เป็นแฟนกันใช่ไหม
มาร์คัสเห็นว่าหากจะพูดธุระกับเธอตรงนี้ต่อไปคงจะไม่ดีแน่นอน เขาจึงเดินกลับขึ้นไปบนรถเหมือนเดิมโดยที่ไม่ได้พูดอะไร แต่คราเวนกลับเข้าใจดีว่าเจ้านายของเขาต้องการอะไร
"คุณพรลภัสครับ หากจะคุยธุระตรงนี้ต่อคงจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ รบกวนคุณขึ้นไปนั่งคุยกับเจ้านายของผมบนรถได้มั้ยครับ"
"ค่ะ" หญิงสาวก็ไม่อยากนั่งคุยกันตรงหน้าบ้านของเธอเหมือนกัน เพราะมันจะเป็นจุดสนใจเกินไป เธอจึงขึ้นไปนั่งในรถของเขาอีกครั้ง
"ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยชีวิตของผมไว้ในวันนั้น" มาร์คัสเอ่ยทันทีเมื่อหญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ"
"คุณอยากให้ผมตอบแทนบุญคุณของคุณแบบไหนหรือเปล่า หรืออยากให้ผมทำอะไรให้หรือเปล่า บอกมาได้เลย"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันช่วยชีวิตคุณไว้ ก็ไม่ได้ตั้งใจหวังผลตอบแทนอะไรอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมาก"
"งั้นคุณช่วยรับเช็คใบนี้ไปเถอะ" เขาเอ่ยแล้วส่งมันให้เธอ
หญิงสาวหยิบมาดูแล้วก็ส่งคืนเขาไป เงินจำนวน 5 ล้านบาทเธอไม่ได้ต้องการ แม้แต่บาทเดียวเธอก็ไม่อยากได้ เธอตั้งใจช่วยเขาจริง ๆ ไม่ได้หวังผลตอบแทน
"ฉันรับน้ำใจไว้แล้วค่ะ ส่วนเช็คใบนี้..ฉันขอคืน" เธอส่งคืนให้เขา
มาร์คัสรับเช็คคืนโดยที่ไม่พูดอะไรต่อ เพราะเขาเชื่อว่า ถึงจะยังไงเธอก็ไม่มีวันรับอะไรจากเขาแน่นอน เขาต้องใช้วิธีอื่น ตอนนี้ก็ปล่อยไปก่อน
"งั้นผมก็ขอบคุณมาก หากครั้งหน้าคุณมีเรื่องอะไรอยากจะให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลย ผมมาร์คัส ฟร้านซ์ นี่นามบัตรผม"
"ค่ะ" พรลภัสรับไว้แล้วลงจากรถไป
"อ้าว.เจ้" แทนคุณที่พึ่งกลับมาจากข้างนอกเจอหญิงสาวลงจากรถหรูพอดี
พรลภัสไม่ตอบอะไรก็หันหน้าไปทางอื่น
"แล้วนั่นเจ้ไปไหนมา ทำไมถึงลงมาจากรถหรูคันนี้ได้ล่ะ"
"ไม่ใช่เรื่องของนาย"
"แฟนเจ้เหรอ หรือว่าเป็นเจ้านาย"
หญิงสาวไม่ตอบแล้วเดินไปหาคราเวนทันที ทำให้แทนคุณต้องยืนเกาหัวตัวเองแก้เขิน พี่สาวคนละแม่ของเขาช่างเย็นชากับเขาจริง ๆ
"ฉันคุยธุระกับเจ้านายของคุณเรียบร้อยแล้วค่ะ"
"ครับ ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ"
"ค่ะ"
คราเวนกลับขึ้นไปนั่งตำแหน่งคนขับอีกครั้ง
"ตามสืบเรื่องครอบครัวของผู้หญิงคนนี้ด้วย"
"ครับ"
มาร์คัสรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ดูไม่ปกติ หญิงสาวดูเป็นผู้หญิงที่ไม่ร่าเริงเอาเสียเลย เธอเหมือนคนเก็บกดและมีอะไรในใจ ส่วนแม่เลี้ยงของเธอก็ดูเหมือนว่าจะเข้ากันกับเธอไม่ได้ด้วย น้องชายของเธอก็เหมือนกัน ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ด้วยกันแบบไหน ถึงเห็นแล้วรู้สึกอึดอัดจริง ๆ
พรลภัสยืนมองของฝากที่มาร์คัสเอามาให้ เธอไม่รู้ว่าจะจัดการกับของพวกนี้ยังไงดี ส่วนมากก็เป็นของบำรุงสุขภาพทั้งนั้น
"เจ้จะให้ผมช่วยเก็บของพวกนี้ให้ไหม" แทนคุณเอ่ย
"อยากจะเอาไปทำอะไรที่ไหนก็แล้วแต่เถอะ จะเก็บไว้หรือแบ่งให้คนอื่นก็ได้ จัดการไปเลย" หญิงสาวเอ่ยแล้วนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อน
"อาทิตย์หน้าผมจะย้ายไปอยู่หอพักนะครับ ผมหางานพิเศษทำได้แล้ว"
"ก็แล้วแต่นาย ไม่จำเป็นต้องบอกฉัน"
"ไม่ได้ ลูกจะไปพักอยู่ข้างนอกได้ยังไงกัน มันอันตราย ยิ่งกำเป็นวัยรุ่นแบบนี้ก็ยิ่งอันตราย"
"ผมดูแลตัวเองได้ตรับแม่ แม่ไม่ต้องห่วงผมหรอก"
"จะไม่ให้ห่วงได้ไง"
"แต่ผมอยากทำงานหาเงินช่วยเจ้บ้าง ทุกวันนี้เจ้ทำงานคนเดียว"
"ก็เธอเป็นพี่ของแก ก็ต้องหาเงินเลี้ยงแกด้วยสิ"
พรลภัสไม่อยากได้ยินทั้งคู่ทะเลาะกัน เธอจึงเดินหนีออกมา ในหมู่บ้านที่เธออาศัยอยู่นี้จะมีสนามเด็กเล่นอยู่ ที่นี่เป็นที่เดียวที่จะสามารถทำให้เธอรู้สึกสงบได้ เธอหยิบนามบัตรที่มาร์คัสมอบไว้ให้ขึ้นมาดู ชื่อบริษัทที่ติดอยู่บนนามบัตรนั้นทำให้เธออยากโทรไปหาเขามาก บริษัทนี้เธอได้ยื่นใบสมัครไปนานแล้วแต่ก็ไม่โดนเรียกตัวสักที แต่เธอก็ยังคงรอ