ตอนที่ 2 พูดคุย
ตอนที่ 2 พูดคุย
“ให้ผมช่วยอุ้มไหมครับ” ดราฟลงมาเปิดประตูรถให้เจ้านายเหมือนอย่างเคย แล้วเอ่ยอาสาจะเป็นคนอุ้มหญิงสาวคนนี้ให้
“ไม่เป็นไร นายไปบอกแม่บ้านให้หาเสื้อผ้ามาให้เธอเปลี่ยนหน่อย ส่วนไอ้เจสมึงเอารถไปเก็บแล้วก็ไปพักเถอะ” คำสั่งของผู้เป็นเจ้านายจบลง ทั้งสองต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง
ส่วนคาลอสเขาอุ้มหญิงสาวที่สลบไม่ได้สติขึ้นชั้นบน โดยเลือกที่จะเอาเธอเข้าไปพักในห้องนอนส่วนตัวของเขา
ห้องนอนที่คฤหาสน์หลังนี้จะมีห้องว่างจนนับไม่ถ้วนก็จริง แต่ห้องพวกนั้นยังไม่ได้ทำความสะอาด คาลอสก็เลยตัดสินใจพาเธอเข้าห้อง ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน โดยเฉพาะเจสกับดราฟ เพราะเจ้านายของเขาไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเข้าห้องนอนส่วนตัวมาก่อน แม้แต่ภรรยาของตัวเองถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น บ่งบอกว่าน่าจะเป็นลูกน้องที่เอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้
“อ้าวสา...” นิสาภรรยาของเขาเอง ที่มาเคาะประตูเรียก พร้อมกับเสื้อผ้าผู้หญิงในมือ
“ตอนนี้แม่บ้านหลับกันไปหมดแล้ว สาก็เลยอาสาเอามาให้เองค่ะ เสื้อผ้าพวกนี้ของสาเอง เธอน่าจะใส่ได้ ขอเข้าไปได้ไหมคะ” นิสาเธอมีท่าทางเกรงใจผู้เป็นสามีอยู่มาก ก่อนที่เธอจะมายืนอยู่หน้าห้องนี้ เธอเดินลงไปหาน้ำที่ชั้นล่างดื่มพอดี ก็เลยไปเจอกับดราฟเข้า นิสาก็เลยอาสาเอาเสื้อผ้ามาให้เอง แล้วก็ให้ดราฟไปพัก เพราะเวลานี้ก็ดึงมากแล้ว
“อือ เข้ามาสิ”
“ดราฟเล่าให้สาฟังบ้างแล้ว ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างคะ” น้ำเสียงเรียบๆเอ่ยถาม พร้อมกับเดินมาถึงเตียงที่หญิงสาวตัวเล็กนอนอยู่
“ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ แล้วไอ้ดราฟไปไหนแล้วล่ะ” คาลอสไม่ได้สนใจความรู้สึกของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาเลยสักนิด เขาเอ่ยถามหาลูกน้องคนสนิท แต่ก็แอบรู้สึกเกรงใจนิสา เพราะเขาคงต้องอาศัยให้เธอช่วยแล้วแหละ
“สาให้ดราฟไปพักแล้วค่ะ”
“สาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผู้หญิงคนนี้หน่อยได้ไหม”
“ได้สิคะ แต่คุณต้องออกไปก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะเข้าไปอาบน้ำแล้วกัน ดึกมากแล้วจะได้นอนพักกันสักที” พูดจบคาลอสก็เดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้ภรรยาของเขาเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับหญิงสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง
“เสร็จแล้วเหรอ” คาลอสเดินออกมาจากห้องน้ำ เป็นจังหวะที่นิสาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับผู้หญิงตรงหน้าเสร็จพอดี
“ค่ะ คุณจะให้เธอนอนที่ห้องนี้เหรอคะ” นิสาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะคาลอสไม่ค่อยให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในห้องนอนส่วนตัวของเขามากนัก รวมถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาอย่างเธอด้วย
“ให้เธอนอนที่นี่แหละ ผมเกรงใจแม่บ้าน ป่านนี้ทุกคนคงหลับกันหมดแล้ว สาเองก็ไปพักเถอะขอบใจมาก” ทั้งสองพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้มีความรู้สึกอื่นแต่อย่างใด
“ค่ะ ถ้ามีอะไรก็เรียกสาได้ตลอดเลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
“อือ” คาลอสตอบเท่านี้ นิสาก็เดินออกจากห้องไป ปิดประตูห้องให้เสร็จ
คาลอสยืนมองใบหน้าของหญิงสาวที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงกว้างของเขา คาลอสรู้สึกสงสาร ดูจากใบหน้าของเธอแล้ว อายุน่าจะยี่สิบต้นๆเท่านั้น
เสียงร้องขอความช่วยเหลือกับสีหน้าหวาดกลัวของเธอ ยังคงอยู่ในหัวเขาไม่หาย คิดแล้วก็อยากจะฆ่าไอ้พวกนั้นให้ตายไปให้หมด ถ้าไม่เกรงกลัวกฎหมายเขาคงยิงพวกมันทิ้งไปแล้วจริงๆ
คาลอสล้มตัวนอนลงบนเตียงคนละฝั่งกับที่หญิงสาวนอนอยู่ ซึ่งก็ห่างกันพอสมควร ทันใดนั้นกลิ่นกายสาวก็เข้ามาเตะจมูก เขาพลิกตัวนอนหันหลังให้ทันที เพราะกลิ่นกายหอมๆที่มันลอยเข้าจมูกเขานั้น มันทำให้เขานอนไม่หลับ เตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่ออกจะกว้างพอสมควร แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาข่มตาหลับลงได้
เขาสาบานกับตัวเองเลยว่า ไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากไปกว่าแค่อยากจะช่วยเพราะว่าสงสารเท่านั้น แต่เลือดร้อนภายในร่างกายหนุ่มนั้น มันกลับไม่รักดี ไหนจะใบหน้าหวานนวลขาวผ่องหลับไม่รู้เรื่อง ราวกับเด็กที่ไร้เดียงสา แต่เธอกลับไม่ใช่เด็กอย่างที่เขาคิดนี่สิ กลิ่นกายของเธอมันทำให้เขาแอบด่าตัวเองในใจว่า… ‘ทำไมวันนี้กูถึงได้จมูกดีจังวะ’
คาลอสพยายามข่มตาหลับไม่ให้สมองคิดฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้ เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไม่นานเขาก็หลับไปเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน
เช้าวันรุ่งขึ้น
คาลอสตื่นก่อนหญิงสาว เขาลุกขึ้นไปอาบน้ำ เสียงน้ำที่ตกกระทบพื้นดังออกมาจากห้องน้ำ ทำให้คนที่นอนหลับสนิทอย่างสบายได้ยินเสียงและรู้สึกตัวตื่นขึ้น
“เราอยู่ที่ไหนเนี่ย” หญิงสาวรู้สึกตัวขึ้น เธอลืมตามองไปรอบๆห้องและเตียงที่เธอนอนอยู่ แล้วภาพเมื่อคืนที่เธอกำลังโดยผู้ชายห้าคนกำลังรุมทำร้ายก็เกิดขึ้นในสมองของเธอ หญิงสาวยังคงหวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เธอลุกขึ้นนั่ง นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงคล้ายกับว่ากำลังกอดตัวเองเอาไว้ ก้มหน้าลงซบกับหัวเข่าในหัวคิดแต่เรื่องเมื่อคืน ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่ามีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาประชิดติดขอบเตียง ถุงผ้าขนหนูผืนเดียวคล้ายกับกำลังเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาใหม่ๆ
“ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเป็นภาษาอังกฤษอย่างเป็นห่วง หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เห็นภาพตรงหน้าเธอถึงกลับสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ตรงหน้าแต่เช้า และเป็นความโชคดีของเธอที่เธอสามารถพูดและฟังภาษาอังกฤษได้ จึงไม่แปลกที่เธอจะฟังที่สิ่งเขาถามได้อย่างชัดเจน
“คุณอา! คุณอาเป็นคนช่วยหนูไว้ใช่ไหมคะ” หญิงสาวตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอในสภาพที่ไม่เรียบร้อย ใบหน้าขาวเห่อแดงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เธอก้มหน้าหลบตาลงทันที
“ใช่ จะให้แจ้งความไหม จะได้ให้คนของฉันพาไป” เมื่อคืนก่อนที่เธอจะสลบไปเธอเห็นคุณอาคนนี้เข้ามาประคองเธอไว้ เธอเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนก่อนที่เธอจะหมดสติไป
“…….” หญิงสาวส่ายศีรษะเบาๆ เธอรอดมาได้ก็บุญแล้ว ไม่อยากให้เป็นเรื่อง เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ต้องอับอายก็คงเป็นเธอเอง นักข่าวสมัยนี้ยิ่งชอบทำข่าวแบบนี้อยู่ด้วย หลังจากที่ข่าวได้แพร่ออกไป คนก็จะเริ่มรู้ว่าผู้หญิงที่เป็นเหยื่อในวันนั้นก็คือเธอเอง เธอไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของใครทั้งนั้น แค่นี้เธอก็รู้สึกกลัวจะแย่อยู่แล้ว