บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 วิวาห์น้ำตา

ร่างงานในชุดเกาะอีกสีขาว ยามคลุมเท้า ผมถูกรวบเหนือศีรษะแล้วปล่อยปอยผมเคลียแก้ม ประดับด้วยมุก ผิวหน้าถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีส้มอ่อน ถุงมือสีขาวถูกสวมยาวถึงคอศอก อรปรียา วิวัฒน์ธนากร จ้องมองตนเองในกระจกด้วยความพึ่งพอใจ ก่อนหันไปมองเพื่อนสาวประเภทสองซึ่งทำหน้าที่ช่างแต่งหน้าให้

“แกสวยมากเลยยัยอร!” ลิลลี่ร้องทัก แล้วแสดงสีหน้าภูมิใจกับฝีมือตนเอง

“ขอบใจมากนะลิลลี่ ที่แกต้องมาเหนื่อยเพื่องานฉันแบบนี้”

“ไม่เป็นไรเลย ฉันเต็มใจ”

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตู ก่อนที่มันจะเปิดออก พนักงานโรงแรมเดินเข้ามา แล้ววางถาดอาหารว่าง ประกอบด้วยน้ำผลไม้คั้นสด และแซนวิสเพื่อรองท้อง

“ฉันไม่ได้สั่งนะคะ” อรปรียาเอ่ยปากบอกพนักงาน

“คุณพีรดาสั่งมาให้คุณครับ”

ว่าที่เจ้าสาวชะงัก มองถาดอาหาร ยัยดานะเหรอ ไม่เห็นหน้าเลยวันนี้หายหัวไปไหนกันนะ ปกติแล้วจะมาช่วยแต่งหน้าแต่งตัว ในวันพรีเวดดิ้งยังมาช่วยกันอยู่เลย

“วันนี้ไปไหนกันหมด ไม่เห็นมีใครมาช่วยแกเลยอร”

“คงอยู่หน้างานกันหมดน่ะ”

อรปรียาหยิบแก้วน้ำส้มมากระดกดื่มแก้กระหาย ดีแล้วที่น้องสั่งอาหารรองท้องมาให้ ไม่เช่นนั้นตลอดวันเธอคงเป็นลมแน่ ไหนต้องรับแขกอีก กินเวลาหลายชั่วโมง คงพาให้อ่อนแรง

“กินสิลิลลี่ แกยังต้องช่วยฉันอีกเยอะ” อรปรียารีบบอกเพื่อน

ลิลลี่รีบหยิบแซนวิสเข้าปากด้วยความหิว เพราะมาแต่งหน้าให้เพื่อนตั้งแต่เช้า เลยไม่มีอะไรรองท้องมาก่อนเลย

“พูดถึงน้องแกก็ดีนะ ถึงจะไม่ใช่พ่อแม่เดียวกัน ก็ดูจะใส่ใจแกออก”

“ก็คงงั้นมั้ง แต่อยู่ด้วยกันมาครึ่งปี ก็ไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่น่ะ ฉันทำงานที่บริษัท ส่วนยัยดาก็ทำงานที่ร้านเสื้อผ้าของตัวเอง”

“ไม่ค่อยคุยกัน แต่ยังมีใจไหว้วานให้พนักงานมาส่งน้ำส่งขนมให้แกเนี่ยนะ แปลกพิลึก”

คนฟังยักไหล่ “คงเห็นว่าเป็นงานแต่งฉันล่ะมั้ง”

ลิลลี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ไม่ได้สนใจอะไร

“รีบกินเข้า ใกล้ได้เวลาแล้วลิลลี่!” อรปรียาบอก แล้วยัดขนมใส่ปาก

เธอมายืนหน้ากระจกเพื่อตรวจความเรียบร้อย แต่อาการบางอย่างกลับเข้าแทรก ความง่วงทำเอาเจ้าสาวแทบทรงตัวไม่อยู่ เช่นเดียวกับเพื่อนสาว ที่ทรุดกายลงนั่งยกมือขึ้นกุมขมับ

“ฉันง่วงมากเลย ลืมตาแทบไม่ไหวแล้ว”

“เหมือนกันเลย ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้”

สองร่างไม่อาจทานทนต่อความง่วง ทำให้สลบลงบนพื้นในที่สุด ประตูถูกเปิดออก พรรณนิภาชะโงกมองด้านใน เห็นคนในห้องสองคนหลับสนิทอยู่กับพื้น เลยหันมองบุตรสาวตนเอง

“เป็นไงแม่!” พีรดาเอ่ยถาม สีหน้าเครียด

“หลับไปแล้วล่ะ”

“ถ้างั้นแม่ก็รีบออกมา เดี๋ยวไม่ทันงาน!”

พรรณนิภาปิดประตูลงตามเดิม แล้วใส่กุญแจอย่างแน่นหนา ก่อนรั้งข้อมือบุตรสาวให้ก้าวตามไป

“มันจะดีเหรอแม่ทำแบบนี้” พีรดาเอ่ยถาม สีหน้าเครียด “พ่อได้เล่นงานเราแน่”

“แกไม่ต้องห่วงเลยยัยดา แม่จัดการเอง พ่อโมโหแค่ไหนก็คงไม่ฆ่าเราตายหรอก ไม่ว่าเรื่องไหนแกก็แพ้มันตลอด แต่เรื่องนี้แหละ ที่แกจะชนะ ชนะมันแบบไม่เห็นฝุ่นเลย!” พรรณนิภายิ้มกว้าง แววตาหมายมาด

พีรดากระตุกยิ้มมุมปาก สีหน้ายินดี คราวนี้อรปรียามันต้องกระอักเลือดออกมาแน่ น้ำตาคงไหลออกมาเป็นสายเลือด ถ้าน้องต่างพ่อต่างแม่กลายเป็นเจ้าสาวแทน ก็ขอให้ฝันดี เพราะถ้าตื่นมาจะเจอกับฝันร้าย น่าสงสารเสียจริง

เจ้าสาวคลุมหน้าด้วยตาข่าย แล้วเดินเข้าสู้พิธีวิวาห์ เจ้าบ่าวสีหน้าตื่นตระหนก ทันทีที่เจ้าสาวมายืนต่อหน้า ริมฝีปากหนาเม้มแน่น อำพันธ์มองท่าทางของลูกเขย และบุตรสาวที่ดูแปลกไปกว่าทุกวัน เขาสาวเท้าไปยังสองคน ทว่าภรรยากลับรั้งไว้

ดวงตาหรี่ลงจ้องมองอย่างไม่ลดละ มันไม่ใช่แล้ว ลูกสาวของเขา รูปร่างและหน้าตาไม่ใช่แบบนี้ นี่มันยัยดาลูกติดภรรยาของเขา หันมองพรรณนิกาแววตาแข็งกร้าว

“มันเรื่องบ้าอะไรกัน พวกเธอทำอะไร!” เขากระซิบเสียงแข็ง

“คุณพี่ใจเย็นก่อนนะคะ นั่งลงก่อนค่ะ”

“จะให้ใจเย็นได้ยังไง นี่มันงานแต่งลูกสาวฉัน เธอทำอะไร ยัยอรตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่!” เขาพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้แขกในงานสงสัย

อำพันธ์กำมือแน่นแววตาวาวโรจน์ แย่งสามีพี่สาวงั้นเหรอ ช่างกล้าดีนักนะ

“ฉันจะยุติงานนี้”

“ไม่ได้นะคะคุณพี่ ถ้าทำแบบนั้น ทั้งยัยดาและอรต้องถูกคนอื่นนินทาว่าแย่งสามีกันแน่นอนค่ะ” พรรณนิการีบห้าม

เขาสบตาภรรยา เห็นสีหน้าแววตาก็พอรู้ ดูท่าแล้วเรื่องนี้ต้องมีลับลมคนในแน่นอน

“เธอใช่ไหมพรรณนิภา เธอวางแผนทำเรื่องชั่วนี้ใช่ไหม!” คนพูดกัดฟันกรอด

“เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างที่คุณพี่คิด”

“ฉันจะไม่มีวันยอมให้งานบ้าๆ นี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด!” เขาลุกยืน สัญญากับอดีตภรรยาไว้แล้ว หลักจากเธอต้องจากไปเพราะโรคร้าย จะไม่มีวันทำให้อรปรียาต้องเสียใจ

มือหนาถูกรั้งไว้ พรรณนิภาน้ำตาคลอ พยายามหยุดสามี

“คุณพี่... จะทำลายงานนี้ไม่ได้นะคะ ยัยดาท้องกับคุณโยธินค่ะ”

อำพันธ์นิ่งงัน เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ดวงตาวาววับมือกำแน่น จ้องมองภรรยาราวกับจะกินเลือดเนื้อ พรรณนิภาหลบสายตา กัดริมฝีปากแน่น

“พวกเธอบ้าไปแล้วหรือไง โยธินคือคู่หมั้นของยัยอร พวกเธอสองแม่ลูกรู้แก่ใจไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมพีรดาถึงได้ทำเรื่องสารเลวแบบนี้!” เขาตะโกน แขกในงานเริ่มหันมามอง เธอรีบดึงมือสามีให้นั่งลง เพราะไม่อยากให้ใครรับรู้เรื่องราวนี้

“ฉันขอร้องล่ะค่ะคุณพี่ เราค่อยไปเคลียร์กันในบ้านดีกว่านะคะ อย่าให้แขกในงานรู้เลย” พรรณนิกาหว่านล้อมสามี จนเขายอมนั่งลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel