บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

เด็กสาวอุทาน อาทิตย์ยักไหล่ พร้อมกับก้มอ่านหนังสือในมือต่อ เหมือนไม่อยากจะอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ความหวังที่เขาก่อไว้ให้ทานตะวัน มันคืออะไร? เด็กสาวน้ำตาหยาดริน และหยดร่วงลงมาทันที

“ทำไม แกมีปัญหาอะไร ดีเหมือนกันที่กระถางแตก แกจะได้ไม่โง่ไปคอยประคบประหงมดินเปล่าๆ อีก อ้อ...ส่วนเรื่องเรียนต่อ ถ้าอยากเรียนนัก แกก็เรียนกศน.เอา เพราะฉันไม่อยากให้แกไปไกลหู ไกลตา เดี๋ยวประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอย”

อาทิตย์ปรายตาขึ้นมองบุตรสาวคนเดียว หน้าตาของเธอช่างคล้ายกับใครบางคน จนเขายอกแสยงที่จะมองนานๆ โดยเฉพาะ นัยน์ตาดำขลับงดงามราวกับตากวางนั่น นี่กระมังเขาถึงเกลียด...ชายกลางคนใช้คำนี้กับตนเอง เวลาที่รู้สึกกับบุตรสาวในไส้

เขาเกลียดเธอ ...ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด...ยิ่งผู้หญิงสาวสวย หน้าตาถอดแบบกันมาขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยหรอกว่า นิสัยจะถอดแบบกันมาได้เหมือนหน้าตาไหม เขาคิดแล้วก็เมินมองไปทางอื่น ไม่อยากมองสบสายตากับนัยน์ตาตัดพ้อและโศกเศร้าของทานตะวัน

“พ่อ... แต่ว่าตะวันอยากเรียนต่อนะฮะ ตะวันอยากเรียน...”

“ก็ฉันให้แกเรียนแล้วยังไง? ทำไม? หรือจะมีปัญหา ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเรียน จะเรียนให้มากทำไม ถึงเวลา ฉันก็จะหาผัวให้แกออกเรือนไป จะได้ไม่ต้องมาอยู่เกะกะไร้ประโยชน์ที่นี่”

ผู้เป็นบิดาพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม ทานตะวันถึงกับลืมตัว ปรกติเธอจะนิ่งเงียบ และเดินหนีอาทิตย์ไปเสียเวลาเขาพูดจาเสียดสีเธอ หากแต่วันนี้ ความผิดหวัง...น้อยใจ...และเศร้าโศกที่เกาะกุม ทำให้เธอลืมตัวโต้เถียงกับบิดาเป็นครั้งแรก

“ทำไมพ่อถึงเกลียดตะวันนัก ตะวันทำอะไรให้พ่อหรือฮะ”

เสียงสั่นเครือของทานตะวันไม่ได้ทำให้ อาทิตย์รู้สึกสงสารบุตรสาวของเขา หากแต่ยิ่งทำให้เขามองเธออย่างเกลียดชังมากขึ้น เขาวางหนังสือในมือลงค่อนข้างแรง และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“ฉันเกลียดที่แกเป็นผู้หญิง แถมหน้าตาเหมือนนังร่านนั่น พอใจไหม? ทานตะวัน ฉันเกลียดความเป็นผู้หญิง และหน้าตาของแก ไปให้พ้นหูพ้นตา ให้ที่ซุกหัวก็บุญเท่าไหร่แล้ว ฉันหวังว่าแกคงจะไม่มากวนใจฉันอีกนะ ถึงเวลาฉันจะจัดการชีวิตครอบครัวให้แกเอง ถ้าแกไม่อยากทำให้ฉันเกลียดมากกว่านี้ ก็ไม่ต้องวุ่นวายให้มากนัก”

ทานตะวันถึงกับร้องไห้โฮออกมาเมื่อฟังคำพูดของบิดา เธอวิ่งหนีออกไปจากระเบียงที่ผู้เป็นบิดานั่งอยู่ วิ่งออกไปอย่างไร้ทิศทาง อาทิตย์มองตามหลังแล้วลุกขึ้นยืน พลางเดินปึง ๆ เข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะทรุดนั่งอย่างกระแทกกระทั้นลงบนเก้าอี้นวมในห้องทำงานของเขาที่กันไว้เป็นส่วนตัว ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยแรงโทสะ ความรักลึกล้ำที่เขามีต่อสตรีนางเดียวอย่าง เพียงเพ็ญ กลายเป็นความแค้นฝังลึกในหัวใจ เมื่อเธอกระทำย่ำยีหัวใจเขา สายตาของเขามองกวาดไปทั่วบริเวณสวนดอกไม้ ก่อนจะกัดกราม เขาจะเปลี่ยนมันเป็นอย่างอื่น จะไม่มีอีกแล้ว ‘สวนด้วยรัก’ เขาเกลียดทุกอย่าง ที่ทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงที่เคยร่วมชีวิตกันเกือบห้าปี แล้วทรยศหักหลังเขา เขาทนดูหน้าบุตรสาวคนเดียวไม่ได้ จนต้องส่งไปอยู่กับอัญชลีผู้เป็นพี่สาว ถ้าอัญชลีไม่มาด่วนจากไปก็คงดี เขาจะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าทานตะวันให้หัวใจเจ็บแปลบจนถึงทุกวันนี้ อาทิตย์กำมือจนแน่นเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต เขาลุกขึ้นยืน และเดินตรงไปยังตู้กระจกที่เขาใช้เก็บเหล้า ก่อนจะตะโกนโหวกเหวกเสียงดังลั่นบ้าน

“ใครอยู่ไหม? เอากับแกล้มเข้ามาให้ในนี้หน่อย กูจะกินเหล้า !”

อาทิตย์อัศดงลับลาลงจากท้องฟ้า รัตติกาลมาเยือนทำให้ท้องฟ้าเริ่มมืดมิดลง พระจันทร์เริ่มขึ้นมาทำหน้าที่ส่องแสงแทน เสียงหริ่งหรีดเรไร แข่งกันเจื้อยแจ้ว แทนเสียงนกกา เด็กสาวนั่งอยู่ใต้ต้นจำปีต้นใหญ่ เอนพิงลำต้นของมัน เธอไม่สนใจกับความมืดที่เริ่มครอบคลุมท้องฟ้า ตอนนี้ความมืดมนในใจมีมากมายกว่า หลังจากฟังคำพูดบาดลึกประโยคนั้นแล้ว เด็กสาววิ่งออกมาอย่างทนไม่ได้ ทานตะวันปาดน้ำตาก่อนจะสะอื้นไห้ เธอนั่งกอดเข่าคุดคู้ เหมือนเด็กขาดความอบอุ่นและหนาวเหน็บ คำพูดของผู้เป็นบิดาเหมือนส่งให้เด็กสาว พบกับความเจ็บปวด จนเกินกว่าหัวใจของเธอจะรับไหว ทานตะวันร้องจนไม่มีน้ำตาจะไหล เธอหลับตา รำลึกถึงความรักที่เคยได้รับจากผู้เป็นป้า ที่พร่ำบอกว่าบิดารักเธอไม่แพ้ตนเอง เพียงแต่เขาไม่มีเวลาเท่านั้น

‘ทำไม พ่อถึงไม่รอตะวันตื่นล่ะคะ ป้าอัญ’

อัญชลีมองใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กหญิงทานตะวันที่เฝ้าเพียรถามเธอ เมื่อตื่นมาแล้วไม่พบอาทิตย์ บิดาที่เธอไม่เคยเจอแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่จำความได้ เธอเพียงมองเห็นเขาในภาพถ่ายเท่านั้น

‘พ่อเขางานยุ่งน่ะลูก ยังไงพ่อก็ฝากสวัสดีตะวันน่ะจ้ะ จำคำของป้าไว้นะตะวัน ยังไงก็ตาม พ่อทุกคนรักลูกของตัวเองทั้งนั้น’

ภาพอดีตของเธอผุดพรายขึ้นในความทรงจำ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอมักจะได้รับคำตอบแบบนี้ เวลาที่เธอถามหาบิดา

‘พ่อทุกคนรักลูกของตัวเองทั้งนั้น’

ประโยคนี้ก้องอยู่ในหูของเด็กสาว สะท้อนกลับไปมา แต่สักพักมันกลับแผ่วหาย... ประโยคนี้สิ ที่กลับดังยิ่งกว่า และชัดเจนยิ่งกว่า

‘ฉันเกลียดที่แกเป็นผู้หญิง แถมหน้าตาเหมือนนังร่านนั่น…’

ยิ่งคิด น้ำตาที่เหือดแห้งไปกลับไหลออกมาอีกครั้ง เด็กสาวกัดริมฝีปากจนเจ็บ นี่น่ะหรือ ที่ผู้เป็นป้าบอกว่าบิดารักเธอ เขาประกาศก้องว่าเกลียดเธอ เกลียดที่เธอเป็นผู้หญิง เวลาสองปีที่เธอใช้ชีวิตอยู่กับบิดา ทานตะวันพยายามเข้มแข็ง ทำตัวให้ห้าวเหมือนผู้ชาย เธอเก็บกิริยาอาการนุ่มนิ่มไว้ ปรับตัวฝืนทำตัวเองให้แข็งแกร่ง ลุยงานทุกอย่างแบบไม่บ่นท้อ แม้บางทีเธอจะทำงานหนักจนเป็นไข้ แต่เด็กสาวก็ไม่เคยท้อถอย เพราะอยากให้บิดายอมรับเธอ คำพูดวันนี้ประกาศชัดแล้วว่าทุกอย่างสูญเปล่า บิดายังคงเกลียดเธอ และไม่เพียงแสดงแค่ทางสายตา และพฤติกรรมที่แสดงต่อเธอเท่านั้น วันนี้เขาบอกย้ำเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียง ที่แสดงความเกลียดชัง...

“หนูคิดถึงป้าเหลือเกิน ป้าอัญขา...”

เด็กสาวมองเหม่อขึ้นไปบนท้องฟ้ายามรัตติกาลที่มืดมิด ความอบอุ่นที่อัญชลีมอบให้เธอ มันคงไม่มีอีกแล้ว อ้อมอกอันเย็นชาของผู้เป็นบิดา คงไม่ใช่ที่พักพิงอันอบอุ่นของทานตะวัน

“ทำไมพ่อถึงเกลียดหนูนักคะ ป้าอัญ” ทานตะวันตั้งคำถามกับสายลม ที่กำลังเริ่มพัดจนเย็นผิว เหมือนจะฝากมันไปให้กับบุคคลที่ล่วงลับ

“ทำไมคะป้าอัญ พ่อบอกว่าหนูเหมือนกับ...”

เด็กสาวเม้มริมฝีปาก รูปภาพสตรีที่หน้าตาละม้ายคล้ายเธอ ที่อัญชลีเคยนำมาให้และบอกว่าเป็นมารดาของเธอ ปรากฏขึ้นมาในห้วงความทรงจำ

“พ่อบอกว่าหนูเหมือนกับแม่ พ่อด่าแม่ว่านังร่าน แม่หนูคงเป็นคนไม่ดีใช่ไหมคะป้าอัญ พ่อถึงเกลียด” ทานตะวันถอนใจ เธอเอนพิงกับต้นไม้อย่างเหนื่อยล้า

“แต่ตะวันรักพ่อ ยังไงก็ตาม ตะวันจะทำให้พ่อรักตะวัน ตะวันจะไม่เป็นผู้หญิงดีไหมคะป้าอัญ...”

ความคิดตามประสาเด็กวัยรุ่น ทำให้เด็กสาวพูดแบบนั้นออกมา ก่อนจะมองเหม่อไปในความมืด แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อไฟฉายส่องมายังหน้าเธอ เสียงนิ่มอุทานอย่างตกใจ เมื่อเห็นสภาพของเด็กสาว ที่กำลังนั่งอยู่ตรงโคนต้นจำปี ท่ามกลางความมืด

“คุณหนูตะวัน มานั่งทำอะไรตรงนี้ ป้าตามหาแทบแย่ ไม่เห็นมาทานข้าวเย็น ตายแล้ว !”

นิ่มตรงเข้ามาลูบหลังลูบไหล่ร่างบางอย่างเป็นห่วง อาการเป็นห่วงเป็นใยของนิ่ม ทำให้ความเคว้งคว้างของเด็กสาวเหมือนได้รับที่พึ่งพิง ทานตะวันโผเข้ากอดร่างอวบท้วมของเธอไว้แน่น ก่อนจะกระซิบเสียงเครือ

“ป้านิ่ม ตะวันจะไม่เป็นผู้หญิง ต่อไปนี้ตะวันจะเป็นผู้ชายนะฮะ”

“อะไรกันคะ คุณหนู”

นิ่มมองเด็กสาว และเลิกคิ้วอย่างตกใจ ใบหน้ามอมแมมไปด้วยหยาดน้ำตาที่เห็นทำให้หญิงวัยกลางคน ถอนใจน้ำเสียงที่พูดประโยคต่อมาปลอบประโลม เธอลูบไหล่บอบบางนั้นเบาๆ

“คุณหนูตะวัน นายพูดอะไรหรือเปล่าคะ คุณหนูไม่ต้องสนใจนะ นายก็แค่...เอ่อ...”

“แม่ตะวันเป็นคนไม่ดีใช่ไหมฮะป้านิ่ม”

ทานตะวันเม้มปาก คำพูดถึงมารดา เธอจำได้ทุกคำ นิ่มอึ้งไปนิด แล้วส่ายหน้า

“ไม่หรอกค่ะ คุณเพียง เธอ...คือว่า”

“พ่อเกลียดแม่ตะวัน แล้วก็เกลียดที่ตะวันเป็นผู้หญิง”

น้ำตากำลังร่วงรินจากนัยน์ตางดงาม เมื่อพูดประโยคนี้ เจ้าตัวกัดริมฝีปากแน่น จนนิ่มเห็นแล้วใจสะท้อน เด็กสาวอายุแค่นี้ ต้องมาเป็นที่รองรับอารมณ์เกลียดชังของผู้เป็นบิดา จะทนได้สักแค่ไหนกันนะ โธ่เอ๋ย...นิ่มคิดในใจ มือสากกร้านเพราะงานหนักลูบไล้แขนเรียวเล็กไปมา

“พ่อทุกคนรักลูกนะคะคุณหนูตะวัน ป้าก็รักคุณหนู คนในสวนด้วยรักทุกคนรักคุณหนูทั้งนั้น นายก็แค่...ยังโกรธแม่คุณหนูอยู่ เรื่องของผู้ใหญ่บางทีก็เข้าใจยากนะคะ”

“ป้านิ่ม ขอบคุณนะฮะ ที่รักตะวัน รู้สึกดีเหลือเกิน ที่มีคนรัก ตะวันยังมีคนที่รัก แค่นี้ตะวันก็มีกำลังใจแล้วล่ะฮะ”

ทานตะวันโอบรอบร่างของนิ่มแน่น พลางซบลงกับบ่า นิ่มกอดตอบเด็กสาว แล้วกระซิบย้ำ เหมือนจะให้พลังใจ

“จำไว้นะคะ พ่อทุกคนรักลูก เพียงแต่ท่านให้ความโกรธมาบดบังก็เท่านั้น คุณหนูตะวันน่ารัก และเป็นคนดี สักวันหนึ่ง นายก็จะรักคุณหนู เหมือนที่ทุกคนที่นี่รักคุณหนู”

“ฮะ ป้านิ่ม...”

ทานตะวันสูดน้ำมูก กลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมา เธอจะเลิกร้องไห้แต่เพียงเท่านี้ และจะตั้งใจทำตัวดีให้ผู้เป็นบิดาเลิกเกลียด และรักเธอบ้าง

“ตะวันจะรอวันที่พ่อจะรักตะวัน และเลิกเกลียดตะวันฮะ”

“โธ่เอ๋ย...” นิ่มครวญ

“คุณหนู…”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel