บทที่ 3 วิวาห์น้ำตา
พีรดาเก็บความแค้นไว้ในอก แล้วสะอื้นออกมา
“พี่อรโกรธดาก็ไม่แปลกหรอกนะคะ เพราะดาทำผิดกับพี่ ดาขอโทษ ดาอยากให้พี่อรอภัยให้ดาสักครั้ง ได้ไหมคะ”
“หุปปากเน่าๆ ของเธอไปซะพีรดา ไม่ว่าเธอจะพ่นคำพูดอะไรออกมาในตอนนี้ ฉันก็ไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น!”
คนฟังแสร้งปาดน้ำตา “ดาขอโทษค่ะพี่อร”
อำพันสะท้อนในอก เคยสัญญากับภรรยาผู้ล่วงลับไว้ว่าจะดูแลบุตรสาวเพียงคนเดียวให้ดี ทว่าเขากลับทำไม่ได้ ลูกสาวกลับต้องมาแบกรับความเจ็บปวด จากลูกติดภรรยาใหม่ มันทำให้รู้สึกผิดมากจริงๆ เขาไม่อาจทนเห็นบุตรสาวต้องทรมานไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ชายชราเดินเข้าไปด้านในห้อง ทำเอาบ่าวสาวชะงัก เขาหันมาสบตาลูกเลี้ยงและอดีตลูกเขย ก่อนกระชากผ้าคลุมเตียงซึ่งปกคลุมด้วยกุหลาบสีแดงสด แล้วเหวี่ยงลงกับพื้น กวาดทุกอย่างบนโต๊ะลงมา แล้วทำลายข้าวของภายใน พีรดายกมือปิดปากสีหน้าตื่นตระหนก เขาหอบหายใจแล้วจ้องมอง
“แกสองคนออกไปจากบ้านฉัน!” เขาหันไปมองภรรยา “เธอก็ไสหัวไปด้วยกันเลยไป!”
พรรณนิภากอดขาเขาไว้แน่น แล้วก้มกราบกรานแทบเท้าน้ำตานองหน้า
“คุณพี่คะ อย่าไล่ฉันไปเลยนะคะ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณพี่” พรรณนิภาคร่ำครวญ
อรปรียาทอดสายตามองแววตาปวดร้าว เห็นสีหน้าพ่อแล้วยิ่งทำให้ทรมาน พ่อคงมีเยื่อใยกับนังแม่มดนี้ แต่เธอเกลียดพวกมันสองแม่ลูก ที่ทำลายชีวิตเธอ ทำให้อับอาย การถูกทรยศหักหลังมันช่างเจ็บปวดมากเหลือเกิน ไม่อยากเชื่อเลย ผู้ชายที่คบหากันมาถึงห้าปี จะทำร้ายกันได้ลงคอ หากเขามั่นคงต่อเธอสักนิด ต่อให้ยานั่นมีผลร้ายแรงแค่ไหน เธอเชื่อว่าเขาต้องหาทางเอาตัวรอดมาได้ ที่สำคัญ โยธินไม่ควรไปยุ่งกับพีรดาตั้งแต่แรกเพื่อให้เกิดเรื่อง แสดงว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้รักเธอเลยต่างหาก
“คุณพ่อ ดาผิดไปแล้ว อย่าไล่คุณแม่ไปเลยนะคะ” พีรดาหมอบลงแทบเท้าอีกคน
อำพันธ์ถอยหลังหนี “เธอไสหัวออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว!”
พีรดาสบตามารดา แววตาไหววูบ ไม่คิดว่าเหตุการณ์มันจะร้ายแรงบานปลายถึงเพียงนี้ คิดว่าแม่คงหาทางเกลี่ยกล่อมพ่อได้ ถ้าถูกไล่ออกจากที่นี่ไป เธอจะเหลืออะไร
“จะให้ดาไปไหนคะพ่อ ดาอยากอยู่ปรนนิบัติคุณพ่อกับคุณแม่นะคะ” เธอแสร้งอ้อนวอนน้ำตานองหน้า
ริมฝีปากบางเม้มสนิท ยกท่อนแขนกอดอก
“ถ้ามันไม่ไป อรจะไปเอง พ่อเลือกเอาเองก็แล้วกันค่ะ!” อรปรียายื่นคำขาด
“อร...ลูก แม่ขอร้องล่ะนะ แม่รู้ว่าน้องผิด แม่จะสั่งสอนน้องเอง อรอย่าใจร้ายกับแม่กับน้องเลยนะ” พรรณนิภาแสร้งบีบน้ำตา
อำพันธ์ขบกรามแน่น เขาไม่อยากผลักไสภรรยาออกไป แต่จำต้องเห็นแก่ลูกสาวเพียงคนเดียว
“แล้วอรล่ะ ใครเห็นใจบ้าง” เธอตวัดสายตามองคนรักและน้องสาวต่างสายเลือด “อรถูกกระทำ แต่กลับต้องยอมให้คนที่ทำร้ายอรอยู่ร่วมบ้านงั้นเหรอ พวกคุณต่างหากที่ใจร้าย ไม่ใช่อร!”
“ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะให้คนมาลากพวกแกออกไป!” อำพันธ์สั่งเสียงเข้ม
พรรณนิภาปล่อยโฮออกมา แล้วรีบตรงมาหาลูกเลี้ยง เงยหน้ายกมือพนม
“อร.... แม่ขอแค่ได้อยู่ปรนนิบัติพ่อเท่านั้น ขอแค่นั้น ให้แม่เป็นคนใช้ก็ได้ แม่ขอร้องล่ะ”
เธอเห็นสายตาของพ่อ ที่ดูเศร้าหมอง ริมฝีปากบางเม้มสนิท ก็เข้าใจได้ แม่เลี้ยงเธอช่างออดอ้อนเอาใจ พ่อคงเหงาอยากมีคนดูแลข้างกาย จะทำเพื่อพ่อสักครั้ง
“พ่อจะว่ายังไงคะ” อรปรียาหันไปถามบิดาอีกครั้ง
“พ่อให้อรตัดสินใจเรื่องนี้ได้เลย”
“ถ้าอย่างนั้นอรจะให้คุณอยู่ที่นี่ในฐานะแม่บ้าน คอยดูแลพ่อ และทำความสะอาดบ้าน” พูดจบหันไปมองน้องสาว “ส่วนเธอกับผู้ชายคนนั้น ไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ ถ้าหากอยากมาเยี่ยมแม่ ก็ไปเจอกันข้างนอก อย่าได้มาเหยียบที่นี่!”
โยธินนิ่งงัน หมดกัน ความพยายามทั้งหมดว่างเปล่า แล้วเขาจะเอาตัวพีรดามาทำไม ในเมื่อเธอไม่ได้มีอะไรทัดเทียมกับอรปรียาเลยสักนิด
“อรทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของผมเลย”
“อะไรนะพี่โย เราสองคนไม่ได้มีอะไรกันแค่ครั้งเดียวนะ พี่ลืมไปหรือเปล่า จะบอกว่าไม่ตั้งใจได้ยังไงกัน!” พีรดาร้องแทรกออกมา
เพียะ!
ใบหน้าคมหันตามแรงฝ่ามือ อรปรียาเก็บความเจ็บเอาไว้ภายใน จ้องมองอดีตคนรักแววตาหมางเมิน
“อร...” โยธินร้องเรียกชื่อเสียงแผ่วเบา
“ไม่มีใครบังคับคุณให้เลว แต่คุณทำตัวเอง คุณน่าจะคิดได้โยธิน ว่าถ้าคุณนอกใจฉันมันจะเป็นยังไง!”
“แต่ผมยังรักคุณอยู่นะอร”
“หยุดพูดคำชวนอ้วกกับฉัน เพราะมันไม่มีค่าไม่มีราคา ตั้งแต่วันที่คุณนอกใจฉันแล้วโยธิน!” หญิงสาวตวาดเสียงสั่น
มือบางยกชี้ไปที่ประตู ที่นี่มันเป็นบ้านของเธอ พวกมันไม่มีสิทธิ์เข้ามา ห้องที่อยู่ในตอนนี้ คือห้องหอของเธอ
“ไสหัวออกไปทั้งคู่เลย ออกไป!”
“อร... แล้วผมจะทำยังไง ผม..” โยธินพูดไม่ออก บริษัทตนพึ่งพาคนรักไว้มาก ทั้งเงินทุน หรือการร่วมหุ้น แล้วแบบนี้เขาจะดำเนินการต่อไปอย่างไร “บริษัทที่เราสร้างด้วยกันล่ะอร คุณจะทิ้งมันเหรอ”
คนสวยเชิดหน้าขึ้น ลิลลี่รีบจับมือเพื่อนไว้ให้กำลังใจ
“ใครว่าฉันจะทิ้ง ฉันจะเอามันคืนจากคุณต่างหาก!”
“อะไรนะ!” เขาร้องลั่น
“คุณมาแต่ตัว ก็ไปแต่ตัว บริษัทนี่ฉันสร้างมา ไม่ใช่คุณ คุณมันก็แค่อาศัยชื่อเท่านั้น!”
พีรดาหันไปจ้องมองสามี ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน คิดมาตลอดว่าอย่างน้อยเขาก็เป็นประธานบริษัท แต่ทุกอย่างกลับถูกสร้างมาจากพี่สาวต่างสายเลือดงั้นเหรอ
“บริษัทไม่ใช่ของพี่เหรอคะ” พีรดาถามเสียงสั่น
เขาตวัดสายตามอง “มันเป็นของฉัน แล้วก็ของอรด้วย เราสองคนสร้างมาด้วยกัน ถ้าเธอไม่วางยาฉัน ทุกอย่างมันคงไม่มาถึงจุดนี้ เธอทำลายชีวิตฉันพีรดา!”
อรปรียาจ้องมองทั้งคู่ที่เอาแต่ทะเลาะกัน
“อย่ามากัดกันในบ้านฉัน ออกไปได้แล้ว!”
“อร! พี่ขอโอกาส”
“ไม่มี ไสหัวไป!”
“ดุสิตมาลากตัวพวกมันออกไปให้พ้นบ้านหลังนี้!” อำพันธ์ตะโกนสั่งลูกน้อง
ชายรูปร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาพร้อมคนอื่น แล้วนำตัวสองคนออกไปข้างนอก อรปรียาตวัดสายตามองแม่เลี้ยง
“ส่วนคุณก็ไปอยู่ที่ครัวได้แล้ว พ่อต้องทานข้าวทานยา!”
พรรณนิภารีบลุกยืน “ได้จ้ะหนูอร” เธอรับคำแล้วเดินออกจากห้องไป
อรปรียาเม้มริมฝีปาก น้ำตาเริ่มไหลรินออกมา อำพันธ์ดึงลูกสาวมาโอบกอดไว้เพื่อปลอบประโลม รู้สึกผิดมากเหลือเกิน ที่ไม่ได้ใส่ใจลูกมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นเรื่องเลวร้ายแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น