี้ท่านพี่ต้องกลับตำหนักได้แล้วอากาศเริ่มร้อนแถมท่านพี่เริ่มมีอาการไม่ดีหากเรื่องนี้ถึงหูท่านแม่มีหวังท่านพี่มิได้แอบออกมาเที่ยวเล่นเช่นนี้ได้อีกนะพ่ะย่ะค่ะ " เซียวอี้เป็นห่วงใบหน้าเริ่มเป็นกังวลเริ่มประคององค์ชายเฟยหลงกลับตำหนักของเขา

"ต้องเป็นเช่นนี้สิ ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้และเจ้าจะเป็นฮ่องเต้ที่ดีข้าจะรอดูวันที่เจ้าขึ้นครองราช" เขายิ้มบาง ๆ พร้อมเดินกลับตำหนักพร้อมกับเซียวอี้ เมื่อเดินมาถึงตำหนักนางกำนัลแม้กระทั่งขันทีต่างพากันตกใจหวาดกลัวเพราะไม่รู้เลยว่าองค์ชายเฟยหลงนั้นออกจากตำหนักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเห็นเดินเคียงข้างมากับองค์ชายเซียวอี้ที่จ้องมองสาวใช้ในตำหนักอย่างตำหนิยิ่งทำให้ทุกคนไม่กล้าที่จะเงยหน้ามอง

"ในเมื่อตอนนี้เจ้ามาส่งข้าถึงตำหนักแล้ว เจ้าก็กลับตำหนักของเจ้าไปอ่านตำราเพื่อขึ้นรับตำแหน่งเถอะนะ ข้าจะให้ขันทีพาไปพักผ่อนเองเจ้ามิต้องกังวล"

"พ่ะย่ะค่ะ หากท่านพี่เอ่ยเช่นนั้นข้าก็วางใจ แต่ว่าต่อจากนี้ไปหากนางกำนัลหรือว่าขันทีที่ทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องหรือให้องค์ชายเฟยหลงเดินออกจากตำหนักไปเพียงผู้เดียวโดยไร้คนดูแลข้าจะจัดการลงโทษทั้งตำหนักไม่ละเว้น และเรื่องนี้ถึงหูของฮองเฮาพวกเจ้าทั้งหลายต้องรับโทษหนักเป็นแน่" น้ำเสียงเข้มขรึมดวงตาแข็งกร้าวหันไปมองทุกคนในตำหนักก่อนจะหันมาหาเฟยหลงก่อนจะขอตัวออกไป

"ท่านพี่ข้าขอตัวนะพ่ะย่ะค่ะ"

"ไปเถิด " หลังจากที่องค์ชายเซียวอี้เดินออกไปนางกำนัลที่ยืนตัวสั่นเทาด้วยความกวาดกลัวก็รีบพากันมาปรนนิบัติพาองค์ชายเฟยหลงไปพักที่ห้องทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel