บทที่ 3
หลังจากวันสุดสัปดาห์ผ่านไป ข่าวการหมั้นหมายระหว่างดิน่ากับเชทกกระจายไปทั่วโรงแรมแชนดเลอร์ในนิวปอร์ท ดิน่ามีความรู้สึกว่าเธอต้องใช้เวลามากจนเกินไปเสียแล้วที่จะต้องยืนยันกับผู้ที่สอบถามมาว่าเธอได้หมั้นกับเชทจริง แทบจะไม่มีใครในโรงแรมที่จะไม่แวะเวียนเข้ามาในห้องทำงานเพื่อจะแสดงความยินดีกับเธอ แต่ทว่าแววในดวงตาทุกคู่ก็ยังบ่งบอกถึงความสงสัยอยู่
งานเอกสารกองพูนอยู่บนโต๊ะทำงาน ทั้งจดหมายที่จะต้องตอบ รายงานที่จะต้องอ่าน และคำสั่งที่จะต้องออก ดิน่าเท้าแขนอยู่กับโต๊ะ มือข้างหนึ่งกดหน้าผากไว้ บีบนวดอยู่ไปมาเพื่อให้คลายความตึงเครียด เรือนผมสี บลอนด์สลวยมุ่นเกล้าเป็นมวยแนบอยู่ตรงท้ายทอย ซึ่งทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าอายุจริง
เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่มาทำงาน เป็นชุดที่ได้รับการเลือกสรรอย่างเหมาะสม วันนี้เธออยู่ในเสื้อแขนยาวสีเหลืองครีม สวมทับด้วยเสื้อนอกกับกระโปรงสีม่วงองุ่น ดูมีเสน่ห์และเหมาะสมกับงานอาชีพที่ทำอยู่อย่างมาก
เสียงเครื่องติดต่อภายในดังขึ้น ดิน่ากดปุ่มบนเครื่องพร้อมกับกรอกเสียงลงไป
“ค่ะ”
“คุณแฮรี่ แลนเดอร์สมาขอพบค่ะ คุณนายแชนดเลอร์” เอมี่ เวนท์เวิร์ธ เลขานุการของเธอตอบมา
“ให้เขาเข้ามาได้”
ดิน่าเอื้อมไปหยิบแว่นสายตาซึ่งวางอยู่บนกองเอกสารที่กำลังอ่านค้างไว้ขึ้นมาสวม ที่จริงเธอสามารถจะอ่านได้โดยไม่ต้องสวมแว่น แต่เมื่ออ่านไปนานๆ และรู้สึกเมื่อยตามากขึ้นเธอก็จำเป็นจะต้องใช้แว่นช่วย ซุ่งทำให้ในระยะหลังๆ นี้ต้องสวมอยู่ตลอดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดศีรษะ และกับเหตุผลอีกประการหนึ่งคือ แว่นตานั้นช่วยเพิ่มบุคลิกของการเป็นนักธุรกิจให้กับเธอมากขึ้น
รอยยิ้มปรากฏขึ้นตรงมุมปาก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ความรู้สึกภายในบอกเธอว่า เธอเข้าใจผิดไปมากที่คิดว่าทุกคนจะแสดงความยินดีกันการหมั้นในครั้งนี้เพราะแฮรี่ แลนเดอร์ส เป็นคนหนึ่งที่มิได้ทำอย่างนั้น แต่บางทีเขาอาจจะสำนึกได้ว่า เขายังมิได้ทำในสิ่งที่ตัวเองควรจะทำก็ได้
“สวัสดีค่ะ แฮรี่”
บุรุษร่างสูงผิวคล้ำ เรือนผมเป็นสีขาวโพลนที่เดินเข้ามาในห้องส่งยิ้ม
“สวัสดีครับ คุณนายแชนดเลอร์”
จะมีก็แต่เชทเท่านั้นที่เรียกชื่อหน้าของเธอ และจะเรียกแต่เฉพาะเวลาที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง
“ผมเพิ่งได้ทราบข่าวว่าคุณกับเชทจะแต่งงขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ” เขาแสดงความยินดีเช่นที่เธอได้คาดไว้
“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบรับเช่นที่ทำมาแล้วเกือบร้อยครั้งตั้งแต่เช้าวันนี้
ในแววตาของเขามิได้มีคำถามซ่อนเร้นไว้เช่นคนอื่นๆ
“ผมรู้สึกยินดีด้วยใจจริงนะครับ คุณนายแชนดเลอร์ ผมพอจะทราบอยู่ว่า อาจจะมีใครบางคนที่คิดว่าคุณไม่ซื่อสัตย์ต่อความทรงจำที่มีต่อเบลค ด้วยการแต่งงานใหม่ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นการดีแล้วละครับ ที่คุณจะแต่งงานเสียกับเขา”
“งั้นหรือคะ” ดิน่าย้อนถามด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นเธอไม่สนใจเลยถ้าจะมีใครเอาเรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอไปวิจารณ์ แต่ขณะเดียวกันความใคร่รู้ก็เพิ่มขึ้นว่าเพราะเหตุใดเขาจึงมีความคิดเช่นนั้น
“ครับ ที่ผมพูดนี่เพราะผมเห็นว่า ชีวิตแต่งงานระหว่างคุณกับเบลคจะต้องเป็นชีวิตที่มีความสุข ไม่เช่นนั้นแล้ว คุณคงไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแต่งงานอีกแน่นอน” เขาให้เหตุผล
“อ๋อ...” รอยยิ้มของเธอออกจะฝืนๆ อยู่ “อันที่จริง ฉันกับเบลคก็มีชีวิตมีความสุข ระหว่างฉันกับเชทก็คงจะต้องมีความสุขเหมือนกัน”
“แล้วนี่คุณจะแต่งกันเมื่อไหร่ล่ะครับ”
“ยังไม่ได้กำหนดวันเลยค่ะ”
“อย่าลืมเชิญผมด้วยนะครับ”
“แน่นอน” แต่ลึกลงไปในใจดิน่าอยากจะให้พิธีแต่งงานในครั้งนี้เป็นไปอย่างเงียบๆ ไม่มีการเลี้ยงรับรองแต่อย่างใดทั้งสิ้น ไม่จำเป็นจะต้องเชิญแขกเหรื่อมากมายด้วย อยากจะให้มันเหมือนกับหนีตามกันไปเสียด้วยซ้ำ
“อย่างน้อยหลังจากที่คุณแต่งงานแล้ว คุณก็คงจะไม่ต้องห่วงเกี่ยวกับเรื่องบริษัทต่อไปนะครับ” แฮรี่ แลนเดอร์สตั้งข้อสังเกตพร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า
“ขอโทษ คุณว่าอะไรนะ” ดิน่ารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที หมดความรู้สึกที่จะพูดจาอย่างสุภาพช่นที่ได้ทำมาตลอดเช้าวันนี้
“ก็...หลังจากที่คุณแต่งงานแล้ว คุณก็คงจะกลับไปใช้ชีวิตแม่บ้าน และเชทก็คงจะขึ้นมาเป็นประธานบริษัทไงล่ะครับ” เขาตอบ
ทำไมเขาจึงพูดราวกับมันเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างนั้นนะดิน่าคิดอย่างเจ็บใจ
“การแต่งงานระหว่างฉันกับเชทจะไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยแปลงอะไรกับบริษัทหรอก เราจะคงทำงานร่วมกันต่อไป โดยที่ฉันยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอยู่” เธอพูด ไม่อยากจะนึกไปถึงว่างานที่เธอกับเขาช่วยกันทำอยู่ในเวลานี้ ครั้งหนึ่ง เบลคเคยทำมาได้เพียงคนเดียวดิน่ารู้สึกขึ้งโกรธอยู่ในใจ หันไปหางานเอกสารที่วางกองอยู่บนโต๊ะ “ฉันยังไม่เห็นรายงานประจำเดือนของฟลอริด้าโฮเต็ลเลย เขาส่งมาหรือยังล่ะ”
“คงจะยังกระมังครับ” การเปลี่ยนเรื่องพูดของเธอในทันทีทันใดทำให้ แฮรี่รู้ว่า ขณะนี้เขาได้ก้าวล่วงเข้าไปในเรื่องส่วนตัวของเธอแล้ว สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปทันที
“แฟรงค์ มิลเลอร์ เป็นผู้จัดการโรงแรมนั้นไม่ใช่หรือคะ”
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ช่วยโทรศัพท์ไปหาเขา แล้วลองถามดูสิว่า เขาส่งรายงานมาแล้วหรือยัง ฉันต้องการให้เขาส่งมาถึงมือฉันภายใน 4 โมงเย็นวันนี้ จะส่งมาทางเทเล็กซ์ก็ได้” เธอสั่ง
“ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ คุณนายแชนดเลอร์”
เมื่อประตูปิดตามหลังเขาลงแล้ว ดิน่าก็ลุกขึ้นจากโต๊ะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าต่าง ความรู้สึกเคืองขุ่นยังกระจายอยู่นอารมณ์ นับแต่วันที่เบลคหายสาบสูญไป เธอได้พยายามดำเนินการของบริษัท ด้วยความช่วยเหลือของเชทมาโดยตลอด แต่ความสามารถของเธอในตำแหน่งนี้ก็ดูเหมือนจะมิได้รับการยอมรับจากผู้บริหารระดับรองลงไปบางคนอยู่ดี
การที่เธอเข้ามารับตำแหน่งนี้มิได้เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้วางไว้ แต่เนื่องมาจากความจำเป็นมากกว่า ตอนที่เบรกหายสาบสูญไปในอเมริกาใต้นั้น บริษัทนี้ก็มีสภาพเหมือนเรือที่ปราศจากหางเสือ ไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าไปในทิศทางใด ในตอนแรกๆ มันก็ยังดำเนินงาน ไปได้อยู่ชั่วระยะหนึ่ง แต่แล้วก็มีท่าทีว่าอาจจะต้องถึงกับล้มลง
บรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายบิรหารระดับสูง โดยเฉพาะผู้ซึ่งมีความสามารถพอที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งที่มั่นคงกว่าจากบริษัทอื่น ซึ่งในช่วงนั้นองที่ดิน่าจำเป็นต้องยื่นมือเข้ามาในฐานะที่เธอเป็นคนหนึ่งในสกุลแชนดเลอร์
มันมิใช่เรื่องง่ายนัก ทั้งนี้เพราะมันเป็นงานที่แปลกและใหม่ ยิ่งกว่านั้นเธอก็ยังเป็นสาวและเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับกลไกต่างๆ ในการบริหารงานบริษัทเลย ไม่ต้องเอ่ยถึงความไร้ประสบการณ์ด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่เธอก้าวเข้ามารับตำแหน่งนี้ในทันทีจึงออกจะเป็นเรื่องที่มีความยากลำบากใจอยู่มาก เพราะพนักงานส่วนใหญ่ที่มีอายุมากพอที่จะเป็นพ่อแม่เธอได้ และบางคนก็อยู่ในวัยเดียวกันกับ แฮรี่ แลนเดอร์ส คือพอที่จะเป็นปู่เธอได้ด้วยซ้ำ
ดิน่าได้เรียนรู้งานด้วยวิธีการอันลำบากยากยิ่ง ต้องทดลองทำและก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้นหลายต่อหลาย
ครั้งเธอพยายามเก็บงำความวิตกกังวล ความประหวั่นพรั่นใจเกี่ยวกับโชคชะตาของเบลคไว้ในส่วนลึกของหัวใจและในไม่ช้าเธอก็ได้พบว่า บุรุษผู้พร้อมจะให้เธอพักพิงได้สามารถจะระบายความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงได้นั้น ส่วนใหญ่แล้ว ก็พร้อมจะให้เธอร่วมเตียงนอนกับเขาไปเสียแทบทุกคน
ดังนั้น ยิ่งนานวันเข้า เธอก็ยิ่งหันไปหาเชทมากขึ้น เพราะมองเห็นความไม่เห็นแก่ตัว การไม่เรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่เขาให้ความสนับสนุนเธออย่างดี เขาไม่เคยแสดงให้เห็นเลยว่าต้องการผลประโยชน์ใดๆ จากเธอจนกระทั่ง เมื่อข่าวความตายของเบลคได้รับการยืนยันและผ่านพ้นไปแล้วหลายเดือน
ดิน่ามีความไว้วางใจในตัวเขาอย่างมาก และเขาก็มิได้ทำให้เธอบังเกิดความสงสัยอะไรในตัวเขาเลย แต่ทว่า ขณะนี้ แฮรี่ แลนเดอร์ส ได้ตั้งคำถามที่ทำให้เธอต้องใช้ความคิดอย่างมาก เป็นคำถามที่ดิน่าไม่อาจจะเผชิญเลย แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีทางใดที่จะหลีกเลี่ยงไปให้พ้นได้
เธอสั่นศีรษะราวจะขับไล่ความคิดออกไปเสียจากสมอง เดินกลับมายังโต๊ะทำงานอีกครั้ง เอื้อมไปหยิบ
หูโทรศัพท์ แต่แล้วก็เกิดความลังเลไม่แน่ใจขึ้นมา ได้แต่จ้องมองดูตัวเลขที่อยู่บนหน้าปัดค้างอยู่เช่นนั้น