Episode 2 เริ่มงานได้
Episode
2
เริ่มงานได้
ก๊อก !!! ก๊อก !!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาที่หน้าห้องทำงานของเอลิน่า มาขัดจังหวะในตอนสำคัญของเอลิน่ากับลลิตา
“ใคร” เอลิน่าเอ่ยถามออกไปอย่างรำคาญใจที่มีคนมารบกวนเวลาส่วนตัวของเธออย่างนี้
“หญิงหญิงค่ะ” หญิงหญิงที่ยืนรออยู่หน้าห้องทำงานของเอลิน่าโดยที่ข้าง ๆ มีเมธาทิพย์ยืนรออย่างตื่นเต้น หัวใจของเธอเต้นแรงมาก ทั้งอยากทำงานทั้งกลัวที่จะเจอเจ้าของร้าน ความรู้สึกตื่นเต้น สับสนปะปนกันไปหมด
“เข้ามาได้” เอลิน่าอนุญาตให้หญิงหญิงเข้ามาในห้องทำงานของเธอ ลลิตามองหญิงหญิงที่เดินเข้ามาพร้อมกับเมธาทิพย์ด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่ถูกใจเธอเลยสักนิดเพราะหญิงหญิงทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจเธอเลยสักอย่าง ลลิตาเคยบอกให้เอลิน่าไล่หญิงหญิงออกเพราะเธอเคยทำกาแฟหกใส่เธอเมื่อตอนที่หญิงหญิงเข้ามาทำงานใหม่ ๆ
“แล้วนี่พาใครเข้ามาอีก อย่าบอกนะว่าเอาญาติมาขอเข้าทำงานอีก คราวที่แล้วก็เพื่อนแต่สุดท้ายก็ทำงานไม่ได้จนลาออกไป” ลลิตาเอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของหญิงหญิงอย่างไม่ชอบแล้วก็เฉียดสายตาไปมองเมธาทิพย์อย่างไม่ชอบอย่างไม่มีสาเหตุเพียงแค่คือต้นเหตุมาขัดความสุขของเธอแค่นี้ก็ทำให้เธอไม่ชอบทันที
“ไม่ใช่ญาติค่ะ น้องมาที่ร้านแล้วบอกอยากทำงานแต่มาสมัครงานพาร์ทไทม์เพื่อหาค่าเทอมก็เลยพามาให้บอสตัดสินใจค่ะว่าจะรับหรือไม่รับ” หญิงหญิงพูดแล้วก็แนะนำเอลิน่าให้กับเมธาทิพย์รู้จัก
“เม็ดทรายนี่บอส เจ้าของร้านของที่นี่” เมธาทิพย์รีบยกมือขึ้นไหว้ทันทีและไม่ลืมที่จะไหว้ลลิตาด้วยเช่นกัน
“สวัสดีค่ะ”
“ที่ร้านไม่ได้รับพนักงานพาร์ทไทม์พี่เอลินก็บอกไปสิคะ เด็กพาร์ทไทม์เสียเวลาสอนงานอีกหน่อยก็ออกไปเรียนแล้ว” ลลิตาเหมือนไม่อยากให้เอลิน่ารับเมธาทิพย์เข้าทำงานที่นี่ เหตุผลแรกคือเมธาทิพย์มาขัดจังหวะเธอแต่เหตุผลจริง ๆ คือหน้าตาของเมธาทิพย์ที่น่ารักและเธอรู้ดีว่าหน้าตาอย่างนี้คือสเปกของเอลิน่า
“ทำไมถึงอยากมาทำงานล่ะ” เอลิน่าเอ่ยถามเมธาทิพย์เพื่อจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะรับเข้าทำงานหรือเปล่า
“เม็ดทรายอยากทำงานช่วงปิดเทอมเพื่อหาค่าเทอมให้ตัวเองค่ะ จะได้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ค่ะ แต่ถ้าพี่เจ้าของร้านไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ” เมธาทิพย์เอ่ยขึ้นมาแต่ไม่กล้าสบตาของเอลิน่าเพราะกลัว ๆ ลลิตาที่จ้องมองเธอตาเขม็ง
“ถ้าอย่างนั้นตอบพี่ก่อนว่าทำไมเลือกมาสมัครที่ร้านของพี่” เอลิน่าเอ่ยถามเมธาทิพย์อีกคำถามยิ่งทำให้ลลิตาไม่ชอบเมธาทิพย์มากขึ้นเพราะดูเอลิน่าให้ความสนใจเธอมากไป
“พี่เอลินค่ะ ก็บอกไปสิคะว่าที่ร้านไม่รับพนักงานพาร์ทไทม์ไม่เห็นต้องถามให้มากเรื่อง” ลลิตาเอ่ยออกมาเพื่อเตือนสติเอลิน่าที่เหมือนอยากรับเมธาทิพย์เข้าทำงาน
“ลิตาขอพี่ฟังเหตุผลของน้องดูก่อน ว่ายังไงทำไมเลือกมาสมัครงานที่ร้านของพี่” เอลิน่าย้ำคำถามกับเมธาทิพย์โดยไม่ฟังที่ลลิตาพยายามเตือนว่าไม่ให้รับพนักงานพาร์ทไทม์เข้าทำงาน
“เม็ดทรายชอบทำอาหาร ชอบทำขนมค่ะ อีกอย่างเม็ดทรายมีความฝันอยากเปิดคาเฟ่อย่างนี้ค่ะ แต่คงไม่มีโอกาส” เมธาทิพย์บอกกับเอลิน่าทำให้เอลิน่าเห็นความตั้งใจของเมธาทิพย์ที่ตั้งใจอยากทำงานจริง ๆ
“เริ่มงานได้” เอลิน่าเอ่ยออกมาอย่างนั้นทำให้เมธาทิพย์ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ หญิงหญิงเองก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจเช่นกันเพราะเธอคิดว่าเมธาทิพย์เป็นเด็กขยันและน่ารักอ่อนน้อมถ่อมตนแค่เธอได้เจอครั้งแรกยังทำให้เธอเอ็นดูได้ขนาดนี้
“ขอบคุณนะคะ ที่รับหนูเข้าทำงาน หนูจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดเลยค่ะ” เมธาทิพย์เอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะยกมือไหว้เอลิน่าด้วยความขอบคุณ
“เริ่มงานพรุ่งนี้ ส่วนหน้าที่ก็คือช่วยพี่ ๆ ในร้านทำงานนะ เอลินให้พี่หญิงหญิงจัดการเรื่องงานของน้องได้เลยนะคะ” เอลิน่าเอ่ยจบทั้งสองคนก็ขอบคุณแล้วก็เดินออกไปด้วยความดีใจ
“ขอบคุณพี่หญิงมากนะคะที่ช่วยทำให้เม็ดทรายได้ทำงาน” เมธากล่าวขอบคุณหญิงหญิงแล้วก็กอดเธอเป็นการใหญ่
“ไม่ต้องขอบคุณพี่เหรอกบอสต่างหากที่ใจดีกับเม็ดทราย”
“แต่ถ้าไม่ได้พี่หญิงก็คงไม่ได้งานเหรอกค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรียนรู้งานก่อนนะ เดี๋ยวพี่สอนเอง” หญิงหญิงเดินนำเมธาทิพย์เข้าไปในร้าน แอปเปิลกับฝนที่เป็นพนักงานที่นี่อีกสองคนมองเมธาทิพย์อย่างสนใจแต่เหมือนไม่ได้ยินดีที่มีเธอเข้ามาทำงานที่ร้าน
“หญิงแกพาใครเข้ามาในร้าน” แอปเปิลเอ่ยถามทันทีด้วยความไม่ยินดีเท่าไร
“ก็พาน้องมาเรียนรู้งานแกมีอะไรหรือเปล่าแอปเปิล”
“ก็ไม่มีอะไรนะแค่กลัวว่าคนที่แกพาเข้ามาทำงานจะทำได้ไม่เกินสามวันเท่านั้นเอง” แอปเปิลพูดแล้วก็หัวเราะออกมาเยาะเย้ยหญิงหญิงทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้มันก็ผ่านมานานแล้ว
หญิงหญิงเลือกที่จะไม่โต้ตอบกับแอปเปิลเพราะไม่อยากมีปัญหาภายในร้าน
“แต่ก็ดีกว่าคนที่เลียแข้งเลียขาเพื่อเข้ามาทำงานแหละนะ ว่าแต่น้องชื่ออะไรฮะ พี่ชื่อชอปเปอร์แต่ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะจีบน้องนะเพราะพี่ไม่ชอบผู้หญิง” ชอปเปอร์พูดแล้วก็หันไปหาแอปเปิลแล้วก็ฝนเพื่อบอกว่าเขาไม่ชอบสองคนนี้
“หนูชื่อเม็ดทรายค่ะ ยินดีที่รู้จักนะคะ” เมธานินท์บอกกับชอปเปอร์แล้วก็ยกมือขึ้นไหว้สวย ๆ
“น้องน่ารักเนอะหญิงมีสัมมาคารวะไม่เหมือนบางคน”
“นี่ชอปเปอร์แกหมายถึงใครไม่ทราบ” แอปเปิลเอ่ยถามด้วยความโมโหที่เหมือนโดนพูดกระทบ
“ใครอยากรับก็รับไปสิ” ชอปเปอร์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็หันไปรับออเดอร์ของลูกค้าที่เดินเข้าร้านมาพอดีทำให้แอปเปิลต้องสงบศึกไปก่อน
“เม็ดทรายไม่ต้องไปสนใจนะ อยู่ที่นี่มีพี่ทั้งคนไม่ต้องกลัวใครทั้งนั้นเพราะพี่คือผู้จัดการของร้านนี้ วันนี้พี่จะให้การบ้านหนูไปจำมานะพรุ่งนี้พี่จะให้ลองทำเครื่องดื่มดู ที่พี่ให้ไปจำคือสูตรเครื่องดื่มที่หนูต้องช่วยพี่เตรียม แต่ไม่ต้องจำทั้งหมดเหรอกเพราะมันเยอะแต่ที่ต้องจำมีอยู่ไม่ถึงสิบเมนูเหรอกส่วนมากลูกค้าก็สั่งเหมือน ๆ กัน” หญิงหญิงสอนงานไปด้วยพูดไปด้วยก่อนที่จะปล่อยให้เมธาทิพย์กลับบ้าน
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้เจอกันนะคะน้องเม็ดทราย พี่ยินดีที่มีหนูเข้ามาทำงาน สอนง่าย เชื่อฟังดีมาก เป็นอย่างนี้นาน ๆ นะคะ”
“ค่ะ พี่หญิงพรุ่งนี้เจอกันนะคะ”
“พรุ่งนี้เจอกันนะฮะน้องเม็ดทราย” ชอปเปอร์บอกกับเมธาทิพย์แล้วก็โบกมือลา ส่วนอีกสองคนอย่างแอปเปิลกับฝนนั้นทำหน้าตาไม่ยินดีเหมือนเดิม
“อยากรู้เหมือนกันหน้าอ่อน ๆ อย่างนั้นจะทำได้กี่วัน” แอปเปิลเอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะเบะปากเหยียด ๆ
หญิงหญิงไม่อยากสนใจสองคนนี้เท่าไรเพราะมีปัญหากับสองคนนี้ก็ต้องมีเรื่องกับลลิตาทำให้หญิงหญิงต้องปล่อยสองคนนี้ไป
“อยากตบปากมันจริง ๆ ดูมันทำหน้า” ชอปเปอร์เอ่ยกับหญิงหญิงแล้วก็มองหน้าสองคนนั้นเหมือนพร้อมบวกอยู่ตลอดเวลา
“อย่าไปสนใจเลย ปล่อยไปเถอะ เราทำงานของเราดีกว่าแกก็รู้ว่ามีคนให้ท้ายสองคนนั่น เราทำงานกันดีกว่า” หญิงหญิงพูดกับชอปเปอร์แล้วก็หันไปทำงานของเธอต่อ
“แล้วแกรู้มั้ยหญิงมันสองคนไปหาเรื่องแม้กระทั่งที่โรงครัว แต่ก็ไม่มีใครอยากมีเรื่องเลยต้องปล่อยมันสองคนเลยตามเลย” ชอปเปอร์เอาเรื่องที่แอปเปิลกับฝนไปสร้างเรื่องมาเล่าให้หญิงหญิงฟัง
“ช่างมันเถอะ มันต้องมีสักวันที่ฟ้ามีตา แกเชื่อฉันมั้ย”
“จริงของแก เราปล่อยให้กรรมทำงานดีกว่า ส่วนเราก็ทำงานของเราไป” ชอปเปอร์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็หันไปเก็บแก้วที่ชงแล้วนำไปล้างตามหน้าที่ของเขา
เมธาทิพย์กลับมาที่บ้านในตอนบ่ายสองด้วยอารมณ์ที่ดีมาก ๆ เพราะสิ่งที่เธอตั้งใจมันเป็นอย่างที่เธอตั้งใจไว้
