บทที่ 5
“ผมจะดูวันผ่าให้อีกทีนะครับ แต่จะเร่งให้เร็วที่สุด” อุดมตอบไม่เจาะจง
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”
แก้วกาญจน์พนมมือไหว้ พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ ความหวังของเธอแจ่มชัดมากขึ้น เสมือนกับความหนักใจที่เพิ่มทวี
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”
อุดมพูดอย่างผู้ใหญ่ใจดี ก่อนจะปลีกตัวเดินไปยังห้องพักแพทย์ที่อยู่ไม่ไกล ปล่อยให้แก้วกาญจน์ยืนจมปรักกับความกลัดกลุ้มเพียงลำพัง
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
วาสนาเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้ๆ ชุมชนที่เธอพักอาศัยอยู่ สาวร่างเล็กก้าวเดินฉับๆ ไปยังศูนย์อาหารของทางห้าง จุดนัดหมายไว้กับเพื่อนสาวคนสนิท นิสัยเลิศ
“รอนานรึเปล่าแก้ว” วาสนาเอ่ยถามคนที่มานั่งรอ
“เพิ่งมาเมื่อกี้นี้เอง” แก้วกานต์ตอบ
“มีอะไร ทำไมถึงต้องนัดมาคุยกันที่นี่ล่ะ คุยที่บ้านไม่ได้หรือไง”
วาสนาถามจุดประสงค์สำคัญ เพราะไม่บ่อยครั้งนัก ที่เพื่อนรักจะนัดมาคุยด้วยกันข้างนอก ปกติจะคุยที่บ้านของคนที่นัดแนะเธอมาพบมากกว่า
“ฉันมีเรื่องจะปรึกษาแก” แก้วกาญจน์บอกเพื่อน สีหน้าของเธอแลดูเศร้าและหนักใจ
“เรื่องหนึ่งใช่ไหม”
วาสนาพูดอย่างรู้เท่าทัน เพราะในชีวิตของแก้วกาญจน์ไม่มีเรื่องอะไร นอกจากเรื่องนี้ แล้วเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเพื่อนสนิทด้วย
“หมออุดมเขาบอกวันผ่าตัดพี่หนึ่งแล้วนะนา”
แก้วกาญจน์เริ่มเกริ่น
“แล้ววันไหนล่ะ”
“สิ้นเดือนหน้า” แก้วกาญจน์ตอบเสียงเนือย
“แล้วหมอบอกหรือเปล่า ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่” วาสนาถามต่อ
“หมอบอกว่าต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณห้าหมื่นบาท เพราะบัตรสามสิบบาทรักษาทุกโรคไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
นึกถึงจำนวนเงินส่วนต่างที่เธอต้องหามาเพิ่ม สีหน้าของแก้วกาญจน์ยิ่งเพิ่มความหนักใจหลายเท่า
“เงินเยอะอย่างนี้จะหาได้ยังไงเวลาแค่เดือนกว่าๆ นอกจากต้องกู้เขาอย่างเดียว” วาสนาพลอยกลุ้มไปกับแก้วกาญจน์ด้วย
“เงินกู้เยอะขนาดนี้จะมีใครปล่อยเนี่ย” พูดไปก็กลุ้มไป
“ฉันถึงนัดแกมาคุยที่นี่ไง คุยที่บ้านเดี๋ยวพี่หนึ่งได้ยิน”
“แกก็กลัวแต่หนึ่งมันจะกลุ้ม แต่ไม่กลัวตัวเองกลุ้มเลยนะ ฉันก็เพิ่งเคยเจอะเคยเจอ คนอะไรนึกถึงแต่คนอื่นมากกว่าตัวเอง”
วาสนารู้ถึงเหตุผลที่แก้วกาญจน์กระทำ แต่ทว่าเธอก็อดจะแขวะใส่เพื่อนไม่ได้
“แกก็รู้ว่าฉันทำอย่างนี้ทำไม แกอย่าว่าพี่หนึ่งเลยนะ พี่หนึ่งน่าสงสารจะตายไป นะนานะ อย่าว่าพี่หนึ่งนะ” แก้วกาญจน์ออกโรงป้องกันตธร
“ก็ได้ๆ ฉันไม่ว่าพี่หนึ่งสุดแสนดีของแกก็ได้” วาสนาตัดบท “แล้วแกจะทำยังไงต่อไป”
“ที่ฉันนัดแกมา เพราะอยากให้แกช่วยหาเงินกู้ให้หน่อย ฉันรู้ว่าแกรู้จักคนปล่อยเงินกู้หลายคน แกน่าจะช่วยฉันได้”
ตัวเลขมากโข ที่อุดมบอกจำนวนคร่าวๆ ในการรักษา ทำให้เธอกลัดกลุ้มไม่น้อย แล้วไม่รู้ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า ถ้ามีเธอคงต้องวิ่งหาเงินหัวหมุนแน่นอน ที่พอจะหาได้ตามจำนวนนั้นคือ การกู้เงิน
“นะช่วยฉันหน่อยนะนา” ก่อนจะอ้อนให้เพื่อนเห็นใจ
“จริงอยู่ที่ฉันรู้จักคนปล่อยเงินกู้หลายคน แต่ว่าคนปล่อยเงินกู้พวกนี้ เขาจะเก็บเป็นรายวันนะ ปล่อยง่ายๆ ให้พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายที่ให้เงินเป็นวันได้ อย่างแกจะมีให้เขาเป็นรายวันเหรอ เงินต้นห้าหมื่นจ่ายรายวันมันก็หลักพันนะแก้ว”
วาสนารู้เรื่องเงินกู้ดี เพราะมารดาของเธอติดเงินกู้รายวันอยู่หลายเจ้า แต่ละวันต้องหาเงินมาใช้หนี้ทุกเจ้า จ่ายร่วมสี่ร้อยบาท กำไรจากการขายอาหารตามสั่ง บางวันก็แทบไม่มี ทว่าก็ต้องทน หากวันไหนหยุดขายก็ไม่มีวันเว้น จะต้องจ่ายทุกวันตามกำหนด จนกว่าจะหมดเงินต้นและดอก ยิ่งเงินต้นสูง จำนวนเงินที่ส่งก็ต้องเยอะตามไปด้วย
เงินต้นห้าหมื่นบาท ดอกร้อยละยี่สิบ ทั้งต้นทั้งดอกรวมเป็นเงิน หกหมื่นบาท หากแก้วกาญจน์กู้เงินจริงๆ ก็ต้องจ่ายเงินกู้วันละสองพันบาท ซึ่งมันเป็นจำนวนเงินที่แก้วกาญจน์หาไม่ได้แน่นอน
“แล้วมีเงินกู้แบบรายเดือนหรือเปล่านา ถ้าจ่ายรายวัน ฉันไม่ไหวแน่ๆ รายเดือนยังพอไหว” วาสนาถอนหายใจก่อนจะตอบ “มันก็มีอยู่นะ ที่กู้เป็นรายเดือน แต่กู้แบบนี้มันต้องมีหลักทรัพย์ด้วยไม่อย่างนั้นเขาไม่ปล่อยหรอก”
ข้อนี้ยิ่งหนักใจมากขึ้นไปอีก นำหลักทรัพย์ไปค้ำประกันถึงจะได้เงินกู้ แล้วจะนำหลักทรัพย์ที่ไหนไปให้เจ้าของเงินกู้ เพราะบ้านที่อยู่ก็เช่า ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านก็ไม่มีชิ้นไหนสักชิ้นที่พอจะนำไปค้ำประกันได้ นำพาความหนักใจให้กับแก้วกาญจน์ไม่น้อย
“หลักทรัพย์เหรอ” แก้วกาญจน์พูดเสียงเบา “ฉันไม่มีหลักทรัพย์อะไรไปค้ำเลยสักชิ้น”
วาสนาเห็นสีหน้าและได้ยินน้ำเสียงของเพื่อนแล้วอดที่จะสงสารไม่ได้ เธอเองก็อยากจะช่วย แต่ลำพังตัวเองก็ยังเอาไม่รอด สิ่งที่เธอจะช่วยเพื่อนสนิทคนนี้ได้คือ ช่วยหาเจ้าของเงินกู้ที่หน้าเลือดน้อยที่สุด
“เอาอย่างนี้ ฉันจะช่วยหาให้ก็แล้วกัน พูดกับเขาดีๆ บางทีอาจจะเปลี่ยนจากเอาหลักทรัพย์มาเป็นหาคนค้ำแทน ถ้าได้อย่างหลังฉันว่าแกมีสิทธิ์ได้เงินจำนวนนั้น” คำพูดของวาสนาจุดประกายความหวังให้กับแก้วกาญจน์ในทันที แม้ว่าความหวังนั้นจะน้อยนิด ทว่ายังดีกว่าความหวังหยุดนิ่งที่ศูนย์