บทที่ 2 วิวาห์น้ำตา
เวลาผ่านไปราวสองชั่วโมง ร่างในห้องแต่งตัวค่อยๆ ขยับ มือบางยกกุมขมับ ก่อนคืบคลานเข้าหาเพื่อน แล้วเขย่าเพื่อปลุกให้ตื่น
“ลิลลี่!”
คนถูกปลุกขยับกาย อาการง่วงงุนยังไม่หาย ฝืนดันกายลุกนั่ง สะบัดไล่ความมึนงงออกไป
“อร... ฉันเป็นอะไรไม่รู้แก ทำไมมันง่วงแบบนี้”
อรปรียาสูดลมหายใจ เรียกสติตนเองกลับมา ก่อนรู้สึกตัว ว่าตนเองกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ รีบลุกยืนจนแทบเซ ก่อนตรงไปยังประตู แล้วจับลูกบิด เวลาผ่านนานเท่าไหร่แล้ว มือจับลูกบิดแต่กลับเปิดมันไม่ออก
ปัง ปัง
เธอทุบประตู แล้วพยายามเปิด แต่กลับไม่เป็นผล อรปรียามองเพื่อนแววตากังวล มันเกิดอะไรขึ้น นี่เธอกับเพื่อนถูกขังอย่างนั้นเหรอ มองนาฬิกาตรงผนัง บอกเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว ป่านนี้แล้วงั้นเหรอ ทำไมทุกคนถึงไม่มาตามหา หากเจ้าสายหายตัวไป
“ลิลลี่... มันเกิดอะไรขึ้น หกโมงแล้ว เราไม่เข้าพิธีแต่ไม่มีคนมาตามเลย!” อรปรียาเสียงสั่น น้ำตาคลอ
ลิลลี่รีบลุก แล้วเดินมาตรงประตู ช่วยเพื่อนเปิด เมื่อไม่ออกเลยสบตาเพื่อน
“มันไม่ปกติแล้วอร ประตูเปิดไม่ได้แสดงว่าเราถูกขัง”
“แล้วใครกันที่ทำแบบนี้ ทำเพื่ออะไร!”
สองร่างเดินเคียงกันมายังห้องหอ ผู้เฒ่าอวยพรแล้วพากันออกไป ประตูปิดลง โยธินจ้องมองเจ้าสาวที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง เขาลุกยืนจ้องมอง
“นี่มันหมายความว่ายังไง!” เขาถามเสียงกร้าว
พีรดาบีบน้ำตา กัดริมฝีปากไว้แน่น
“ดาท้อง ดาบอกพี่โยแล้วไม่ใช่เหรอคะ แต่ทำไมพี่โยถึงยังยืนยันจะแต่งงานกับอรอีก พี่โยไม่เห็นใจดา ดาเลยต้องทำแบบนี้ ดาไม่อยากท้องไม่มีพ่อ” พีรดาสะอื้นออกมาไม่หยุด
คนฟังขบกรามแน่น ดวงตาวาววับ เรื่องที่มันเกิดขึ้นเพราะผู้หญิงคนนี้ให้ท่าเขาเองต่างหาก ถึงกับวางยาเพื่อให้เขามีอะไรด้วย สุดท้ายมันถึงได้ลงเอ่ยแบบนี้
“พี่จะแน่ใจได้ยังไงว่าเด็กในท้องคือลูกของพี่!” เขาย้อนถามเสียงแข็ง
“ทำไมพี่โยพูดแบบนี้ล่ะคะ ดานอนกับพี่แค่คนเดียวนะคะ!”
“ใครจะรู้ก่อนหน้านั้น ดาอาจจะนอนกับคนอื่นจนท้อง แล้วมาจับพี่ก็ได้!”
“พี่โย พี่พูดแบบนี้ได้ยังไงคะ!”
เขาตวัดสายตามอง แล้วขบกรามแน่น ความผิดพลาดครั้งนี้ คนรักคงไม่มีวันอภัยแน่ เขาไม่คิดว่าพีรดาจะเล่นแบบนี้
“ตอนที่เราได้กัน ดาก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ผุดผ่องสักหน่อย”
พีรดาบีบมือตนเอง ร่างกายสั่นเทิ้ม พยายามควบคุมอารมณ์อย่างสุดกำลัง
“ไม่ว่าพี่จะยอมรับหรือไม่ เรื่องระหว่างเรา พี่อรกับพ่อคงรับรู้แล้ว พี่ไม่มีทางเลี่ยงได้อีก!” เธอกัดฟันแน่น “พี่อรไม่มีทางอภัยให้กับพี่ พี่น่าจะรู้แก่ใจพี่โย!”
ปัง!
เสียงประตูเปิดเข้ามา สองคนในห้องชะงัก เมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวของ พรรณนิภาจับท่อนแขนสามีด้วยความหวาดหวั่น อำพันจ้องมองบุตรสาวติดภรรยาแล้วตรงเข้าไปหา
เพียะ!
ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ โลหิตไหลซึม เธอกุมหน้าตนเองแล้วหันไปสบตาคนตบ แววตาไหววูบ
“แกมันเลว! ฉันชุบเลี้ยงแกมาอย่างดี มีทุกอย่างทัดเทียมพี่สาวแก แต่แกกลับทำเรื่องหน้าด้านไร้ยางอายได้ลงคอ ผู้หญิงอย่างแก ไม่มีอะไรเทียบลูกสาวฉันได้เลย พีรดา!”
คนโดนด่าทอปากสั่น เก็บกดน้ำตาเอาไว้ภายใน ลุกยืนเผชิญหน้ากับบิดาเลี้ยง
“พ่อจะต่อว่าดา จะตบดาอีกก็ได้ แต่ที่ดาทำไปเพราะดารักพี่โยค่ะ”
ชายชราตวัดสายตามองไปยังชายอีกคนในห้อง แล้วกระชากคอเสื้อ โยธินหน้าซีดปากสั่น
“แกกล้าดียังไงทำแบบนี้ เอาทั้งพี่ทั้งน้อง คนอย่างแกฉันรับมาเป็นลูกเขยก็บุญหนักหนา แต่แกกลับกล้าทำร้ายลูกสาวฉันอย่างเลือดเย็น ไอ้สารเลว!”
ผลั่ก!
โยธินล้มลงกองกับพื้น เลือดตรงจมูกไหลออกมา พีรดารีบตรงเข้าประคอง แต่เขากลับสะบัดไม่ให้อีกฝ่ายจับ ชายหนุ่มลุกยืนขบกรามแน่น
“คุณพ่อรู้อะไรไหม” เขาบอกเสียงรอดไรฟัน แล้วชี้ไปทางพีรดา “ลูกสาวคนเล็กของพ่อ เป็นคนวางยาผม ทำให้ผมต้องนอนด้วย จนท้องแบบนี้ไง พ่อจะโทษผมคนเดียวได้ยังไง ในเมื่อลูกสาวพ่อมันก็ร่านอยากได้ผมด้วย!”
“แล้วเมื่อกี้ฉันตบหมาหรือไง ทำไมฉันจะไม่รู้ ว่าลูกสาวฉันมันสันดานเป็นยังไง!” อำพันตอกกลับเสียงแข็ง แล้วชี้หน้าอดีตลูกเขย “ถ้ารู้ว่ายัยดาอ่อยแก ทำไมแกไม่รู้จักระวังตัว ไอ้โยธิน แกมันโง่!”
พรรณนิภาจับท่อนแขนสามี แววตาอ้อนวอน เธอไม่อยากให้ลูกสาวถูกด่าทอไปมากกว่านี้
“ฉันรู้ว่ายัยดาผิด แต่ขอร้องล่ะค่ะ อย่าต่อว่าอะไรกันไปมากกว่านี้เลย”
“เธอก็สั่งสอนลูกดีนักนะ ที่มันปีกกล้าขาแข็งแบบนี้ ก็เพราะเธอไง!” เขาตวาดลั่น จนภรรยาต้องปล่อยท่อนแขน
เสียงฝีเท้าดังแว่ว พร้อมร่างในชุดเจ้าสาวหยุดยืนตรงหน้าประตู ห้องนี้ถูกจัดวางดอกไม้ไว้อย่างสวยงาม มันเป็นเรือนหอของเธอกับเขา แต่ตอนนี้สิ่งที่ได้ยินมันทำเอาหัวใจแทบแหลกสลาย อำพันเหลือบมองทางบุตรสาวที่ยืนนิ่งจ้องมองภาพของสองคนในห้องที่ควรเป็นค่ำคืนแสนหวานของเธอ
“ยัยอร” คนเป็นพ่อเผลอเรียกชื่อบุตรสาว
ลิลลี่รีบบีบไหล่เพื่อนด้วยความสงสาร แล้วจ้องมองคนทรยศทั้งสองแววตาแข็งกร้าว
“อร... ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ผมอยากให้คุณเข้าใจว่าผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับดาเลย” โยธินพยายามอธิบายเสียงสั่น
“คุณแอบกินกับคนอื่นลับหลังฉันงั้นเหรอโย คุณคิดว่าตัวเองมีค่ามากพอที่จะทำร้ายฉันแบบนี้หรือไง!” หญิงสาวตะโกนถามเสียงลั่น
พีรดากระตุกยิ้มมุมปาก รีบตรงเข้ามาหาพี่สาวต่างสายเลือด ตั้งใจกุมมืออีกฝ่าย
เพียะ!
ทว่าฝ่ามือกลับกระทบใบหน้า คนโดนตบยกมือกุมแก้มไว้ แล้วตวัดสายตามองด้วยความไม่พอใจ
“พี่อร!” พีรดาร้องเรียกชื่อแล้วกัดฟันกรอด
“เลิกเสแสร้งมารยาทำไร้เดียงสาเสียที แล้วอย่าได้คิดมาแตะต้องฉัน ฉันไม่อยากให้เธอมาโดนตัวให้เป็นเสนียด แค่นี้ฉันก็จะอ้วกกับสิ่งที่เธอแสร้งทำแล้ว พีรดา!”