ตอนที่4 ไม่ใช่เพื่อน
อาทิตย์เดินเข้ามาในห้องนอน แล้วล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาติดต่อไปหาคนที่คิดว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบในความหงุดหงิดที่ตัวเองกำลังเผชิญ และเมื่อปลายสายตอบรับ เขาก็ส่งคำพูดไปทันที
“มารับลูกศิษย์เธอกลับไปด้วย”
“นายพูดเรื่องอะไร รับใคร แล้วรับที่ไหน”
“อย่ามาทำไก๋ ยายขนุนนั่นยังอยู่ที่บ้านฉัน วันที่เด็กคนนี้เข้ามาในบ้านของฉัน เธอโทร.มาบอกฉัน เธอรู้ก่อนที่ฉันจะรู้เสียอีก แล้วฉันก็เพิ่งนึกออกว่าเคยเห็นเด็กคนนี้อยู่กับเธอตั้งแต่เจ้าตัวยังเป็นเด็กนักเรียน ฉันจำได้ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่าเธอไม่รู้เห็นเป็นใจให้เด็กหอบผ้าเข้ามาปักหลักในบ้านของฉัน แถมแม่ตัวดีก็ไม่มีกำหนดออกไปด้วย”
“นายพูดถึงขนุนเหรอ แล้วขนุนเป็นใคร”
ปลายสายทวนเสียงงุนงง อาทิตย์หลุดเสียงจิ๊จ๊ะออกมาอย่างไม่ได้ดังใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้อธิบาย อีกฝ่ายก็ถึงบางอ้อขึ้นเสียก่อน
“ฉันนึกออกแล้วละ แหม! เด็กชื่อจิณณา ชื่อออกจะเพราะ แต่นายเรียกขนุน ฉันเลยงงๆ ไป”
พอพูดจบ คนที่อาทิตย์ต้องการให้ช่วยเหลือก็หลุดหัวเราะออกมาเต็มเสียง ดูว่าเจ้าหล่อนจะไม่รับรู้ถึงความทุกข์ร้อนของเขาจริงๆ
“เด็กนั่นบอกว่ารองาน แต่ฉันมองปราดเดียวก็รู้ว่าคงตกงานอีกยาว ที่สำคัญแม่คุณก็ไม่กระตือรือร้นจะหาทางออกจากบ้านฉันด้วย ฉันยอมให้ปักหลักอยู่ที่นี่นานๆ ไม่ได้”
“เด็กต้องการความช่วยเหลือ หาที่อยู่ที่กินแค่ชั่วคราว แล้วบ้านของนายก็ใหญ่โตกว้างขวาง เลี้ยงคนงานได้ตั้งหลายสิบคน ทั้งคนงานในไร่และในบ้าน เพิ่มหนูจิณไว้ช่วยงานในบ้านสักคนจะเป็นไรไป จะเปลืองข้าวสารสักเท่าไรกันเชียว อย่าทำใจแคบไปหน่อยเลยน่า”
“มันไม่ใช่แค่นั้น...แล้วฉันไม่ได้ใจแคบด้วย”
“แล้วนายมีปัญหาอะไร”
“นี่บ้านของฉัน การที่ฉันต้องการให้บ้านเป็นพื้นที่สร้างความสงบสุข ให้ฉันได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ฉันไม่มีสิทธิ์ได้รับมันแล้วใช่ไหม”
คราวนี้ถึงทีคนปลายสายต้องทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอบ้าง อาทิตย์ก็ไม่รู้ว่าหล่อนล้อเลียนเขาหรือเป็นเพราะเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาเอง
“เท่าที่ฉันรู้ หนูจิณอยู่ห้องพักของป้าแวว เธออยู่ในพื้นที่ของเธอ ไม่เคยไปซอกแซกหรือก้าวล้ำพื้นที่ของนาย”
“เธอรู้ได้ยังไง นี่เธอกับยายขนุนคุยกันบ่อยๆ อยู่แล้วใช่ไหม”
“อุ๊ย! ลืมตัว”
“ไม่ต้องเลยยายพริก มารับเด็กนั่นไปอยู่กับเธอเลย ฉันให้เวลาถึงพรุ่งนี้ตอนเย็น”
อาทิตย์ยื่นคำขาดแทบไม่ทันจบประโยค อีกฝ่ายก็โวยวายสวนขึ้นมา
“รับมาอยู่ที่บ้านได้ยังไงล่ะ ก็ฉันพักที่บ้านพักในมหาวิทยาลัย ที่นี่คนนอกมาพักด้วยไม่ได้ จะให้อยู่ที่บ้านก็ไม่ไว้ใจใคร แถมฉันก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านอยู่แล้ว”
“แล้วเอามาไว้ที่บ้านฉัน เธอไว้ใจฉันหรือไง”
“นั่นแน่! สารภาพออกมาแล้วว่าหวั่นไหวกับยายขนุนน้อย”
“ยายบ๊องเอ๊ย! นี่มองเป็นเรื่องล้อเล่นไปได้ยังไง”
“สรุปว่าที่ไม่อยากให้อยู่บ้านนาย เพราะกลัวเผลอใจไปกินขนุน”
“เธอช่วยเด็กให้ออกจากบ้าน เพราะปัญหาพ่อเลี้ยงของเขาใช่ไหม ระวังเถอะ จะกลายเป็นหนีเสือปะจระเข้”
ตอนท้ายอาทิตย์แค่บ่นงึมงำในลำคอ แต่ปลายสายก็ได้ยินชัดหู คราวนี้หล่อนไม่ได้เย้าแหย่เขาอีก แต่กลับถอนหายใจอย่างหนักอกออกมาแทน
“ฉันไม่มีทางเลือก ส่วนที่ให้หนูจิณไปอยู่ที่บ้านนายก็เพราะฉันคิดดีแล้ว ยังไงซะ ฉันก็ไว้ใจนายมากกว่าใคร”
“ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ไว้ใจไม่ได้หรอก”
“นายไว้ใจได้ ฉันไว้ใจนายมากกว่าใคร เราเคยเช่าบ้านอยู่ด้วยกันตั้งสองปี แต่นายไม่เคยมีพฤติกรรมที่ไม่ดีกับฉันหรือซิลเวีย”
เธออ้างถึงนักศึกษาหญิงชาวฝรั่งเศสที่เคยเช่าบ้านอยู่ร่วมกันตอนที่เรียนระดับปริญญาโทในสถาบันดังระดับโลกซึ่งมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หากนั่นทำให้อาทิตย์ต้องทอดถอนใจอย่างอ่อนใจในการมองโลกในแง่ดีอย่างไม่สร่างซาของพิจิกา