Chapter|6 คนที่ไว้ใจ ร้ายที่สุด
ฉันใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ร่มเงาของคุณเมฆมาร่วมสัปดาห์แล้ว ทั้งปลอดภัยแล้วก็สุขสบายดี เริ่มปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหญ่และการอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ แม้บางครั้งจะถูกมองแรงไปบ้างก็ตาม แต่ฉันไม่แคร์ คุณเมฆต่างหากที่ฉันต้องใส่ใจและดูแลให้ดีที่สุด
"วันนี้ฉันหยุด"
"คะ คุณเมฆต้องการอะไรหรือเปล่าคะ" หน้าที่สำคัญของฉันที่ต้องยกขึ้นเหนือหัวคือทำความสะอาดห้องทำงานแล้วก็ห้องนอนให้คุณเมฆ ถูกป้านวลกำชับนักหนาเรื่องความสะอาดและจุดสำคัญ
"หูตึงหรือไง"
"อ่อ วันหยุดเหรอคะ คุณเมฆอยากทำอะไรคะหรือว่าจะให้ลินออกไปตอนนี้เลยก็ได้นะคะ คุณเมฆจะได้พักผ่อน" ฉันหยุดเช็ดโต๊ะแล้วเตรียมก้มลงเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด
"ฉันพูดหรือไง"
กึก! ฉันชะงัก แล้วหันไปยิ้มแหยให้เขา
"ลินไม่รู้นี่คะ แล้วคุณเมฆบอกลินทำไมคะ"
"ฉันอยากขับรถไปสูดลมทะเลสักหน่อย" ฉันตาโต ลมทะเลงั้นเหรอ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันจะชวนฉันติดรถไปด้วยหรือไง แบบนั้นได้ที่ไหน
"เชิญค่ะ ไปค้างคืนหรือเปล่าคะลินจะได้เตรียมเสื้อผ้าให้"
"ไปแต่งตัว เธอต้องไปกับฉัน"
"ดะ เดี๋ยวสิคะ ไปไม่ได้ค่ะ ไม่ได้จริงๆ " ทำแบบนั้นได้ยังไง ให้ฉันลอยหน้าขึ้นรถไปกับคุณเมฆ ถ้าเป็นเรื่องงานฉันจะไม่ขัดและรู้สึกลำบากใจแบบนี้เลย
"จำไม่ได้หรือไง ฉันสั่งไว้ว่ายังไง"
"แต่คนอื่นจะมองลินยังไงคะ " บางทีเขาก็ทำตัวเหมือนเด็กที่ชอบเอาแต่ใจ อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว หรือว่าไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลยเอาตัวเองเป็นที่ตั้งคิดว่าตัวเองคือเจ้าของบ้าน เจ้านายอยากสั่งอะไรก็สั่ง
"ไปเก็บของแล้วไปรอฉันที่รถ ฉันจะขับรถไปเอง รู้นะว่าคันไหน"
ฉันอยากร้องไห้แล้วกัดลิ้นตัวเองตาย มีทางเลือกอื่นอีกมั้ยนอกจากจำใจไปกับเขา ตอนนี้ฉันห่วงภาพลักษณ์ตัวเองมากกว่า คนอื่นๆ จะมองฉันยังไง ทุกวันนี้คนในบ้านก็มองฉันด้วยสายตาแปลกไปแล้วตั้งแต่ได้ขึ้นไปบนห้องคุณเมฆไม่ได้แตะงานข้างล่างเลยสักอย่าง
คงเหลือแค่หมิวที่ยังคุยกับฉันเป็นปกติ
"ลิน ไปไหนเหรอ" ฉันก้มมองกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองแล้วพยายามนึกคำตอบ
"พร้อมหรือยัง ขึ้นรถ"
"คุณเมฆ วันนี้ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ"
"ฉันจะไม่อยู่สองวัน ฝากบอกป้านวลด้วย" หมิวทำหน้างง ส่วนฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไร พอออกคำสั่งเสร็จคุณเมฆก็เดินขึ้นรถไป
"ไปก่อนนะหมิว "
ระหว่างทาง ฉันเงียบเขาก็เงียบ คิดเข้าข้างตัวเองอาจจะไปเพราะเรื่องงานด้วยก็ได้ คุณเมฆตั้งใจขับรถมากจนฉันไม่กล้าอ้าปาก เดาอารมณ์ตอนนี้ของเขาไม่ได้เลย
"หิวมั้ย"
"หิวค่ะ" ฉันตอบตามจริงไม่แอ๊บ มองดูเวลาที่หน้าคอนโซลเที่ยงกว่าแล้ว แขวนท้องไปจนถึงคงปวดท้องตายพอดี
ขับไปสักพักก็ถึงปั๊มน้ำมัน เป็นปั๊มขนาดใหญ่มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ ฉันไม่รู้ว่าคุณเมฆหิวด้วยหรือเปล่าเพราะเขานิ่งเกินไป ฉันไม่กล้าถาม
"เอาเงินนี่ไป อยากกินอะไรก็ซื้อมา" ฉันยกมือไหว้แล้วรีบรับแบงก์พันจากมือคุณเมฆ
"คุณเมฆอยากได้อะไรมั้ยคะ"
"ไม่ ฉันจะไปคุยโทรศัพท์ซื้อเสร็จแล้วก็มายืนรอแถวนี้" ฉันพยักหน้าแล้วเปิดประตูลงจากรถ เขาเป็นคนพูดเองว่าอยากไปขับรถรับลมทะเลแต่ทำไมสีหน้าไม่ยิ้มแย้มรู้สึกผ่อนคลายบ้างเลย มีเรื่องอะไรหรือเปล่า แล้วที่ลากฉันมาเนี่ยเพื่ออะไร
ฉันเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ซื้อทุกอย่างที่อยากกิน ขนม แซนด์วิชอบร้อน กาแฟเผื่อคุณเมฆจะกิน ไม่กินก็แล้วแต่เขา น้ำดื่ม แล้วก็น้ำผลไม้ หมดไปหลายร้อย พอจ่ายเงินเสร็จก็มายืนรอหน้ารถ คุณเมฆก็เดินมาพอดี
"ซื้อเสร็จแล้วค่ะ"
"ขึ้นรถ"
พอขึ้นรถมาฉันก็ยืนกาแฟให้เขา
"ขอบใจ"
"ขนมมั้ยคะ ลินซื้อมาเต็มเลย"
"กินเถอะ ฉันไม่หิว"
ฉันนั่งกินขนมจนอิ่มมองวิวข้างทางแล้วก็เผลอหลับไป พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นทะเลแล้ว
"ถึงแล้วเหรอคะ"
"อืม เข้าที่พักก่อน เย็นๆ ค่อยออกมานั่งริมหาด" ไม่รู้สึกเหมือนมาเที่ยวเลยสักนิด ฉันรู้สึกอึดอัดมากกว่า ไม่รู้จะชวนเขาคุยยังไงเพราะกลัวอาการบึ้งตึงนั้นมาก
โรงแรมริมทะเลค่อนข้างเงียบสงบแล้วก็หรูหราตามฐานะ มากะทันหันไม่ทันได้จองล่วงหน้าแบบนี้จะมีห้องว่างเหรอ
"ตอนนี้ห้องของเราเหลือสองห้องค่ะ แต่เป็นห้องสวีททั้งสองห้องนะคะ "นั่นไง ห้องสวีทราคาตั้งกี่หมื่น ถ้าเปิดสองห้องราคาไม่เหยียบแสนเลยเหรอ
"ลินไปหาห้องพักราคาถูกแถวๆ นี้ก็ได้ค่ะ" เงินแสนฉันรู้ว่าเขามี แต่ฉันเสียดาย
"เปิดห้องเดียว" เขาหันไปพูดกับพนักงาน ฉันยิ้มโล่งอก
"ขอโทษนะคะ แถวนี้มีห้องพักราคาถูกบ้างมั้ยคะ" ฉันยื่นหน้าไปถามพี่พนักงาน หาห้องพักถูก ๆ คงมีแล้วก็อยู่ไม่ไกลเมื่อกี้ฉันเห็นอยู่ตอนรถผ่าน
"อยากประหยัดก็อยู่ด้วยกัน" ฉันอ้าปากค้างพูดไม่ออก ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้สักหน่อย
"คีย์การ์ดค่ะ" พนักงานยื่นคีย์การ์ดมาให้แล้วคุณเมฆก็เดินหนีไม่รอฉันเลย
"คุณเมฆคะ เราจะนอนห้องเดียวกันไม่ได้นะคะ"
"ทำไม มากกว่านอนเราก็เคยมาแล้ว"
ฉันร้องกรี๊ดในใจทำอะไรเขาไม่ได้เลย สุดท้ายก็ต้องนอนห้องเดียวกับเขา ฉันทำอะไรได้บ้างนอกจากยอม เขาพามาไกลขนาดนี้กลับบ้านเองไม่ถูกหรอก แต่พอก้าวเข้ามาในห้องแล้วอารมณ์ที่กำลังร้อนก็เย็นลงเพราะความสวยของห้อง มันดีมาก ๆ
วิวสามร้อยหกสิบองศาเห็นทะเลสุดลูกหูลูกตา มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ที่นี่มีบริการถ่ายรูปกับตะกร้าอาหารลอยน้ำด้วยหรือเปล่าฉันอยากถ่ายแบบนั้นบ้างจัง จะมีโอกาสมั้ย
" ลินนอนโซฟาได้ค่ะมันใหญ่น่านอนดี"
"แล้วแต่เธอ "
ระหว่างที่ฉันจัดของ หามุมนอนของตัวเองโทรศัพท์คุณเมฆก็มีสายเข้า ฉันไม่ได้สนใจคงเป็นเรื่องงานแต่เท่าที่ได้ยินมันไม่ใช่เขากำลังเคลียร์กับคนในสายไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถึงกับทะเลาะกันเสียงดัง
"ผมไม่เคยปิดบัง ถ้าคุยไม่รู้เรื่องแบบนี้อย่าคุยกันดีกว่า" หรือว่าจะทะเลาะกับแฟน ตายจริง ทำให้ฉันรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ผู้หญิงที่อยู่ในห้องนี้ควรจะเป็นแฟนคุณเมฆไม่ใช่คนใช้อ๊องๆ อย่างฉัน
"บัว! ผมไม่ชอบ บอกกี่ครั้งแล้วว่าผมไม่ชอบ" นั่นไง ใช่เลยแฟนคุณเมฆโทรมา ตอนแวะปั๊มก็คงเป็นคุณบัวแน่นอนที่โทรเข้ามา
คุณเมฆวางสายแล้วโยนโทรศัพท์ลงเตียงดังตุ๊บ! คงโมโหจริงๆ เพราะเขาเงียบไปเลยปกติก็เงียบมากอยู่แล้ว
ฉันรู้สึกอึดอัดก็เลยเดินออกมาจากห้อง เขาคงอยากอยู่คนเดียวด้วยแหละ เฮ้อ! ฉันออกมาเดินรับลมทะเล โชคดีมากๆ ที่เป็นหาดส่วนตัวของโรงแรม ไม่วุ่นวายแล้วก็ได้พักความคิดและจิตใจของตัวเองได้อย่างดีเลยทีเดียว
ฉันจะตีตัวออกห่างจากคุณเมฆยังไงดี ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุทำให้คู่รักทะเลาะกัน ไม่รู้ว่าคุณเมฆคิดอะไรอยู่ เขารู้ตัวดีใช่มั้ยที่ทำแบบนี้ ฉันยังไม่อยากกลับห้องอยากเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ปล่อยคุณเมฆไว้แบบนั้นนั่นแหละ
ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าฉันก็ยังไม่อยากกลับห้อง โทรศัพท์ก็ไม่ได้หยิบติดมือมาด้วย
"ขอโทษนะคะ ใช่เด็กรับใช้บ้านคุณเมฆหรือเปล่า" ฉันรีบลุกจากพื้นทรายแล้วพยักหน้าให้ผู้หญิงที่แต่งตัวดีคนหนึ่ง น้ำเสียงเธอฟังแล้วไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"เธอนี่เองที่เป็นต้นเหตุทำให้เพื่อนของฉันเข้าโรงพยาบาล" ฉันไปทำอะไร?
"เพื่อนคุณ คนไหนคะ "
"ยัยบัวประสบอุบัติเหตุก็เพราะเธอ เป็นคนใช้มันไม่พอกินหรือยังไง รู้หรือเปล่าว่าเขามีเมียแล้ว" ฉันตัวชาไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากเถียงเพราะเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดมันคือความจริง ความจริงที่ฉันกลัวมาก ๆ
"คือลินไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ นะคะ ลินแค่"
"ก็แค่เด็กใจแตกขายตัว อ่อ เดี๋ยวนะ ได้ข่าวมีคลิปหลุดด้วยนี่" ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้วอยากไปไกลๆ
"ลินขอโทษค่ะ"
"เพื่อนฉันเจ็บ คิดว่าขอโทษแค่นี้แล้วมันช่วยได้หรือไง"
"ลินจะไม่เข้าใกล้คุณเมฆอีกค่ะ"
"ไปจากคุณเมฆได้ยิ่งดีนะถ้าไม่อยากหายสาบสูญ" คนพวกนี้ทำไมใจร้ายนัก ใจร้ายหมดทุกคนเลย
ฉันเคยคิดว่าคุณเมฆคือเซฟโซนแต่ตอนนี้ไม่มีใครช่วยอะไรฉันได้เลย เขานั่นแหละที่ทำร้ายฉัน
ดีแค่ไหนที่ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่คำพูดพวกนั้นก็ทำฉันเจ็บจนแทบไม่มีแรงเดินได้เหมือนกัน ฉันเดินกลับห้องสภาพน้ำตานองหน้า ฉันก็คนมีความรู้สึก พอเปิดประตูเข้ามาก็พบกับความเงียบ บนเตียงสีขาวมีโพสอิทวางอยู่ ฉันเดินไปหยิบมันขึ้นมาอ่าน
"มีเรื่องด่วน ฉันจะส่งคนขับรถมารับพรุ่งนี้เช้า"
เป็นไปตามคาด ฉันปล่อยกระดาษโพสอิทในมือลงพื้น ช่างเขาสิไปซะได้ก็ดีก่อเรื่องไว้แล้วก็ต้องรับผิดชอบ ห้องสวีทคืนนี้เป็นของฉันไวน์ที่แช่อยู่ในถังน้ำแข็งนั่นด้วย
ในเมื่อเขาใจร้ายฉันก็จะไม่ไว้ใจเขาอีกต่อไป
_______