Episode 3 ไปทำงานก่อนนะคะ
Episode
3
ไปทำงานก่อนนะคะ
“เม็ดทรายกลับมาแล้วเหรอลูก ไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ย” ทรงยศที่กำลังนอนอ่านหนังสือหันมาถามลูกสาวที่เดินเข้ามาในบ้าน
“ค่ะ ว่าแต่แม่อยู่ไหนคะ”
“แม่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว” ทรงยศตอบลูกสาวแล้วก็หันไปอ่านหนังสือตามเดิม
เมธาทิพย์เดินเข้าไปหาแม่ในครัวทันทีที่พ่อบอกว่าแม่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว
“วันนี้มีอะไรกินคะแม่” เมธาทิพย์เดินเข้าไปในครัวเดินเข้าไปกอดแม่จากข้างหลังแล้วก็เอ่ยถามแม่ของเธอ
“ทำไข่ลูกเขยของโปรดหนูไง”
“ว้าว!!! น่ากินมากเลยค่ะ แม่คะหนูมีเรื่องอยากคุยกับแม่ค่ะ” เมธาทิพย์บอกกับแม่อย่างนั้นทำให้แม่ของเธออยากรู้ว่าลูกสาวของเธอมีเรื่องอะไรอยากคุยด้วย
“แม่ทำเสร็จพอดี ไหนมีเรื่องอะไรอยากคุยกับแม่เราไปคุยกันเย็น ๆ ที่ห้องนั่งเล่นดีกว่ามั้ย” พราวนภาถอดผ้ากันเปื้อนแล้วก็มองหน้าลูกสาวของเธอยิ้ม ๆ
“ได้ค่ะ เราไปกันเลยนะคะ” เมธาทิพย์จับข้อมือของแม่ให้เดินตามเธอไปที่ห้องนั่งเล่น
“เอาล่ะ มีเรื่องอะไรอยากคุยพูดมาได้เลย” พราวนภานั่งลงแล้วก็เอ่ยถามลูกสาวในเรื่องที่ลูกสาวอยากพูดด้วยทันที
“แม่คะ จริง ๆ แล้ววันนี้หนูไม่ได้ไปหาเพื่อนเหรอกค่ะ” เมธาทิพย์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของแม่นิ่ง ๆ เหมือนเธอจะมาสารภาพในสิ่งที่ไม่ดีทำให้พราวนภาเริ่มใจคอไม่ดีแล้วยิ่งเมธานินท์พูดขึ้นมายิ่งทำให้เธอคิดไปต่าง ๆ นานา
“นั่นไง พี่ทรายไปเจอผู้ชายและผู้ชายคนนั้นก็คือพี่เจมส์ใช่มั้ย”
“เม็ดดินนี่มันเรื่องของพี่ อย่ายุ่งได้มั้ย พี่จริงจังนะ” เมธาทิพย์ดุน้องเบา ๆ เพื่อไม่ให้น้องพูดกวนเธอ
“เม็ดดินอย่ากวนพี่สิลูก มานี่มา มานวดไหล่ให้พ่อดีกว่ามา” ทรงยศเรียกลูกชายให้มาหาเพื่อที่จะได้ไม่ไปพูดกวนพี่สาว
“หนูไม่ได้ไปหาเพื่อนแล้วหนูไปไหนมา” พราวนภาทำหน้านิ่ง ๆ เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอมีเรื่องอะไรจะมาบอกไม่รู้เป็นเรื่องดีหรือไม่ดี
“หนูไม่ได้ไปหาเพื่อนแต่หนูไปสมัครงานมาค่ะ หนูได้งานแล้วนะคะ หนูขอไปทำนะคะ” เมธาทิพย์พูดจบพราวนภาก็โล่งใจนึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกสาวของเธอ
“หนูไม่เหนื่อยเหรอลูกทำงานมันเหนื่อยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นงานร้านกาแฟ หนูชอบค่ะ แม่ให้หนูไปทำนะคะ” เมธาทิพย์ขออนุญาตแม่ของเธอ
“ให้ลูกไปเถอะแม่ ไหน ๆ ลูกก็ไปสมัครจนได้งานแล้ว” ทรงยศพูดช่วยลูกสาวอีกคนเพื่อให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ลูกอยากทำอย่างน้อย ๆ ก็ไม่ได้ไปเที่ยวเตร็ดเตร่ไร้สาระ
“ก็ได้จ๊ะ แต่ถ้าหนูไม่ไหวก็หยุดทำนะลูก แม่เลี้ยงหนูได้ แม่อยากให้หนูเรียนให้จบก่อนค่อยทำงานก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูอยากหาเงินมาช่วยแม่ค่ะ”
“พี่ทรายถ้าเงินเดือนออกเลี้ยงชาบูดินด้วยนะ” เมธานินท์พูดแซว ๆ พี่สาวแล้วก็ยิ้มหวาน ๆ เป็นกำลังใจให้พี่สาวของเขา
“ให้พี่ไปทำงานให้รอดวันแรกก่อนมั้ยดิน” เมธาทิพย์พูดแล้วก็หัวเราะให้น้องชายของเธอ
“เรานี่มันเห็นแก่กินจริง ๆ เลยนะดิน” พราวนภาพูดให้ลูกชายแล้วก็ส่ายหน้าให้กับลูกชาย
“ขอบคุณพ่อกับแม่นะคะ ที่เข้าใจหนู” เมธาทิพย์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็เข้าไปกอดพราวนภาเมธานินท์ก็เดินมากอดแม่กับพี่สาวด้วยอีกคน
ทรงยศมองภรรยากับลูกแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข แม้ว่าครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็มีความสุขในทุก ๆ วันเพราะต่างคนต่างเข้าใจกัน
ลลิตาไม่พอใจที่เอลิน่ารับเมธาทิพย์เข้าทำงาน แต่ก็ได้แต่เก็บงำไว้เท่านั้นเพราะตอนนี้เธออยากได้กระเป๋าและในตอนนี้ลลิตาอ้อนเอลิน่าไปที่ร้านกระเป๋าจนได้
“ลิตาอยากได้ใบไหนคะ” เอลิน่าเอ่ยถามแฟนสาวของเธอแล้วก็มองหน้าของสาวสวยที่เห็นเอลิน่าเป็นเหมือนบัตรเครดิตที่อยากได้อะไรก็แค่อ้อนเอาเท่านั้น
“ลิตาอยากได้ใบนั้นค่ะ ตอนนี้กำลังลดราคาอยู่เลยนะคะ” ลลิตาชี้ไปที่กระเป๋าถือใบสีดำที่ราคาอีกไม่กี่บาทก็เกือบครึ่งแสน
“ได้สิ ลิตาไปเลือกให้พนักงานได้เลยนะ พี่รอตรงนี้นะคะ” เอลิน่าบอกกับลลิตาแล้วก็นั่งรออย่างอารมณ์ดี
เอลิน่าแพ้ทางคนเอาใจเก่ง อ้อนเก่งอย่างลลิตาจนเธอให้ได้ทุกอย่าง ลลิตาเลือกกระเป๋าให้พนักงานเสร็จเธอก็เดินมาหาเอลิน่าแล้วก็อ้อนใหญ่เลย
“ขอบคุณพี่เอลินมากนะคะที่ซื้อให้ลิตาทั้ง ๆ ที่ไม่กี่วันพี่ก็เพิ่งซื้อให้แล้ววันนี้พี่ก็ซื้อให้ลิตาอีก จริง ๆ ก็เกรงใจนะคะ” ลลิตาพูดจาอ้อน ๆ เอลิน่าแล้วก็หอมแก้มเอลิน่าไปหนึ่งที
“ไม่เป็นไรเเหรอกนะคะ แต่เย็นนี้ต้องตอบแทนพี่หน่อยนะคะ” เอลิน่าเอ่ยขึ้นมาแล้วก็เอานิ้วมือของเธอจิ้มไปที่จมูกของลลิตาหนึ่งที
“ที่รักไม่ต้องบอกลิตาก็พร้อมตอบแทนอยู่แล้วค่ะ” ลลิตาเอ่ยขึ้นมาแล้วก็กอดแขนของเอลิน่าไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์
หลังจากที่จ่ายค่ากระเป๋าเสร็จทั้งสองก็ไปกินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่น “ลิตาสั่งเลยนะ มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง” เอลิน่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับเลือกเมนูของเธอที่อยากกิน
อาหารวางมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะทั้งสองทานกันเงียบ ๆ อย่างมีความสุข เหมือนทุกอย่างจะปกติแต่อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเอลิน่าอย่างสนิทสนม
“พี่เอลินขาไม่เจอกันนานคิดถึงจังเลยนะคะ” สาวสวยหน้าตาดีในชุดนักศึกษาพูดแล้วก็นั่งลงข้าง ๆ เอลิน่าอย่างถือวิสาสะ
“ค่ะ ไม่เจอกันนานเลยสบายดีนะคะ” เอลิน่าถามเธอกลับเพราะสาวสวยคนนี้คือเพื่อนน้องสาวของเธอที่ไม่ได้เจอกันนานหลายเดือนแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะทำตัวสนิทมากขนาดนี้
“สบายดีค่ะ แต่ตอนนี้เชอรี่ต้องไปแล้วไว้เจอกันนะคะ จุ๊บ”
ลลิตาได้แต่มองตาปริบ ๆ อย่างไม่พอใจที่อยู่ ๆ ก็มีเด็กนักศึกษาที่ไหนไม่รู้มาเกาะแกะแฟนของเธอ ทำให้พาลอารมณ์เสียขึ้นมาในทันที
“ช่วงนี้มีนักศึกษามาเกาะแกะบ่อย ๆ นะคะ ไม่ทราบว่าสนิทสนมกันแค่ไหนคะ”
“ก็เป็นเพื่อนของเอด้าไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น” เอลิน่าพูดออกไปตามความจริงที่เป็นอาจจะเป็นเพราะเพื่อนน้องสาวเป็นลูกครึ่งเหมือนกันวัฒนธรรมก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
“ถ้าสนิทกันไม่ไปนอนด้วยกันเลยเเหรือคะ” ลลิตาพูดประชดเอลิน่าแต่เหมือนว่าเอลิน่าไม่ชอบที่ลลิตาพูดอย่างนั้นออกมา
“ลิตาพี่บอกไปแล้วว่าไม่มีอะไรแล้วทำไมต้องประชดด้วย”
“ใช่สิเดี๋ยวนี้พูดอะไรไม่ได้เลยสินะ ก็ได้ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็ต่างคนต่างกลับ” ลลิตาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเดินออกจากร้านโดยที่ไม่รอเอลิน่า คนในร้านค่อนข้างเยอะทำให้เอลิน่าไม่กล้าเสียงดังโวยวายจึงเรียกพนักงานมาเก็บเงินแล้วก็ออกจากร้านไป
