ตอนที่ 5 ความจริงที่ซ่อนเอาไว้
ตอนที่ 5 ความจริงที่ซ่อนเอาไว้
บ่าวรับใช้วิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งข่าวด้วยความเหนื่อยหอบ เพราะต้องรีบวิ่งมาให้เร็วที่สุด เกรงว่ากลุ่มอันธพาลจะบุกเข้ามาเสียก่อน “คุณชายขอรับ คนจวนหวังมาขอพบ ตอนนี้อยู่หน้าประตูจะให้เข้ามาหรือไม่” ท่าทางคนพวกนั้นพร้อมจะบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ
“เป็นใครกันที่มา” เขาสอบถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย รู้สึกแปลกใจนัก เหตุใดจวนหวังจึงรีบร้อนเยี่ยงนี้ หรือว่าจะเป็นพี่ใหญ่ของหวังเพ่ยอิงกัน ชายผู้นี้มีนิสัยป่าเถื่อนนัก ผิดกับเพ่ยอิงของเขาราวฟ้ากับเหวทีเดียว
“คุณชายใหญ่หวังเหยี่ยนขอรับ” ชายผู้นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมอันธพาล นิสัยป่าเถื่อนโหดร้าย มักชอบก่อเรื่องวุ่นวายไม่หยุดหย่อน ซ้ำยังชอบเขาโรงพนัน แล้วยังชื่นชอบดื่มสุราอยู่กับเหล่าคณิกาอีกด้วย นิสัยเลวร้ายที่สุดเท่าที่พานพบมา
เมื่อได้ยินว่าผู้ใดมากันแน่ ราชครูถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจยิ่งนัก “พวกเจ้าเฝ้าเอาไว้ อย่าให้เข้ามาได้เป็นอันขาด”
ยังไม่ทันที่เหล่าบ่าวรับใช้ชายจะเดินออกไปขวางกั้น กลับมีชายแปลกหน้าเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าพวกเขาเหล่านี้ล้วนยิ่งยโสเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะหวังเยี่ยน พี่ชายต่างมารดาของคุณหนูรอง
“นี่น้องเขย เจ้าอย่ามันยักท่าอยู่เลย หากเจ้ารักน้องสาวข้าจริง ๆ ละก็ ก็รีบแต่งกับนางเข้ามาภายในสามวัน หากเจ้ายังมัวชักช้าอืดอาดแล้วละก็ ข้าจะ...” ชายหนุ่มเหลือบมองไปยังด้านหลังของโจวหย่งเล่อ ก็พบเข้าให้กับเทพธิดานางหนึ่ง เดินอ้อนแอ้นมาใกล้ ๆ เขาถึงกับพูดไม่ออก ได้พบเจอสาวงามก็ยิ่งทำให้ตื่นเต้นใจเต้นระรัว
“แม่นางเป็นใครกัน ข้าไม่เคยได้ยินว่าน้องเขยข้ามีน้องสาวนี่นา งดงามยิ่งนัก” หวังเยี่ยนส่งสายตาพราวระยับ ได้พบเจอสาวงามผู้นี้นับว่าเป็นวาสนา
“นางคือฮูหยินของข้า!” โจวหย่งเล่อตอบกลับอย่างฉุนเฉียว คว้าข้อมือของภรรยาแล้วยืนบดบังนางเอาไว้ แต่กลับแปลกใจนัก เหตุใดนางจึงเดินกลับมา เมื่อครู่ก็เห็นอยู่แล้วว่านางกำลังโกรธเขา ยังตัดพ้อต่อว่าอีกด้วย เหตุใดจึงเลือกที่จะเดินกลับมาช่างหาเรื่องใส่ตัวนัก
ถังเหมยหลินสะบัดข้อมือ มองเขาตาเขียวอย่างหงุดหงิด นางก้าวเท้าออกมายืนเคียงข้างคู่กับสามี โดยจ้องมองไปยังชายแปลกหน้าที่นางมิได้คุ้นตา และไม่เคยรู้จักมากก่อน
เมื่อครู่ได้ยินเสียงเอะอะ ก็แปลกใจว่าใครกล้าหาญมาหาเรื่องจวนตระกูลโจวแต่เช้ากัน ในฐานะที่นางเป็นฮูหยินของจวนนี้ ย่อมต้องมาคลี่คลายสะสางปัญหามิให้มันเกิดขึ้น
“ฮ่า ๆ ๆ งดงามถึงเพียงนี้ มิน่าเจ้าจึงเลือกที่จะยืดเวลาแต่งน้องข้า” หวังเยี่ยนกล่าวตำหนิเล็กน้อย เหลือบมองสตรีนางนี้ก็ยิ่งอยากได้มาครอบครอง สวยบาดตาบาดใจเยี่ยงนี้ ชายใดไม่ลุ่มหลงก็แปลกแล้ว หากได้นางมาเป็นอนุของเขาแล้วละก็ คงต้องกกกอดนางทั้งวี่วันเป็นแน่
“คุณหนูหวังต้องการเข้ามาก่อนแต่งงานหรือเจ้าคะ เหตุใดจึงใจร้อนนักเล่า หรือว่ากลัวว่าข้าจะรั้งเขาเอาไว้ ช่างไม่มั่นใจในตัวของคนรักเสียจริง ช่างน่าขันนัก หรือว่ามีพี่ชายที่ไม่ได้ความอย่างท่าน นางจึงทุกข์ใจไม่อยากอยู่ชายคาเดียวกันเช่นนั้นหรือ” ด้วยเพราะมิชอบสายตาเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย ถังเหมยหลินจึงเลือกตอบกลับอย่างไร้ไมตรี
โจวหย่งเล่อหัวเราะหึ ๆ อยู่ในลำคอ ชื่นชอบวาจาอันเผ็ดร้อนของนางเสียจริง ทำให้เจ้าอันธพาลหน้าหงายได้ ช่างน่านับถือยิ่งนัก อีกทั้งยังไม่พบว่านางหวาดกลัวจนต้องให้ปกป้อง กลับมีสีหน้าขึงขังเสียจริง แววตาก็ดุร้ายราวกับแม่เสือที่จ้องจะขย้ำเหยื่อได้ทุกเมื่อ
“ช่างสามหาวนัก เจ้า...” ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ติดตามมาด้วย ยกมือคิดว่าจะตวัดฟาดใบหน้าของนาง ทว่าความรวดเร็วของหญิงสาว ชายผู้นี้ยังกล่าวไม่จบก็หงายท้องไปเสียแล้ว “โอ๊ย!” เขาร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
โจวหย่งเล่อตกตะลึงในความรวดเร็วของนาง มิคิดว่าจะยกปลายเท้าถีบไปยังใบหน้าของชายผู้นี้จนหงายท้อง ซ้ำยังมีโลหิตไหลอีกด้วย เมื่อผู้เคราะห์ร้ายบ้วนน้ำลายออกมาก็พบว่า ฟันหน้าหลุดออกมาสองซี่
“ลูกพี่ นางทำร้ายข้า ฟันข้าหักเลยขอรับ” ชายผู้บาดเจ็บยกมือกุมแก้ม โลหิตยังไหลออกจากปากไม่หยุดหย่อน สหายที่ติดตามมาด้วยก็เขามาประคอง เขารู้สึกหวาดกลัวนัก เกิดมามิเคยพบเห็นสตรีนางใดกระทำการอุกอาจถึงเพียงนี้
ถังเหมยหลินกลับมายืนสงบนิ่ง มองไปยังชายทั้งสามคนที่ทำสีหน้าไม่ถูก “อีกสามวัน เขาจะไปรับนางเข้ามา แต่มิได้เข้าหน้าประตู หากยินดีละก็ มิใช่เป็นฮูหยินรอง แต่เป็นได้แค่อนุผู้หนึ่งเท่านั้น” ในเมื่อสามีกล้าหักหาญน้ำใจที่นางมอบให้ เช่นนั้นสตรีที่เขารักก็อย่าหวังว่าจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินรอง
“ข้ากับเจ้ามีเรื่องต้องคุยกัน” คราวนี้เขาโมโหแล้วจริง ๆ นางทำเรื่องเกินกว่าเหตุ อีกทั้งยังก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาอีกด้วย หลงคิดว่านางอ่อนแอ ที่ไหนได้ก็มีวรยุทธ์ซ้ำยังรวดเร็วกว่าเขาอีก
“ข้ากับท่าน พูดคุยกันต่อหน้าท่านแม่ก็แล้วกัน เช่นนั้นเชิญเจ้าค่ะ อ้อ พ่อบ้านเฉิง ไล่คนพวกนี้ออกไปให้พ้นจวน แล้วทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย อย่าให้หลงเหลือความสกปรกเป็นอันขาด อีกอย่างขอเตือนพวกเจ้านะ อย่าได้ริอ่านมาวุ่นวายที่นี่อีก ไม่อย่างนั้นข้า...จะถลกหนังพวกเจ้าทุกคน”
ในเมื่อเอาความดีชนะใจเขาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นนางก็ขอเป็นนางปีศาจก็แล้วกัน อ่อนหวานมิชื่นชอบ แสนดีมิเห็นใจ เช่นนั้นก็ต้องงัดไม้ตายเข้ามาฝ่าฟัน แม้มิได้ใจเขา นางก็ยังยินดี ยินดีที่จะยืนเคียงข้างเขาเยี่ยงนี้
คำข่มขู่ของหญิงสาวรูปร่างบอบบาง ทำให้ชายทั้งสามรีบเผ่นหนีอย่างรีบร้อน หวังเยี่ยนเป็นอันธพาลก็จริง แต่ก็มิเคยพบเจอสตรีนางใดโหดเหี้ยมเยี่ยงนี้มาก่อน
พลางครุ่นคิดหากน้องสาวเข้ามาแล้ว จะมีชะตากรรมเป็นอย่างไร คงถูกนางปีศาจผู้นี้รังแกเป็นแน่ เห็นทีว่าจะต้องให้อุบายทั้งหมดจัดการถังเหมยหลินให้ออกจากจวนนี้ให้จงได้ ความแค้นนี้ ความอับอายวันนี้ สักวันเขาจะคืนให้แก่ถังเหมยหลิน
“ถังเหมยหลินช่างมีฝีมือไม่ธรรมดาเสียจริง เล่นละครตบตาใครต่อใครว่าแสนดี อ่อนโยนอ่อนแอ แต่ที่ไหนได้ล้วนหลอกลวง” โจวหย่งเล่อเหน็บแนมนางอย่างจงใจ
เพราะเขาเองก็เสียรู้นาง รู้สึกเสียหน้าที่ก่อนหน้านั้น หลงคิดว่านางอ่อนแอ ก็เห็นใจระคนสงสารยิ่ง แต่ทว่านางแข็งแกร่งและดุร้ายราวกับแม่เสือ เป็นเขาเองต่างหากที่พลาดท่าเสียทีเห็นใจนางหลายครั้งหลายหน
“สิบปีนี้ข้าฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อท่านแล้ว ข้าต้องทำอันใดบ้างให้คู่ควรกับท่าน สิบปีนี้ข้าเจ็บป่วยทรมานเพียงใด เพื่อท่านแล้วข้าล้วนยินดี เพื่อท่าน...ข้าทุ่มเทแรงกายอันน้อยนิดฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดท่าน ร่วมสุขร่วมทุกข์ไปกับท่าน”
นางทำเพื่อเขา เพื่อให้ตนเองเหมาะสมคู่ควร มิให้เขาถูกผู้ใดหัวเราะเยาะว่ามีภรรยาอ่อนปวกเปียก สนับสนุนสามีไม่ได้ นางทุ่มเทเพื่อเขาขนาดนี้แล้ว ก็เพราะรักจึงยินดี แม้ว่าหัวใจเขามิได้มีนาง ก็มิเป็นไร ขอแค่ได้เฝ้ามองเขา เฝ้ามองเห็นเขามีความสุขก็พอแล้ว
“คำพูดนี้ช่างสวยหรูเสียจริง ข้าขอเตือนเจ้าอีกครั้ง นางจะแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรอง มิใช่อนุอย่างที่เจ้ากล่าวอ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแข็ง จ้องมองนางด้วยความคับแค้นใจ เหตุใดเขาจึงเถียงชนะนางไม่ได้ ยิ่งโต้ตอบมากเพียงใด คล้ายว่าตนกลายเป็นเหยื่อให้นางเสียอย่างนั้น
“ข้ามอบตำแหน่งอนุให้นางนั้นมากพอแล้ว หากนางมีดี มีหรือจะไม่ได้รับตำแหน่งฮูหยินรอง อย่าลืมสิว่าข้าคือฮูหยินเอกในจวนนี้ ข้าคือผู้ดูแลรับหน้าที่จากท่านแม่ ทุกอย่างในนี้ล้วนย่อมเป็นข้าจัดการตัดสินใจ มิใช่ท่าน”
ทุกอย่างนี้ ท่านแม่ของเขาล้วนมอบให้นางจัดการ รวมถึงการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า จะมีสตรีนางใดยินดียิ้มรับชะตากรรมอันแสนโศกเศร้านี้ได้ นับว่านางใจกว้างมากแล้ว
เพราะตำแหน่งราชครูของเขาจะเกิดความผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด ผู้คนล้วนจับจ้องมายังฐานะอำนาจของฮองเฮากับกุ้ยเฟยที่ไม่ลงรอยกัน
อีกทั้งโม่ซื่อยังเป็นพี่สาวของโม่ฮองเฮาอีกด้วย หากมีเรื่องไม่ชอบธรรมนั้นต้องกระทบต่อชื่อเสียงของโม่ฮองเฮาอย่างแน่นอน ทำไมกันนะท่านราชครูจึงมองไม่ออกว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการของผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง อำนาจยิ่งมาก ก็ยิ่งต้องระมัดระวัง เพราะผู้คนต่างจับจ้อง พลาดพลั้งเพียงนิดล้วนมีโทษมหันต์
“เหอะ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะทำอะไรข้าได้ หากข้ายืนกรานจะให้นางเป็นฮูหยินรอง” เกิดมามิเคยพานพบสตรีใดยั่วโมโหเก่งเยี่ยงนี้ รู้สึกกรุ่นโกรธอยากหักคอนางเสียเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้า นั่นเพราะกลัวนางจะบาดเจ็บหากเขาสงบสติอารมณ์ที่ขณะนี้นั้นกำลังเดือดดาลแทบลุกเป็นไฟ
“หากท่านกล้า ก็ลองดูว่าข้าจะทำให้นางไม่มีความสุขชั่วชีวิตนี้” นางยังคงยืนกรานเช่นเดียว จ้องมองเขาไม่วางตา เป็นครั้งแรกที่นางเอาชนะเขาได้ เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าเขากำลังพยายามหักห้ามใจไม่ยั่วโมโห
“เจ้ากำลังขู่ข้า คิดว่าข้าจะกลัวรึ” เขาแสร้งเอ่ยขึ้น ชำเลืองมองดวงหน้าสะสวยอย่างตกตะลึง เห็นรอยยิ้มร้ายผุดขึ้นมาบนใบหน้าสะสวยของภรรยาในนาม ทำให้เขาโกรธเคืองไม่ลงจริง ๆ รอยยิ้มของนางนี้ช่างทำให้ใจเขาเต้นระรัว รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงเพียงในชั่วพริบตาเดียว
“จะกลัวหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ท่านอีกแล้ว ล้วนอยู่ในมือของข้า ชะตาของนางจะเป็นเยี่ยงไร ล้วนขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านแล้ว ท่านพี่...ท่านอย่าล้อเล่นกับข้าเชียวนะ ลืมแล้วหรือว่าพี่ใหญ่ข้าเป็นใครกัน” รอยยิ้มได้หายไปแล้ว หลงเหลือเพียงแววตาที่แน่วแน่ขึงขังดุดัน
และสิ่งที่นางทำคือแผนที่ต้องทำให้หวังเพ่ยอิงได้รับรู้บ้าง ว่าอย่าได้ริอ่านปล่อยข่าวอันใด ทำร้ายชื่อเสียงของนางและตระกูลถังเป็นอันขาด มิเช่นนั้นนางจะมอบมันคืนให้เป็นร้อยเท่าพันเท่า อย่าคิดว่านางร้ายก่อนเล่า เป็นอีกฝ่ายที่เล่นสกปรกเสียก่อน
“ข้าไม่เถียงกับเจ้าแล้ว อยากทำอะไรก็เชิญตามสบาย” ท่านราชครูคร้านจะโต้เถียง เถียงอย่างไรนางก็ชนะทุกครา จึงยอมลงให้นางบ้าง เห็นนางเป็นเช่นนี้รู้สึกไม่สบายใจนัก
นางคลี่ยิ้มขึ้นอีกครั้งอย่างมีชั้นเชิง แววตาเย่อหยิ่งยิ่งนัก กล่าวน้ำเสียงไพเราะหวานจับใจ จงใจกึ่งประชดประชันผู้เป็นสามี “เดินทางระมัดระวังด้วยนะเจ้าคะ ข้าเป็นห่วง”