บท
ตั้งค่า

Episode 1 พนักงานพาร์ทไทม์

Episode

1

พนักงานพาร์ทไทม์

เมธาทิพย์กำลังนอนดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น พ่อกับแม่ของเธอกำลังเตรียมตัวออกเดินทางไปขายอาหารที่ตลาดนัดในตอนเย็น ซึ่งเธอก็เป็นคนที่ช่วยพ่อกับแม่ของเธอทำอาหารหลายอย่างและมีน้องชายของเธอช่วยด้วยอีกคน

“แม่คะ วันนี้ทรายขอไปขายของที่ตลาดกับแม่ได้มั้ยคะ” เมธาทิพย์ที่ขอพราวนภาแม่ของเธออย่างนี้เกือบทุกวันตั้งแต่ปิดเทอมแต่แม่ของเธอก็ไม่ให้เธอไปด้วย

“ไม่ต้องไปหรอกลูก อยู่ที่บ้านเฝ้าบ้าน ทำงานบ้านให้แม่ก็พอแล้ว ให้น้องไปกับแม่กับคนเดียวก็พอ”

“ทำไมดินไปได้แล้วทำไมทรายไปไม่ได้ล่ะคะ”

“ก็น้องเป็นผู้ชายช่วยยกของได้ ส่วนหนูอยู่บ้านดีกว่านะลูก ทำงานบ้านก็พอ”

“ถ้าอย่างนั้นพี่ทรายเปลี่ยนกับดินมั้ย เดี๋ยวดินอยู่บ้านเอง” เมธานินท์น้องชายของเมธาทิพย์เอ่ยขึ้นมาอย่างมีความหวังว่าแม่จะทำอย่างที่เขาพูด

“ไม่ต้องเลย ดินไปช่วยแม่ดีแล้ว อยู่บ้านก็เล่นแต่เกมงานบ้านก็ทำไม่เป็นสักอย่าง พี่ทรายทำเป็นทุกอย่าง บ้านก็สะอาดเรียบร้อย”

“โอเคแต่วันนี้แม่ต้องซื้อหมูกระทะให้ดินนะ”

“ได้สิแต่เดือนละครั้งพอนะ ค่าใช้จ่ายของบ้านเราก็เยอะไหนจะค่าเทอมของเราสองคน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้านอีก”

“โห!!! แม่ทำไมแม่เป็นคนมีค่าอย่างนี้เนี่ย” เมธานินท์เอ่ยขึ้นทำให้บรรยากาศที่ตึง ๆ เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะแทน

“มุกอะไรของแกเนี่ยดิน แต่ก็พอได้หัวเราะนะ มันตลกเหมือนพ่อจริง ๆ” ทรงยศที่เดินมาจากหน้าบ้านหลังจากที่ไปขยับรถให้มาใกล้ ๆ เพื่อง่ายต่อการขนของขึ้นรถ

“ก็ดินเป็นลูกพ่อก็ต้องเหมือนพ่อ ถ้าให้ดินไปเหมือนลุงข้างบ้านแม่ก็ซวยเลย แฮ่!!!”

“พอ ๆ เลย เล่นไม่เลิก พูดอะไรไปเรื่อยเหมือนขึ้นมาจริง ๆ แม่ก็ยุ่งเลย” พราวนภาที่เหมือนจะดุ ๆ ลูกแต่ตัวเองก็เล่นมุกตลกไปด้วย

ครอบครัวนี้มีด้วยกันทั้งหมดสี่คน แม้ว่าครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ครอบครัวนี้ก็อบอุ่นเพราะทุกคนต่างช่วยกันและทำหน้าที่ของตัวได้ดี ไม่ว่าครอบครัวจะลำบากแต่ก็มีเสียงหัวเราะอยู่เสมอ

เมธาทิพย์ที่นึกถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่แม่ของเธอพูดก็ทำให้เธอคิดเรื่องที่เธออยากไปทำงานพาร์ทไทม์เพื่อช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายถึงไม่มากแต่ก็ดีกว่าที่เธอจะอยู่เฉย ๆ อย่างนี้

วันต่อมาเมธาทิพย์จึงขอแม่บอกว่าออกไปหาเพื่อนแต่จริง ๆ แล้วเธอตั้งใจไปสมัครงานที่เธอได้หามาเกือบทั้งคืน

“แม่คะ วันนี้หนูขอไปหาเพื่อนนะคะ หนูไม่ได้อยู่ช่วยแม่ทำอาหารนะคะ”

“ไปสิลูก วันนี้แม่ก็หยุดเหมือนกัน ตลาดเขาปิดปรับปรุงแม่ก็เลยถือโอกาสพักซะเลย”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ แม่ก็พักอยู่บ้านนะคะ หนูไปก่อนนะคะเดี๋ยวเพื่อนรอ”

“ไปหาเพื่อนหรือไปหาพี่เจมส์กันแน่นะ” เมธานินท์พูดแซว ๆ พี่สาวของเขาแล้วก็หัวเราะออกมา

“อย่าแซวพี่ได้มั้ยเม็ดดิน เรานี่มันจริง ๆ เลยนะ” พราวนภาดุลูกชายคนเล็กของเธอที่ชอบพูดแซวพี่สาวเรื่องแฟนของพี่สาวอยู่เรื่อย

“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พี่ไปหาเพื่อนจริง ๆ เรานี่มันพูดไปเรื่อยจริง ๆ เลยนะดิน”

“ดินแค่หยอก ๆ น่ะครับ ดินขอโทษ”

“ไปเถอะลูก เดี๋ยวเพื่อนรอนะ ส่วนไอ้เจ้านี่เดี๋ยวพ่อจัดการให้” ทรงยศพูดแล้วก็เข้าไปหยอกเล่นกับลูกชาย

เมธาทิพย์นั่งรถสาธารณะมาที่คาเฟ่แห่งหนึ่งที่เธอเห็นในโซเชี่ยลว่าต้องการพนักงานประจำคาเฟ่เพิ่ม เธอเป็นคนชอบทำขนม ทำเครื่องดื่มและชอบทำอาหารทำให้เธออยากมาทำงานที่คาเฟ่และนี่คือที่เดียวที่เธอตั้งใจมาสมัครในวันนี้

คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า “เรนโบว์ คาเฟ่” เมธาทิพย์เดินเข้ามาในบริเวณร้านที่เต็มไปด้วยดอกไม้ชนิดต่าง ๆ มุมต่าง ๆ ภายนอกก็สามารถนั่งได้สบาย ๆ หญ้าสีเขียว ๆ ทำให้มองดูแล้วสดชื่น มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย

เมธาทิพย์ผลักประตูของที่ร้านแล้วเดินเข้าไปในร้านที่ตอนนี้มีลูกค้าอยู่สามโต๊ะและเห็นพนักงานอีกสี่คน เธอยืนมองอยู่สักพักเพราะไม่กล้าเข้าไปถามเพราะกลัวเป็นการรบกวนเพราะลูกค้าค่อนข้างเยอะ

“คุณลูกค้าต้องการรับเครื่องดื่ม ขนมหรืออาหารอะไรดีคะ” พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยถามเมธาทิพย์ขึ้นมาแล้วก็ยิ้ม ๆ อย่างเป็นกันเองช่างเหมาะสมที่เธอทำงานบริการอย่างนี้

“สวัสดีค่ะ พอดีว่าหนูมาสมัครงานค่ะ”

“อ๋อ!!! ถ้าอย่างนั้นนั่งรอพี่สักสิบนาทีนะ เดี๋ยวพี่อบขนมเสร็จก่อนนะ”

“ได้ค่ะ หนูนั่งรอตรงนี้ได้ใช่มั้ยคะ”

“ได้จ๊ะ นั่งเลยนะ ตามสบาย”

เมธาทิพย์นั่งรออย่างตื่นเต้นพร้อมกับทั้งมีความหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่เพราะบรรยากาศร้านมันเหมือนร้านในฝันที่เธออยากเปิดคาเฟ่อย่างนี้ในสักวัน

ผ่านไปสิบนาที พนักงานที่บอกเมธาทิพย์ให้รอก็เดินมาหาเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่มีให้เธออีกครั้ง

“น้องชื่ออะไร พี่ชื่อพี่หญิงหญิงนะ เรียกพี่หญิงสั้น ๆ ก็ได้”

“หนูชื่อเม็ดทรายค่ะ”

“ชื่อน่ารัก หน้าตาก็น่ารัก มาสมัครงานเป็นพนักงานประจำใช่มั้ย” หญิงหญิงเอ่ยถามเมธาทิพย์แล้วก็มองหน้าของเธอยิ้ม ๆ

“ไม่ใช่ค่ะ ทรายยังเรียนอยู่ค่ะแต่ตอนนี้ปิดเทอมเลยอยากหางานพาร์ทไทม์ทำค่ะ ทรายอยากหาเงินไว้จ่ายค่าเทอมเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ค่ะ” เมธาทิพย์บอกกับหญิงหญิงตามความต้องการจริง ๆ ของเธอ

“แต่ทางร้านของเราไม่ได้รับพนักงานพาร์ทไทม์นะจ๊ะ แต่ยังไงพี่จะลองถามบอสดูนะว่าจะรับหรือเปล่าเพราะพี่เองก็ไม่ได้มีสิทธิ์ในเรื่องนี้ด้วย” หญิงหญิงดูอยากรับเมธาทิพย์เข้าทำงานแต่เธอก็เป็นแค่พนักงาน เธอไม่ได้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเรื่องนี้จึงให้คำตอบกับเมธาทิพย์เรื่องนี้ไม่ได้

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยากมาสมัครลองดูเพราะหนูชอบคาเฟ่ที่นี่ค่ะ อีกอย่างหนูชอบทำขนม ทำอาหารค่ะ” เมธาทิพย์พูดออกมาด้วยแววตาที่ค่อนข้างสดใสตามวัยของเธอ

“พี่เชื่อนะว่าที่หนูพูดคือเรื่องจริงเพราะทุกคำที่หนูพูดออกมาแววตาของหนูมันเป็นประกายออกมาบ่งบอกความจริงจัง จริงใจในสิ่งที่หนูพูด เอาอย่างนี้หนูไปกับพี่เดี๋ยวพี่พาหนูไปหาบอสจะได้รู้ว่ารับหรือไม่รับ ป่ะไปกับพี่” หญิงหญิงยื่นมือไปจับที่มือของเมธาทิพย์เพื่อเดินไปที่ห้องทำงานของเจ้าของร้านที่นี่

ภายในห้องทำงานของเอลิน่า ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียวมีหญิงสาวอีกคนที่กำลังนั่งคลอเคลียกับเธออยู่ภายในห้องทำงาน

“พี่เอลินค่ะ ลิตาไปเดินดูกระเป๋ามากำลังลดราคาเลยแต่เดือนนี้ลิตาหมดงบในการซื้อของแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ รอซื้อเดือนหน้าที่คงต้องซื้อแบบเต็มราคาก็ได้ค่ะ” ลลิตานั่งกอดแขนของเอลิน่าพร้อมกับพูดไปด้วย

“ราคาเท่าไรคะ ถ้าลิตาอยากได้พี่ก็พร้อมซื้อให้ได้ว่าแต่ลิตาอยากได้จริง ๆ ใช่มั้ยคะ”

“อยากได้สิคะ พี่เอลินซื้อให้หนูแล้วพี่อยากให้ลิตาทำอะไรให้บอกลิตาได้เลยนะคะ” ลลิตาพูดออกมาเพื่ออ่อยให้เอลิน่าตายใจยอมซื้อกระเป๋าหรูราคาแพงให้กับเธอ

“ลิตาอยากได้กระเป๋า พี่ก็อยากได้ลิตาเหมือนกัน” เอลิน่าพูดจบมือของเธอก็เลื่อนไปจับที่สะโพกกลมแล้วค่อย ๆ เลื่อนริมฝีปากไปใกล้ ๆ ปากของลลิตาหวังจะจูบแต่เสียงเคาะที่ประตูก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel