บทย่อ
เรื่อง...หัวใจเมียน้อย คำโปรย...บุญคุณครั้งแรก แลกด้วยพรหมจรรย์ บุญคุณครั้งที่สอง แลกด้วยหัวใจ แนะนำตัวละคร คาลอส เกลนดาลอร์ท (คุณคาร์) อายุ 39 ปี เขาเป็นนักลงทุนชาวต่างชาติ จำพวกธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ เขาหล่อ รวย ผู้มีใบหน้าคมเข้ม ดวงตาสีฟ้าอ่อน รูปร่างสูงใหญ่ อายุ 39 ปี ละอองดาว (แป้งฝุ่น) อายุ 24 ปี นักเรียนทุนฝึกงานปีสุดท้าย เธอเป็นเด็กกำพร้า เธอเรียนเก่งจึงสอบชิงทุนเรียนแพทย์ได้สำเร็จ เธอสวย ตัวเล็ก ผิวขาว นิสัย อ่อนหวาน เจ้าน้ำตา อ่อนแอ ขี้อ้อน น่าทะนุถนอม @@@@@@ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก มีดราม่าช่วงแรกๆ พระเอกอบอุ่นใจดี
ตอนที่ 1 เกิดเหตุ
ตอนที่ 1 เกิดเหตุ
รถเบนซ์ตัวท๊อปรุ่นใหม่ล่าสุดคันสีดำเงาวับ แล่นมาตามท้องถนนเวลาดึกสงัด ท่ามกลางฝนตกปรอยๆ รถจึงแล่นไปไม่ค่อยไวนัก เพราะคนขับเน้นความปลอดภัยของผู้เป็นเจ้านายที่สุด แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เหมือนมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้นด้านหน้า เมื่อรถแล่นเข้าไปใกล้ แสงไฟสาดส่อง แต่ก็ยังมองไม่ค่อยชัดอยู่ดี เพราะสายฝนเริ่มเทลงมาหนักขึ้นอีก แต่ก็พอจะรู้ว่าด้านหน้ากำลังเกิดเรื่อง
“ข้างหน้ามีอะไรน่ะเจส” เสียงเข้มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังทำหน้าที่ขับรถ
คาลอสมีลูกน้องคนสนิทสองคน ชื่อเจสกับดราฟ ทั้งสองมีความสำคัญพอๆกัน ไปไหนไปด้วยกัน ทั้งสองจะผลัดกันทำหน้าที่ขับรถให้เจ้านายนั่ง
“เหมือนจะมีเรื่องครับนาย” ดราฟที่นั่งอยู่ด้านหน้า ข้างคนขับเอ่ยขึ้น ดราฟกำลังมองเหตุการณ์ตรงหน้ามาแต่ไกล ภาพที่เห็น มีผู้ชายห้าคนกำลังรุมล้อมผู้หญิงหนึ่งคน ซึ่งแทบจะมองผู้หญิงไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ เพราะผู้ชายที่กำลังรุมล้อมอยู่นั้นบดบังผู้หญิงจนมิด แต่เสียงร้องที่ดังออกมานั้น ทำให้คนที่อยู่ในรถรู้แล้วว่าเหตุการณ์ข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น
“หุบปากถ้ามึงยังไม่อยากตาย ก็ไปกับพวกกูดีๆ” ชายหนึ่งในห้าคนเอ่ยขึ้นเสียงดัง ข่มขวัญผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ที่พื้นถนน เสื้อผ้าเปียกปอน สภาพดูไม่ได้
“ไม่! ไอ้บ้า อย่าทำอะไรหนูเลยนะ หนูกลัวแล้ว ขอร้องล่ะ” เสียงสั่นๆยกมือไหว้ร้องขอชีวิตจากผู้ชายห้าคนตรงหน้า
“อีนี่ มึงพูดไม่รู้เรื่องหรือไง ยอมเป็นของพวกกูซะดีๆ แล้วพรุ่งนี้มึงก็จะได้เป็นอิสระ” หนึ่งในห้าคน นั่งลงข้างหน้าเธอ เอ่ยขึ้นเสียงเข้มหน้าตาดุดัน สกปรกตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สิ่งที่หญิงสาวเห็นภาพตรงหน้าเธอทั้งหวาดกลัวทั้งขยะแขยง
“ปัก!! ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เท้าเล็กๆของเธอถีบเข้าที่แผงอกของผู้ชายที่กำลังพูดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอไม่มีทางยอมเป็นของพวกมันแน่ ถึงตายเธอก็ยอม
“ช่วยด้วยค่า...ช่วยด้วย...” เมื่อรถแล่นเข้าไปใกล้ขึ้น เสียงร้องของผู้หญิงดังขึ้นท่ามกลางสายฝน ทั้งเสียงฝนที่กำลังตกอยู่ กับเสียงผู้หญิงที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ ดังปนๆกันไป แต่คนที่ได้ยินเพราะลดกระจกรถลง ขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันแน่น เพราะเขาเกลียดเรื่องแบบนี้เป็นที่สุด นั่นจึงทำให้เขาต้องสั่งให้รถจอดกะทันหัน
“จอด...” เสียงเข้มเอ่ยบอกลูกน้องมาจากทางด้านหลัง เจสเหยียบเบรค เมื่อมีคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายดังขึ้น
“ไอ้ดราฟมึงลงไปดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น” เพราะภาพที่เห็นเหมือนผู้หญิงกำลังจะถูกทำร้าย และนั่นเป็นสิ่งที่คาลอสรู้สึกไม่ชอบใจเอามากๆ แถมผู้ชายยังมีกันถึงห้าคน ส่วนผู้หญิงคนเดียว แต่ก็ยังมองไม่ชัดอยู่ดี เพราะชายพวกนั้นรุมเธอจนมิด
ดราฟเปิดประตูรถลงไปตามที่เจ้านายสั่งทันที พร้อมกับอาวุธคู่กายที่พกติดมือเอาลงไปด้วย
“เจส มึงรออยู่ในนี้” พูดจบผู้เป็นนายก็เปิดประตูรถลงไปด้วยทันที เมื่อเขาเห็นภาพแบบนี้ คาลอสไม่สามารถทนดูได้จริงๆ
“แต่ นายครับ” เจสยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงประตูรถก็ปิดดังปัง เจสแค่กำลังจะบอกว่าเขาจะลงไปให้เอง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว คนที่ก้าวเท้าลงไปเดินฉับๆอย่างไว
“นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกมึงกำลังทำอะไรกัน” เสียงภาษาไทยเอ่ยขึ้นแปร่งหู ภาพที่เห็นหญิงสาวตัวเล็กสภาพเปียกปอน ต่อสู้อยู่สุดกำลัง เธอทั้งร้องทั้งสู้อย่างไม่กลัวตาย เสื้อผ้าหลุดลุ่ย เห็นแล้วทำให้คาลอสยิ่งทนมองไม่ได้
“ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย พวกมันจะข่มขืนหนู” เมื่อเห็นสภาพหญิงสาวตรงหน้ายังคงยื้อยุดฉุดกระชากในสภาพดูไม่ได้
“หุบปาก เพี๊ยะ!!” แรงตบด้วยฝ่ามือของผู้ชาย ทำให้หญิงสาวถึงกลับหน้าหันไปอีกทาง
“อย่ามาแส่หาเรื่องดีกว่า ถ้าไม่อยากตายจะไปไหนก็ไป” หนึ่งในห้าคนเอ่ยขึ้นมา เมื่อเห็นว่ามีผู้เข้ามาขัดขวาง
“พวกมึงสิอยากตายหรือไง ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้!” เสียงกร้าวเอ่ยขึ้นอย่างดุดัน เมื่อเห็นผู้หญิงตัวเล็กถูกทำร้าย
“ปั้ง!!”
ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เป็นกระบอกที่อยู่ในมือของดราฟที่ยิ่งขู่ขึ้นฟ้า พลันเท้าหนักๆของคาลอสถีบเข้าที่ด้านหลังของผู้ชายคนใดคนหนึ่งในห้าคน หวังจะช่วยหญิงสาวผู้นั้นออกมาก่อน ทั้งหมดเกิดการต่อสู้กัน ดีที่เจสลงมาช่วยอีกแรง คาลอสรีบเข้าไปดูหญิงสาวที่ตอนนี้เธอได้สลบไปแล้ว
“นายพาผู้หญิงขึ้นรถเลยครับ ทางนี้พวกผมจะจัดการเอง”
“ฝากด้วยแล้วกัน เธอ...เธอ...โธ่โว้ย” เสียงสถบดังขึ้นเมื่อหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าหมดสติไปแล้ว ที่มุมปากของเธอมีเลือดสดๆไหลออกมา ท่ามกลางสายฝนเนื้อตัวเปียกปอน เสื้อผ้าหลุดลุ่ย คาลอสรีบอุ้มหญิงสาวตัวเล็กขึ้นรถ ในขณะที่เจสกับดราฟกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง ปกป้องผู้เป็นเจ้านายด้วยชีวิต
เสียงปืนยิงขู่ดังขึ้นเป็นระยะ เพราะดราฟไม่อยากทำร้ายใครถ้าไม่จำเป็น อีกอย่างทางฝ่ายโน้น ถึงจะมีกันถึงห้าคนแต่พวกมันก็ไม่ได้มีอาวุธ
“ปั้ง!! โอ้ย!!”
“ไอ้เข้มถูกยิง!”
“ถอยโว้ย ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” หลังจากที่ต่อสู้กันอยู่สักครู่ ทางโน้นถูกยิงไปหนึ่งนัด พวกมันจึงยอมถอย ที่จริงดราฟไม่อยากยิงโดนเลยด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องการจะยิ่งขู่เท่านั้น แต่กระสูนเจ้ากรรมมันดันทำหน้าที่ของมันเอง แต่ก็ไม่ได้จะกลัวกฎหมายแต่อย่างใด เพราะกล้องหน้ารถได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว
“นายครับจะให้พาเธอไปโรงพยาบาลก่อนไหมครับ” เจสเอ่ยขึ้นถามคนเป็นเจ้านายที่นั่งอยู่ด้านหลังกับผู้หญิงตัวเล็กที่ได้ช่วยไว้
“กลับบ้าน” สำหรับคาลอสที่สั่งให้ลูกน้องขับรถกลับบ้านนั้น เขาคิดว่าถ้าไปโรงพยาบาล หญิงสาวคนนี้ก็จะต้องถูกสอบประวัติ ซึ่งเขาไม่รู้จักเธอเลย แล้วตอนนี้เธอก็สลบอยู่ แต่ถ้าเธอฟื้นคุณหมอก็ต้องสอบถามหาความจริงอีกอยู่ดี แล้วเรื่องก็คงต้องถึงตำรวจ เขาไม่รู้ว่าเธอหวาดกลัวหรือเสียขวัญขนาดไหน เขาก็เลยพาเธอกลับบ้านก่อนดีกว่า
ทั้งสองที่ได้ยินคำตอบของผู้เป็นเจ้านาย ถึงกลับงงในคำตอบ เพราะแทนที่จะตอบว่าให้พาไปโรงพยาบาล แต่เจ้านายกลับสั่งให้กลับบ้านซะอย่างนั้น สายตาของลูกน้องทั้งสองมองกันแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เจสทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิม ไม่นานรถก็แล่นเข้ามาจอดที่คฤหาสน์หลังงาม