บทที่ 4
พศุตม์มองร่างผ่ายผอมของพี่สาวของเขาที่นอนบนเตียงในห้องคนไข้พิเศษอย่างเป็นห่วง ผิวขาวเผือดเกือบจะเป็นสีเดียวกับผ้าปูเตียงสีขาวสะอ้าน เธอหลับตาพริ้มหลังจากทรมานเพราะอาการป่วยอยู่หลายชั่วโมง อาการของเพียงเพ็ญนับวันจะยิ่งทรุดลง บิดาของเขาสั่งเสียไว้ว่า จะอย่างไรก็ตาม ต้องตามหาเพียงเพ็ญให้พบ การกระทำของบุตรสาวทำให้ศร ป่วยหนักยิ่งกว่าเดิม และจากไปก่อนเวลาอันควร เขารับหน้าที่ตามหาเธอ และถึงกับเข่าอ่อน เมื่อพบพี่สาวในที่อโคจรอย่างสถานเริงรมย์เก่าๆ ในตรอกสกปรก สภาพของเธอตอนที่เขาไปรับครั้งแรกทำให้พศุตม์ถึงกับอยากจะร้องไห้ด้วยความสงสาร อะไรทำให้ผู้เป็นพี่สาวทิ้งครอบครัวอันอบอุ่น ผู้ชายที่ดีพร้อมและอ่อนโยนอย่างอาทิตย์ หันหลังให้กับทุกสิ่ง หนีไปกับผู้ชายรุ่นน้อง ที่ตอนหลังทำให้เพียงเพ็ญกลายเป็นสินค้าสนองกามารมณ์ แลกเธอกับเศษเงิน จนทำให้พี่สาวของเขาติดโรคมาสารพัด และหนักตรงที่เธอเป็นมะเร็งปากมดลูก อาการลุกลามจนถึงขั้นสุดท้าย เพียงเพ็ญอยู่เพราะกำลังใจ ที่นับวันจะยิ่งถดถอย แพทย์ที่ดูแลเองก็ออกปากบอกให้เขาทำใจ เพราะเพียงเพ็ญอาจจะอาการทรุดหนักได้ทุกเวลา
มือของเขาจับมือซีดเย็นของพี่สาวและบีบเบาๆ คำพูดเสียงแผ่วเบาของเพียงเพ็ญทุกครั้งที่เธอลืมตาขึ้นมามองเขาคือ อยากเจอบุตรสาวคนเดียว ที่เธอละทิ้งอย่างไม่ไยดี เมื่อสิบปีก่อน พศุตม์ถอนใจ การตามหาตัวเพียงเพ็ญยากเย็นแค่ไหน เขาเคยสัมผัสมาแล้ว แต่เขาก็พยายามทำมันจนสำเร็จ หากแต่การพาหลานสาวมาพบกับเพียงเพ็ญ ดูเหมือนจะอยากยิ่งกว่า เขาไม่แน่ใจว่าอาทิตย์จะต้อนรับเขา และยอมให้ทานตะวัน หลานสาวที่เขาไม่เคยเห็นหน้า เพียงแค่รู้จักชื่อ มาเยี่ยมมารดาสักครั้งหรือไม่
“ตะวัน...แม่อยากเจอลูก...ตะวัน”
เสียงพร่ำเพ้อของพี่สาว ทำให้พศุตม์เม้มริมฝีปาก เขาบีบมือของเพียงเพ็ญแน่นอีกนิด เอามันมาแนบแก้ม พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นตอบรับกับพี่สาวว่า
“ครับพี่เพียง ผมจะพาตะวันมาพบพี่ ยังไงก็ต้องพาลูกสาวมาให้พี่เจอหน้าสักครั้ง ก่อนจะ...”
น้ำตาเขารินไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ แม้จะอายุต่างจากพี่สาวมากถึงสิบปี แต่เพียงเพ็ญก็เป็นพี่สาวที่ดีสำหรับเขา และแม้ว่าเธอจะมีพฤติกรรมในช่วงชีวิตหนึ่งหลงผิดไปบ้างก็ตามที แต่พศุตม์ก็ให้อภัยเธอ และเห็นว่าบาปกรรมนั้น ก็ลงโทษผู้เป็นพี่สาวมากพอแล้ว ญาติบางคนจะนินทาและถึงกับตัดญาติกับเพียงเพ็ญเพราะรับไม่ได้ กับพฤติกรรมเหลวแหลกของเธอก็ตามที แต่พศุตม์ก็ไม่สนใจ และยังรักพี่สาวเหมือนเดิม เขาเหลือมีเธอเพียงคนเดียวที่เป็นคนในครอบครัว และพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้กับเพียงเพ็ญ
เหมือนจะรับรู้ถึงการตอบรับของพศุตม์ เพียงเพ็ญยิ้มที่มุมปาก ทั้งที่นัยน์ตาหลับพริ้ม พศุตม์มองใบหน้าซีดเผือดที่หลับสนิทกับหมอนนั้นอีกครั้ง เพียงเพ็ญอายุแค่สามสิบสองปี หากแต่กลับดูราวกับคนอายุห้าสิบปีเป็นอย่างน้อย ผมของเธอเริ่มร่วงหล่น ใบหน้าตอบ เนื้อตัวเหลือแต่กระดูก ยิ่งมองพศุตม์ก็ยิ่งเวทนา เขาอยากจะทำตามความประสงค์ของผู้เป็นพี่สาว ก่อนที่เธอจะล่วงลับจากโลกนี้ไป
พศุตม์เดินออกจากห้องพักคนไข้พิเศษ แล้วถอนใจ เขาพึ่งจะสอบเสร็จ แม้จะไม่ใคร่มีสมาธิเท่าไหร่ก็ตามที คะแนนเขาในปีการศึกษาสุดท้ายคงไม่ค่อยจะดีนัก ชายหนุ่มถอนใจอย่างเหนื่อยล้า นึกถึงธุรกิจที่ต้องไปสืบสานต่อจากบิดา เขาเหนื่อยมาก ทั้งการตามหาพี่สาว ดูแลบิดา ตามด้วยการเรียนอย่างหนักในปีการศึกษาสุดท้าย หลายอย่างประเดประดังเข้ามา จนเขาเครียดจัด ใบหน้าเคร่งขรึมมากไปทุกวัน พศุตม์ยกมือลูบหน้า ก่อนจะหัวเราะหึ หึ นี่เขาต้องรับผิดชอบมากขนาดนี้เลยหรือนี่ การเป็นน้องเล็กของบ้านใช่จะสบาย เมื่อต้องแบกภาระมากขนาดนี้ งานศพบิดาที่พึ่งจะจัดเสร็จไปก็เหนื่อยมากทั้งกายใจ เขาแทบจะไม่ได้มีเวลาร้องไห้เสียใจ เพราะเหนื่อยมาก ศรจากไปกะทันหันเหลือเกิน และรวดเร็วกว่าที่เพียงเพ็ญจะได้ทันดูใจบิดา นี่กระมังที่ทำให้อาการของเธอยิ่งทรุดหนัก ความรู้สึกผิดหลายอย่างเกาะกุมหัวใจ จนทำให้ไม่อยากมีชีวิตอยู่สู้หน้าใคร ทางที่เธอเลือกมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่คิดไว้ การตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของเพียงเพ็ญ ทำร้ายหัวใจใครต่อใครมากมายเหลือเกิน...