บท
ตั้งค่า

9. คืนแรกที่โฮมสเตย์

หญิงฝรั่งวัยเกือบชรา เดินออกมาต้อนรับออกัส ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส บุญญิสา เห็นทั้งคู่โผเข้ากอดกันราวกับว่าเป็นคนที่คุ้นเคยกันมาก่อน

“ที่พักว่างใช่ไหมครับโรส..”

ออกัส ถามหญิงชราที่ชื่อโรสนั้น แต่บุญญิสาก็ไม่ได้เข้าใจที่สองคนนั่นสนทนากันนัก

“ถึงไม่ว่าง ยายก็จัดห้องส่วนตัวของยายให้เธอพักได้อยู่แล้วล่ะออกัส”

คุณยายโรสซาลี หรือโรส บอกกับ ออกัส อย่างใจดี ก่อนจะหันไปมองบุญญิสา ด้วยสีหน้าแปลกใจ

“เธอมากับใคร..ไม่ใช่ซูซานนี่นา”

ยายโรสซาลี หันมามองหน้าออกัส

“เธอเป็นเพื่อนผมครับ มาจากประเทศไทย”

ออกัส บอกไม่ค่อยจะเต็มเสียงนัก

“ไม่ใช่แฟนใหม่ของเธอใช่ไหม”

“โอ๊ะ..ไม่ใช่หรอกยาย..ผมกับซูซาน เรายังคบกันอยู่”ออกัส รีบปฏิเสธ

บุญญิสา ทำปากย่นแอบฟังสองคนคุยกันทั้งที่แปลไม่ค่อยจะออก อาศัยการเดา ๆ เอา เธอชักไม่แน่ใจว่าที่นี่จะเป็นบ้านของพอลลาร์ด เสียแล้ว เพราะถ้าใช่ ป่านนี้เขาก็คงจะออกมาต้อนรับแล้ว

แต่นี่เห็นมีแต่หญิงชราชื่อโรส ออกมาต้อนรับ และที่สำคัญบุญญิสา ยังเห็นมีคนอื่น ๆ ที่ดูคล้ายนักท่องเที่ยวเดินอยู่แถวนั้นด้วย ท่าทางบ้านหลังนี้น่าจะเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์เสียมากกว่า

“เฮ้อ!..ค่อยโล่งอกหน่อย นึกว่าเธอกับซูซานเลิกกันเสียแล้ว” ยายโรสซาลีทำหน้าดีใจ

“เราคบกันมาห้าปีแล้วคงไม่เลิกง่าย ๆ หรอกครับ” ออกัส รีบบอก

“ทำไมไม่ชวนซูซานมาด้วยล่ะ”

“ซูซานไปเที่ยวกับเพื่อนครับ..”

หญิงชราพยักหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับบุญญิสา

“จะไม่แนะนำเพื่อนหน่อยหรือ ออกัส”

“อ๋อ..ได้ครับ..แต่เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้หรอกนะครับ”

ออกัส บอก ก่อนจะกล่าวแนะนำให้บุญญิสา ได้รู้จักกับเจ้าของบ้าน

บุญญิสา กล่าวทักทายได้สบายเพราะเป็นประโยคที่ท่องไว้ในหัวอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาตามมาแน่นอนถ้าหากคุณยายเจ้าของบ้านจะถามคำถามยาก ๆ โชคดีที่ยายโรสซาลี ไม่ได้ถามอะไร ทว่า..พาสองหนุ่มสาวเดินไปดูห้องพักที่อยู่ในบ้าน

ภายในบ้านมีห้องอยู่ห้าถึงหกห้อง ดูสะอาดเรียบร้อยน่าอยู่มากทีเดียว บุญญิสา เดินตามคุณยายฝรั่งท่าทางใจดีไปที่ห้องพักที่อยู่สุดทางเดิน

“ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ที่สุดของที่นี่ แล้วก็เหลือเพียงห้องเดียว มีสองเตียงนอน เธออยู่ด้วยกันได้ใช่ไหม ออกัส”

หญิงชราหันมาถามออกัส เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวขอบคุณ และคุณยายโรสก็เดินออกไป

“คุณนอนเตียงโน้นก็แล้วกัน”

ออกัส ชี้ไปที่เตียงริมหน้าต่าง บุญญิสา เริ่มอึดอัดไม่แน่ใจ ที่เห็นห้องนี้มีสองเตียง

“นายจะนอนห้องนี้ด้วยหรือ” เธอถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“ใช่..ผมจะนอนเตียงนี้”

เขาบอกสีหน้าเคร่งขรึมตามเคยแล้วก็หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อผ้าออกมา

“นี่หมายความว่ายังไง ทำไมฉันจะต้องมานอนห้องเดียวกับนายด้วย”

บุญญิสา จ้องหน้าถามเขาไป แต่เขากลับทำสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่ได้ยิน

“นี่คุณ!..หูหนวกรึไง..แล้วพอลล่ะ ทำไมคุณถึงต้องพาฉันมานอนที่นี่ด้วย แล้วเมื่อไหร่คุณจะบอกฉันเสียทีว่าพอลอยู่ที่ไหน ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะ บอกอะไรฉันบ้างได้ไหม”

บุญญิสา เปิดฉากโวยวายอย่างหมดความอดทน เธอไม่สนใจหรอกว่าจะวางรูปประโยคคำถามที่ถามออกไปถูกต้องหรือไม่ เพราะตอนนี้เธอกำลังโมโหอยู่ ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมจนป่านนี้จึงไม่ได้พบกับพอลลาร์ด เสียที แล้วยังจะต้องมานอนค้างอ้างแรมกับผู้ชายหน้าตาเย็นชาคนนี้อีก

“เงียบ!..แล้วก็ทำตามที่ผมสั่ง ไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนซะ..ผมไม่ชอบคนพูดมาก”

โอ้โห..บทพ่อคุณจะพูดขึ้นมาก็ตะโกนทำเสียงดุชี้มือชี้ไม้สั่งเธอเหมือนกับเป็นเด็กอนุบาล แล้วทำไมเธอจะต้องเชื่อฟังเขาด้วย อายุของเขาน้อยกว่าเธอ ทำมาเป็นสั่งบุญญิสา ที่อายุมากกว่าได้ไง ช่างไม่รู้จักกาลเทศะ ยอมไม่ได้

“ฉันไม่ทำตามหรอก..นายเป็นพ่อฉันรึไง ถึงได้มาออกคำสั่งหา!..นี่อุตส่าห์อดทนไม่พูดมาทั้งวันแล้วนะ”

บุญญิสา เท้าสะเอวจ้องหน้าปะทะคารมณ์อย่างไม่เกรงกลัว นับเป็นการใช้ภาษาอังกฤษที่เยี่ยมยอดมากนั่นคือ ไม่กลัวว่าจะพูดผิดอย่างที่เคยเป็น และเธอก็มั่นใจว่าเขาฟังเธอออกแน่นอนไม่เช่นนั้น คงไม่ตาวาววับทำเป็นดุขึ้นมาหรอก

“ผมไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับคุณ ผมเหนื่อยในการขับรถมาทั้งวันแล้ว จะนอนพัก”

ออกัส บอกเสียงเรียบ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวพร้อมเสื้อผ้าที่เขาเลือกออกมาจากกระเป๋า เดินเข้าห้องน้ำไปเลย บุญญิสาได้แต่มองตามเขาไปอย่างงง ๆ

“มันอะไรกันเนี่ย..อยากจะบ้าตายจริง ๆ เลย ทำไมฉันจะต้องมาอยู่กับอีตาสิงหาคม ออกัส นี่ด้วย”

บุญญิสา อยากจะร้องไห้ดัง ๆ ให้มันหายอึดอัดเต็มทน

แต่ก็ทำอย่างที่คิดไม่ได้ ขืนแหกปากร้องขึ้นมาคงได้ถูกอีตาหน้าดุนั่นบีบคอเธอตายแน่เลย ท่าทางที่เขาทำเสียงดุออกคำสั่งเธอเมื่อสักครู่นี้น่ากลัวน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ ทางที่ดีอย่าเพิ่งไปชวนเขาทะเลาะดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เอาไว้ช่วงกลางวันพรุ่งนี้ก่อนค่อยเปิดฉากฉะกับอีตานั่นใหม่

บุญญิสา นึกถึงดวงเดือนขึ้นมาทันที จึงควานหาโทรศัพท์มือถือ เพื่อจะได้โทรหาเพื่อน แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนบุญญิสา แทบร้องไห้

“มือถือฉันหายไปไหนเนี่ย..อยากจะบ้าตาย”

บุญญิสา ดูตามกระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋าเป้ ไปจนถึงกระเป๋าเดินทางก็ไม่พบ เธอแทบจะหมดแรง พยายามคิดว่าไปวางไว้ที่ไหน ขอให้ตกอยู่ในรถก็ยังพออุ่นใจ อย่าได้ไปหายตอนที่ไปนั่งชมวิวอยู่ที่สวนสาธารณะนั่นเลย

“แล้วคืนนี้ฉันจะปลอดภัยแค่ไหนล่ะ”

บุญญิสา ชักจะเริ่มหวาดหวั่นขึ้นมาเมื่อรู้ว่าจะต้องนอนพักห้องเดียวกับออกัส

“แต่ท่าทางหยิ่ง ๆ หน้าตาเคร่งขรึมซะขนาดนั้นคงไม่คิดมาปลุกปล้ำเราหรอกมั้ง”

บุญญิสา นึกปลอบใจตัวเองเพื่อให้สบายใจ คืนนี้เธอคงจะหลับตาลงอยู่หรอก ตอนนี้ก็ชักจะเมื่อยไปทั้งตัวแล้วนอนรอคิวเข้าห้องน้ำดีกว่า

บุญญิสา บอกกับตัวเองพร้อมกับนอนแผ่หลาลงบนเตียง ตอนแรกก็ว่าจะนอนเล่น ๆ รอเวลาเข้าห้องน้ำต่อจากออกัส แต่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าผล็อยหลับไปจริง ๆ ได้อย่างไร

ออกัส ออกจากห้องน้ำมาจึงได้เห็นสาวไทยในท่านอนหลับเป็นตายด้วยความอ่อนเพลีย

“คุณ!.ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว”

เขาร้องบอกแต่เมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เขาจึงเดินไปสะกิดเบา ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel