บท
ตั้งค่า

บทที่ ๓. ภรรยาตีทะเบียน

เป็นเวลาบ่ายสามโมงพอดี ทั้งสองกลับมาบ้านพร้อมทะเบียนสมรสคนละหนึ่งใบที่เจ้าหน้าที่ให้เก็บไว้คนละหนึ่งฉบับ

“กอดทะเบียนสมรสให้ดีล่ะ อย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นคุณนายโรงเลื่อย เธอมันก็แค่เมียหลังม่านเท่านั้น เพราะคนเดียวที่ฉันจะให้ออกงานกับฉันคืออินท์”

เวธน์บอกภรรยาตีทะเบียนของตนพร้อมถือซองเอกสารใส่ทะเบียนสมรสเดินลงส้นเท้าหนักๆ ไปยังบันไดเพื่อจะขึ้นไปยังห้องพักส่วนตัวเอง

หยาดเดินน้ำตาคลอไปยังห้องนั่งเล่น เมื่อแม่บ้านเดินมาบอกว่าตอนนี้แม่บุญธรรมของตนเองรออยู่ในห้องนั่งเล่น หญิงสาวร่างเล็กเพรียวระหงในชุดเดรสชีฟองลายลูกไม้แบบใส่ประจำเดินไปหาท่าน

“มาแล้วเหรอลูก”

เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของลูกสาวบุญธรรมแล้วก็สงสารจับใจ ไม่ใช่สิ ตอนนี้หยาดเป็นลูกสะใภ้ของนางแล้ว

“มาแล้วค่ะแม่ดาว” เธอเดินไปหาท่านแล้วนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับท่านเมื่อท่านตบมือที่ว่างข้างๆ ให้เธอนั่งลง

“อดทนหน่อยนะลูก” เธอกุมมือลูกสะใภ้พร้อมบีบให้กำลังใจ

“คุณเวธน์เกลียดหยาดขนาดนี้ หยาด อึก! หยาดกลัวค่ะแม่ดาว อึก! ฮือๆๆ” แล้วสาวเจ้าก็ปล่อยเสียงสะอื้นไห้ออกมา

ฮือๆๆ

“ชูว์...ไม่ร้องนะหนูหยาด ไม่ร้องนะลูก ตาเวธน์น่ะปากร้ายแต่ใจดี เชื่อแม่สิ หนูหยาดก็รู้นี่ว่าพี่เขาน่ะเป็นคนยังไง” แสงดาวรั้งร่างบางเข้ามากอดปลอบ

“ฮือ...แต่มันไม่เหมือนกันนี่คะ ครั้งนี้หยาดเป็นมารความรักของคุณเวธน์กับพี่อินท์” เธอพยายามกลั้นเสียงร้องไห้กลืนก้อนสะอื้นไว้ในอกแล้วพูดตอบแม่บุญธรรมที่ตอนนี้เลื่อนสถานะมาเป็นแม่สามีเรียบร้อยแล้ว

“แม่เชื่อว่ายังไงซะความดี ความน่ารัก ความเห็นอกเห็นใจของหนูที่มีต่อคนรอบข้างจะเอาชนะใจพี่เขาได้ ความดีของหนูต้องเอาชนะใจพี่เขาได้แน่” นางบอกลูกสะใภ้แล้วดันหยาดออกจากอกแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาเปื้อนแก้มนวลออกให้อย่างอ่อนโยน

“ไหนดูทะเบียนสมรสหน่อยสิ หนูเปลี่ยนนามสกุลไหมลูก”

“คุณเวธน์ไม่ให้หนูเปลี่ยนค่ะ”

“ช่างเถอะ เปลี่ยนไม่เปลี่ยนไม่เป็นไร ยังไงซะ ตอนนี้หนูกับตาเวธน์ก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ถึงจะไม่ได้จัดงานแต่งงาน แต่ทะเบียนสมรสนี้ก็ยืนยันว่าหนูคือเจ้าของของตาเวธน์ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีสิทธิ์แล้ว”

“แม่ดาวจะไม่อยู่จริงๆ เหรอคะ แม่ดาวจะไปอยู่ออสเตรเลียกับน้องสาวจริงๆ เหรอคะ” เธอถามเมื่อท่านบอกหลังจากเสร็จงานศพของพ่อบุญธรรมว่าท่านจะไปอยู่ออสเตรเลียกับน้องสาวของท่านสักพัก เพราะอยู่บ้าน อยู่ที่นี่ทำให้ท่านคิดถึงสามีที่จากไปก่อน ท่านยังทำใจไม่ได้จึงอยากไปอยู่ที่อื่นสักพักเพื่อให้ตัวเองชินกับการไม่มีสามีที่รักอีกแล้วชีวิตหลังจากนี้

“ใช่ลูก แม่อยู่บ้านไม่ได้ แม่คิดถึงพ่อวินทร์ รู้ไหมไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็มีแต่ภาพของพ่อวินทร์ แม่คิดถึงพ่อวินทร์” นางบอกลูกสะใภ้เสียงสั่นเครือแล้วน้ำตาของนางก็ไหลอาบแก้มเหี่ยวย่นอย่างห้ามไม่ได้ นางทำใจไม่ได้ แม้จะรู้อยู่แล้วว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง เพราะสามีป่วยเป็นมะเร็งมาสามปีแล้ว แม้จะมีเงินมากมายแค่ไหน ก็ยื้อชีวิตสามีนางอยู่กับนางไม่ได้

“แม่ดาว กอดนะคะ พ่อวินทร์ไปสบายแล้วค่ะ” เธอเช็ดน้ำตาให้ท่านพร้อมรั้งร่างท้วมของท่านเข้ามากอดแน่น

“มะ...แม่คิดถึงพ่อวินทร์ หยาด อื้อ...ฮือๆๆ อึก!” ยิ่งลูกสะใภ้กอดปลอบนางก็ยิ่งร้องไห้ ตอนนี้สามีไม่อยู่แล้ว ไม่มีอีกแล้วสามีที่คอยหยอกล้อคลอเคลียและคอยเอาอกเอาใจ ไม่มีแล้วคนที่จะงอนง้อนาง

“พ่อวินทร์ไปสบายแล้วแม่ดาว แม่ดาวต้องเข้มแข็งนะคะ” เธอดันท่านออกจากอกตนเองพร้อมเช็ดน้ำตาให้แล้วยกมือมาวางทาบอกท่าน

“พ่อวินทร์อยู่ตรงนี้ค่ะ พ่อวินทร์อยู่ในใจของพวกเราทุกคน ถึงแม้ว่าร่างจะไม่อยู่แล้ว แต่ตรงนี้ของเรามีความทรงจำมากมายที่เราอยู่กับพ่อวินทร์นะคะแม่ดาว” เธอวางมือทาบทับอกแม่สามี อีกมือก็ทาบทับอกตนเองด้วย

“ขอบคุณนะลูกที่ปลอบแม่ อึก! แม่รู้ว่าพ่อวินทร์อยากเห็นแม่เข้มแข็ง แต่มันทำใจยากเหลือเกินลูก พ่อวินทร์คือครึ่งชีวิตของแม่ อึก!”

นางจับมือลูกสะใภ้บนอกตนเองมากุมแน่นแล้วก็แหงนเงยหน้ามองบนเพื่อกลั้นน้ำตาตนเองไม่ให้ไหล

เมื่อจัดการทุกอย่างตามพินัยกรรมของสามีเรียบร้อย ลูกชายกับลูกบุญธรรมก็จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อย นางจึงเดินทางไปต่างประเทศทันที และฝากฝังให้หยาดดูแลลูกชายตัวเองพร้อมสั่งให้หยาดอดทนกับลูกชายตัวเองให้ถึงที่สุดจนกว่าจะทนไม่ได้ หากวันไหนทนไม่ได้ให้บอกนาง นางจะช่วยจัดการทุกอย่าง ไม่ต้องรอให้ถึงกำหนดห้าปีตามพินัยกรรมของสามี

“ตาเวธน์ใช่ว่าแม่ไม่อยู่แล้วจะรังแกหนูหยาดได้ตามใจนะ”

“ยังจะห่วงเด็กนี่อีก แม่ไปอยู่ที่นั่นก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ บ้านเมืองเขาอากาศไม่เหมือนบ้านเราด้วย”

“ไม่ต้องห่วงแม่หรอกน่า ใช่ว่าแม่เพิ่งเคยไปอยู่กับน้าครั้งแรกสักหน่อย”

“แต่ทุกครั้งไปแค่อาทิตย์ สองอาทิตย์ แต่รอบนี้แม่ไปนาน ไม่ให้ผมห่วงได้ไงครับ ใกล้ได้เวลาแล้ว แม่เข้าไปเถอะครับ”

“งั้นแม่ไปนะตาเวธน์ หนูหยาด” นางกอดลูกชายแล้วผละออกมากอดลูกสะใภ้ก่อนจะจากไป

“แม่ดาวเดินทางปลอดภัยนะคะ” หยาดเอ่ยกับแม่สามี

“ถึงแล้วแม่จะวิดีโอคอลหานะลูก”

“ค่ะ แม่ดาว”

“ไปนะตาเวธน์ ดูแลน้องด้วยล่ะ ตอนนี้ก็เป็นผัวเป็นเมียกันแล้ว”

“ผัวเมียในนาม ยังนับว่าเป็นผัวเมียอยู่เหรอครับแม่”

เผียะ!

แสงดาวตีแขนลูกชายไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ ก็คำพูดแต่ละคำหลุดออกมาจากปากมีแต่คำดีๆ น่าฟังทั้งนั้น

“อย่าไปสนใจเลยนะหนูหยาด พี่เขาแค่พูดไปงั้นแหละ”

“ผมพูดจริงครับแม่ แม่ไปเถอะครับ”

อือ!

แล้วแสงดาวก็เดินจากไป ส่วนเวธน์กับหยาดยืนมองดูท่านอยู่ครู่หนึ่งจนมองไม่เห็นท่านแล้ว

“กลับเองนะ” แล้วเวธน์ก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงจากไป

หยาดมองดูคนที่จะเดินทางไปไกลแสนไกลกับคนที่บอกตนเองกลับบ้านเองแล้วก็เงยหน้ามองบนกลั้นน้ำตาไว้แล้วเดินไปตามป้ายและลูกศรบอกทางไปขึ้นรถแท็กซี่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel