3
“ปากดีนะแก เดี๋ยวตบด้วยปาก” วางสายจากเพื่อนไปแล้วเธอก็ถอนใจพรืดใหญ่ รีบจัดการทำกับข้าวรอเพื่อน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านรีเองต้องหอบหิ้วข้าวของติดไม้ติดมือมาฝากอีกแน่ๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นคนมีน้ำใจมากๆ เลยคบกับเธอได้นานหลายปี
นรีมาถึงก็ช่วยเพื่อนจัดอาหารใส่จาน ก่อนจะนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน
“ปัญหาโลกแตกเลยนะแก” นรีตักข้าวเข้าปากเคี้ยวด้วยความหิว ก่อนจะหลุดขำสีหน้าของเพื่อน หลังจากเพื่อนเล่าว่าบิดามารดาจะมาเยี่ยมที่กรุงเทพฯ เธอรู้นิสัยของบิดามารดาเพื่อนรักดีเพราะคบกันมานาน บางทีก็นึกหนักใจแทนเพื่อนอยู่เหมือนกัน
“โลกแตกจริงๆ นั่นแหละ แกช่วยแนะนำผู้ชายให้ฉันสักคนสิ”
“ฉันยังหาไม่ได้เลย จะแนะนำอะไรให้แกได้” นรีส่ายหน้าดิก เธอเคยแนะนำผู้ชายให้เพื่อนแล้ว แต่ผลปรากฏว่ารินลดาทำเอาผู้ชายพวกนั้นโกยหนีแทบไม่ทัน เพราะไอ้นิสัยแปลกๆ นี่แหละ เธอเลยไม่อยากแนะนำใครให้อีก ไม่อยากหน้าแตกซ้ำสอง
“แกรู้จักคนเยอะแยะ”
“ก็ใช่ แต่ในสต๊อกที่ฉันพอมีก็แนะนำให้แกไปหมดแล้ว”
“ชั่วคราวก็ได้”
“ไม่เอา” นรีส่ายหน้าดิก
“โหย... ไม่คิดจะช่วยกันเลยเหรอ”
“แกก็บอกพ่อกับแม่แกไปตรงๆ ว่ายังไม่มีผัว เอ๊ย! มีแฟน” นรีคอหดเมื่อเพื่อนถลึงตาเข้าใส่ จริงๆ แกล้งทำเป็นหงอไปแบบนั้นเอง คนแกล้งพูดผิดหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
“ได้ไง แม่ก็บังคับให้ฉันแต่งงานกับพี่นทีน่ะสิ”
“พี่นทีก็ดีนะ เหมาะกับแกดี แปลกเหมือนกัน” นรีพูดแล้วอมยิ้ม แทบหลุดขำก๊ากกับสีหน้าของเพื่อนรัก
นทีที่เพื่อนพูดถึงคือผู้ชายที่เชยระเบิดระเบ้อแต่มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรหรอก นิสัยต่างหากที่จะทำให้คนเราอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้ นทีเป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดาเรียกว่าไม่แตกแถว แถมยังขี้เหนียวสุดๆ บ้านเลยรวยมากในละแวกนั้น อีกทั้งยังเป็นคนขี้บ่น สำคัญที่สุดคืออยากได้ภรรยาที่อยู่ในโอวาท แล้วเพื่อนเธอมันอยู่ในโอวาทใครเสียเมื่อไหร่ล่ะ ยิ่งถ้ารู้ว่าเขียนนิยาย อีโรติกด้วยแล้ว ยิ่งหนักเข้าไปอีก บ้านของนทีหัวโบราณขั้นสุด รับไม่ได้แน่ๆ
“แกอย่ามาพูดดีเดี๋ยวตบหัวทิ่ม”
“โหดจริงๆ” นรีบ่นอุบ ก่อนจะเหลือบสายตาขึ้นมองเพื่อน “มีทางเลือกให้แกสองทาง แกต้องไปหาผู้ชายมาปลอมเป็นแฟนหลอกๆ ซึ่งข้อนี้ฉันขอบอกเลยว่าฉันจะไม่แนะนำผู้ชายในสต๊อกของฉันให้แกอย่างเด็ดขาด ข้อสองแกต้องบอกพ่อกับแม่ของแกไปตรงๆ ว่าไม่อยากแต่งงานกับพี่นที และแกก็ยังไม่มีแฟน”
“ฉันจะไปหาใครดี” เรื่องให้บอกพ่อแม่ไปตรงๆ คงไม่ไหว
“เพื่อนแกน่าจะมีบ้างแหละ แต่แกอย่าไปทำให้เขาหลอนเหมือนตอนที่ฉันหาให้นะ”
“โอเค ฉันช่วยเหลือตัวเองก็ได้” รินลดาสะบัดหน้าใส่เพื่อน กอดอกด้วยท่าทีแสนงอน
“แฟนนิยายแกเยอะแยะ” นรีเสนอ รินลดาเม้มปากเข้าหากัน มีเยอะแยะแต่จะไปขอให้มาเป็นแฟนนี่นะ เธอไม่ค่อยให้ใครเห็นตัวจริงสักเท่าไหร่ เขียนนิยายติดเรทขนานนั้น อายตายเลย
“แต่พูดไปพูดมาพล็อตชีวิตแกมันก็คุ้นๆ นะ” นรีตักปลาให้เพื่อนอย่างเอาใจ
“คุ้นยังไง”
“ก็พล็อตนิยายน้ำเน่าที่แกชอบเขียนไง”
“นี่มันชีวิตจริง”
“พ่อแม่แกนี่ขั้นสุดจริงๆ แต่เพราะแกเป็นลูกสาวคนเดียวด้วยมั้ง ท่านเลยเป็นห่วง แก่ตัวไปใครจะดูแล ลูกเต้าไม่มี ทรัพย์สมบัติจะยกให้ใคร” นั่นเป็นความคิดของคนรุ่นพ่อแม่ที่หัวโบราณสมัยนี้ นรีคิดในใจ
“เบื่อ”
“พ่อแม่รักก็ดีแล้ว ดีกว่าพ่อแม่ไม่รัก” นรีเผลอเม้มปากเล็กน้อย แต่ก็รีบเปลี่ยนเรื่องโดยเร็ว
“ฉันเป็นกำลังใจให้แกหาผัว เอ๊ย! หาแฟนกำมะลอได้ในเร็ววันนะ”
“แกจะกลับแล้วเหรอ”
“ใช่ ฉันต้องไปขายของต่อ ไปละ นี่ช็อกโกแลตยี่ห้อที่แกชอบ กินเข้าไปเยอะๆ จะได้หายเครียด คิดอะไรออก” นรีหยิบช็อกโกแลตที่ซื้อมาฝากยัดใส่มือเพื่อน รินลดาอ้าปากค้าง ดูเพื่อนเธอสิ คิดจะไปก็ไป พอกินเสร็จก็สะบัดก้นหนีไปเฉยเลย แทนที่จะช่วยกันคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี