ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ
สองวันต่อมา
มาร์คัสออกจากโรงพยาบาลแล้วจึงสั่งให้คราเวนไปซื้อของฝากไว้ เพื่อที่จะได้เอาไปฝากพรลภัสกับพ่อแม่ของเธอ เมื่อเขาขับรถมาใกล้จะถึงบ้านของหญิงสาวแล้ว ก็เจอหญิงสาวที่กำลังหิ้วผลไม้เดินอยู่ข้างทางพอดี คราเวนไม่แน่ใจว่าบ้านของหญิงสาวอยู่หลังไหน เขาจึงลดกระจกลงแล้วถามเธอทันที
"ขอโทษนะครับ คุณพอจะรู้มั้ยครับว่าบ้านของคุณพรลภัสอยู่หลังไหนครับ" คราเวนใช้ภาษาอังกฤษในการถาม เพราะเขาพูดภาษาไทยไม่เป็น
พรลภัสหันมาฟังตามเสียงทันที เธอก็ไม่ค่อยเก่งภาษาเหมือนกันแต่ก็พอจะฟังและพูดได้บ้าง จึงตอบออกไป
"ฉันคือพรลภัสค่ะ คุณคือคนที่โทรหาฉันเมื่อวันก่อนใช่มั้ยคะ" เธอมั่นใจแบบนั้น
"ใช่ครับ คุณคือคุณพรลภัส"
"ค่ะ ฉันเอง"
คราเวนรีบเปิดประตูลงจากรถทันที เขาคิดจะลงไปช่วยเธอถือถุงผลไม้และชวนเธอให้ขึ้นมาบนรถด้วยกัน แต่หญิงสาวกลับถอยหลังออกไป เธอระวังตัวเองดีมาก เพราะถึงยังไงเธอกับคราเวนก็ไม่ได้เป็นคนรู้จักกัน เธอต้องระวังตัวไว้ด้วย
"ให้ผมช่วยถือนะครับ คุณถือของเยอะขนาดนี้ต้องหนักมากแน่"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดินอีก 500 เมตรก็ถึงบ้านฉันแล้วค่ะ คุณขับตามฉันมาเถอะ หรือไม่ก็ขับไปก่อนก็ได้ ไปจอดรถไว้ใต้ต้นไม้ข้างหน้านั้นได้เลยค่ะ บ้านฉันอยู่ตรงนั้นแหละ"
"หากคุณเดินไปก็อีกไกลเลยนะครับ ขึ้นรถไปกับผมเถอะ"
คราเวนเปิดประตูรถให้เธอ ก่อนที่เธอจะเจอคนที่นั่งอยู่ข้างในนั้นด้วย ใบหน้าที่เย็นชา แต่กลับดูดีและหล่อมาก มาร์คัสก็จ้องเธอนานแล้วเหมือนกัน และรู้สึกว่าเธอจะระวังตัวเองได้เป็นอย่างดี
"ขึ้นมาเถอะ พวกเราไม่ทำอะไรคุณหรอก เรามาที่นี่ก็เพราะต้องการมาขอบคุณเท่านั้น" มาร์คัสเอ่ยเป็นภาษาไทย สำเนียงของเขาชัดเจนมาก หากได้ยินแต่เสียงเธอก็คงจะคิดว่าเขาเป็นคนไทยแน่
"ใช่ครับ ขึ้นรถเถอะครับคุณพรลภัส"
หญิงสาวเลยตัดสินใจขึ้นรถไปกับพวกเขา เพราะดูจากบุคลิกและการแต่งกายแล้ว พวกเขาก็ดูไม่เหมือนคนไม่ดีอะไร
"จอดใต้ต้นไม้นี่แหละค่ะ"
หลังจากรถจอดแล้ว หญิงสาวก็ยังยืนรอพวกเขาอยู่ตรงหน้าบ้าน เพราะในบ้านของเธอมันแคบเกินไป โต๊ะรับแขกก็ไม่มี แต่หน้าบ้านของเธอยังมีโต๊ะไม้หินอ่อนอยู่ มันสามารถให้พวกเขานั่งตรงนั้นได้
"พวกคุณนั่งตรงนี้นะคะ ในบ้านของฉันมันไม่ได้ใหญ่โตอะไร เดี๋ยวฉันจะเอาผลไม่ไปปอกแล้วเอามาเสิร์ฟให้ค่ะ"
"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ ขอแค่น้ำเปล่าก็พอ"
"ค่ะ"
พรลภัสหยิบน้ำเปล่าที่ซื้อมาด้วยออกจากถุงแล้วก็ยื่นส่งไปให้พวกเขา บ้านของเธอกินน้ำที่ไปกดจากตู้ เธอจึงไม่อยากจะเอามาเสิร์ฟให้พวกเขากิน เธอจึงตัดสินใจซื้อน้ำเป็นขวดมาไว้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้ขายหน้าได้ เหมือนที่แม่เลี้ยงเธอพูดไว้
"ขอบคุณครับ" คราเวนรับน้ำไว้แล้วส่งต่อให้มาร์คัสอีกที แต่พวกเขาก็ไม่ได้เปิดมันดื่มหรอก รับไว้ตามมารยาทเท่านั้น
"ไปยกของลงมาสิ" มาร์คัสเอ่ย
คราเวนจึงไปเปิดหลังรถและหอบของลงมามากมาย
"นี่มันอะไรกันคะ พวกคุณเอามากองไว้หน้าบ้านฉันทำไม" ถึงแม้จะรู้ว่าหากพวกเขามาก็คงจะต้องมีของฝากติดมือมาบ้าง แต่เธอไม่คิดว่ามันจะมากมายขนาดนี้
"ของพวกนี้เจ้านายของผมตั้งใจจะซื้อมาฝากครับ และก็ตั้งใจมาขอบคุณที่ช่วยชีวิตด้วย มีของฝากพ่อกับแม่ของคุณด้วยนะครับ ของบำรุงดี ๆทั้งนั้น คุณรับไว้เถอะครับ"
"แต่ฉันไม่มีพ่อกับแม่"
"งั้นก็เอาฝากเพื่อนบ้านก็ได้ครับ" คราเวนเอ่ย
ชบาที่ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านจึงเดินออกมาดู
"ทัดดาว นี่มันอะไรกัน ทำไมของถึงเยอะแยะขนาดนี้ แล้วทำไมเอามาวางไว้แบบนี้ล่ะ"
"...." หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร
"คือของพวกนี้เจ้านายของผมตั้งใจซื้อมาฝากคุณพรลภัสครับ ตั้งใจเอามาขอบคุณที่ช่วยชีวิตเจ้านายของผมไว้ครับ" คราเวนเอ่ย
"ในเมื่อตั้งใจซื้อมาแล้ว เดี๋ยวฉันจะเอาไปฝากคนแถวนี้ก็ได้ค่ะ" พรลภัสบอก
"เธอจะบ้าหรือไง พวกเขาตั้งใจซื้อมาฝากเธอ จะเอาไปแจกคนอื่นทำไม"
"มันเรื่องของฉัน ในเมื่อพวกเขาซื้อมาฝากฉัน ฉันจะแบ่งให้ใครมันก็เรื่องของฉัน" หญิงสาวเอ่ยอย่างเย็นชา ไม่ไว้หน้าแม่เลี้ยงของเธอเลยสักนิด
"ทัดดาว! ฉันเป็นแม่ของเธอนะ ไว้หน้าฉันบ้างไม่ได้เลยเหรอไง"
"แค่เมียน้อยของพ่อฉัน มีสิทธอะไรให้ฉันนับถือคุณเป็นแม่"
"ทัดดาว!" ชบาเอ่ยอย่างโมโหแล้วก็เดินกลับเข้าไปในบ้านเหมือนเดิม
"ขอโทษด้วยนะคะ พวกคุณอย่าใส่ใจผู้หญิงคนนั้นเลย ก็แค่ผู้หญิงบ้า ๆ คนหนึ่งเท่านั้น"