10. เช้าวันใหม่
“หลับง่ายเหมือนกันนี่”
เขาพูดยิ้ม ๆ อดมองคนที่นอนหลับนั้นไม่ได้
ออกัส ยอมรับว่าสะดุดตาบุญญิสา ครั้งแรกจากผมสีดำนุ่มสลวยเป็นมันวาวของเธอ ที่ทำให้เจ้าตัวดูสวยเด่นรับกับใบหน้ารูปไข่ คิ้วดำเป็นระเบียบสวยคมเข้ม ขนตางอนดำนั้นทำเอาเขาเผลอจ้องมองอยู่นาน รูปร่างของเธอน่าจะสูงไม่เกินร้อยหกสิบเซ็นติเมตร เพราะตอนที่เธอยืนคู่กับเขาที่สูงร้อยแปดสิบเซ็นต์ ทำให้เขาเหมือนยืนอยู่กับเด็ก แต่บุญญิสา เป็นคนที่รูปร่างสมส่วนไม่อ้วนแล้วก็ไม่ผอม เขาอดคิดไม่ได้ว่ารูปร่างเธอช่างน่าทนุถนอมเสียจริง
ออกัส อดคิดไม่ได้ว่าบุญญิสา เป็นผู้หญิงที่ดูน่ารักมีเสน่ห์ หากพอลลาร์ด ได้มาอยู่ใกล้ชิดก็คงจะหลงรักได้ไม่ยากนัก เขาคิดถูกแล้ว ที่กีดกันสองคนนี้ไม่ให้ได้พบกัน เขาไม่อยากให้พอลลาร์ด หลงใหลผู้หญิงคนนี้จนลืมความรับผิดชอบที่มีต่อน้องสาวของเขา
“พี่จะทำให้เธอกับพอลมีความสุข..เธอจะต้องได้แต่งงานกับพอล นะ เอมม่า”
ออกัส พูดกับตัวเอง และเดินออกไปจากห้องเพื่อไปหยิบมือถือของเขาที่ลืมเอาไว้ในรถ
แต่ในขณะที่เขากำลังเปิดประตูรถนั้น เสียงสัญญานมือถือก็ดังขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงที่เขาคุ้นเคย เขามองหาต้นเสียงพบว่ามือถือตกอยู่ที่พื้นรถฝั่งที่บุญญิสานั่ง เขาหยิบขึ้นมาดู ชื่อคนที่โทรเข้ามาน่าจะเป็นดวงเดือน
“ฮัลโหล…โบว์เป็นไงบ้าง ได้เจอพอลลาร์ด หรือยัง ฉันส่งไลน์ ส่งข้อความไป กดอ่านแล้วก็ตอบด้วยล่ะ...”
เสียงดวงเดือน เป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว โดยที่คนรับสายไม่พูดตอบกลับ
“โบว์...ฮัลโหล ได้ยินไหมเนี่ย”
ออกัส รีบกดวางสายทันที จากนั้นเขาก็ถือวิสาสะเข้าไปดูข้อความที่ดวงเดือนส่งมา เขาใช้เวลาค้นหาชื่ออยู่ไม่นานนัก ก็ได้อ่านข้อความหลายข้อความที่ดวงเดือนส่งมา เขาก็เลยถือโอกาสตอบกลับ ตามที่เขาต้องการทันที จากนั้นก็ปิดเครื่อง และเก็บมือถือเครื่องนั้นซ่อนไว้ที่ใต้เบาะฝั่งคนขับ
.............................................
บุญญิสา ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น เมื่อคืนเธอนอนหลับสนิททั้งคืนทำให้กระปรี้กระเปร่ารับเช้าวันใหม่ แต่พอนึกได้ว่าตัวเองนอนอยู่นิวซีแลนด์ ไม่ใช่ประเทศไทย เธอก็ลุกพรวดพราด ขึ้นมารีบหันไปมองเตียงข้าง ๆ ทันที
“นายสิงหาคม หายไปไหนแล้วล่ะ..”
เธอมองหาออกัส ไปรอบห้องด้วยความรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องตื่นมาเห็นหน้าเคร่งขรึมของเขาให้เสียอารมณ์แต่เช้า เธอรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดใหม่ เป็นเสื้อยืดคอวีแขนยาวสีฟ้าอ่อนให้เข้ากับความเย็นสบายของอากาศที่นี่ ส่วนกางเกงขายาวสีขาวสะอาดตาเลือกเป็นแบบใส่สบายแต่ดูเท่ทันสมัย
บุญญิสา เดินออกจากห้องเพื่อเดินหาออกัส ว่าเขาอยู่ที่ส่วนไหนของบ้าน เธอเดินออกไปบริเวณของสวนไม้ดอกไม้ประดับ ทำให้รู้ว่าบ้านที่เธอพักเมื่อคืนนี้ปลูกอยู่กลางทุ่งหญ้าภูเขา หลังบ้านกินบริเวณไปจนถึงริมภูเขาหินที่ไม่ไช่ภูเขาสูงมากมายนัก
หากเป็นฤดูหนาวที่มีหิมะตกภูเขาตรงหน้าคงจะปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนน่ามองกว่านี้ เมื่อมองไกลออกไปบุญญิสาก็เห็นภูเขาลูกใหญ่ที่มีเนินดินสลับกันออกไปอีกเป็นแนวดูสวยงามตามธรรมชาติช่วยให้คนมองสดชื่นสบายใจได้
ส่วนบริเวณรอบบ้านของคุณยายโรสซาลี ก็ปลูกต้นไม้พวกสนเต็มไปหมดแซมกับดอกไม้สีสันสวยงามหลากสีเบ่งบานชูช่ออวดความงามสะพรั่งจนบุญญิสา เพลิดเพลินเดินชมทั่วบ้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“สวัสดีตอนเช้าครับ”
เสียงทักทายดังมาจากหนุ่มฝรั่งที่พักอยู่บ้านพักเดียวกัน คาดว่าคงจะเป็นนักท่องเที่ยว
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ”
บุญญิสา ก็พอจะรู้ธรรมเนียมอยู่เหมือนกันว่าจะต้องทักทายตอบ หนุ่มคนนั้นยิ้มให้แล้วก็เดินไปอีกทางหนึ่ง
เธอเห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นอีกสองสามคนที่เดินผ่าน และยิ้มให้ เธอนึกว่าคนต่างชาติจะไม่ยิ้มแย้มเจ่มใสเสียอีก ที่ไหนได้ ท่าทางเป็นมิตรไม่น้อยหน้าคนไทยเหมือนกัน จะมียกเว้นก็อีตาออกัส นั่นแหละ ไม่รู้ว่าไปแอบหลีสาวอยู่แถวไหน ถึงไม่เห็นหน้า บุญญิสา นึกถึงออกัสขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้
“นี่คุณ!..ไม่กินอาหารเช้าหรือไง หรือว่าเดินชมสวนแล้วจะอิ่ม”
นึกถึงไม่ทันไร อีตาออกัส ก็โผล่หน้าหล่อ ๆ น่าหมั่นไส้มาให้เห็น แต่เขาพูดอะไรของเขานะ หน้าตาเหมือนจะต่อว่าเธอเลย แต่ก็ดีแล้ว ที่เธอแปลไม่ออกจะได้ไม่ต้องโมโหแต่เช้า
“เอ..แต่เมื่อกี้มีคำว่าเบรกฟัสท์ มันหมายถึงอาหารเช้านี่นา” บุญญิสา จำคำศัพท์ได้คำเดียว ก็เข้าใจได้ทันทีว่าคงจะตามไปรับประทานอาหารเช้า
“ฉันหิวแล้ว พาฉันไปกินข้าวหน่อย”
ประโยคนี้บุญญิสาไม่พลาดที่จะท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ เพราะมันเป็นเรื่องปากท้อง หากพูดคำนี้แล้ว เธอไม่น่าจะอดตายเสียก่อน
“ตามผมมา”
เขาบอก พร้อมกับเดินนำเธอไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่ตรงประตูทางเข้าบ้าน จัดตกแต่งเป็นโต๊ะอาหารที่อยู่ท่ามกลางเรือนไม้ดอกไม้ประดับน่าจะทำให้เจริญอาหารได้ดี
“เชิญ..หวังว่าคุณคงทานได้” เขาผายมือให้เธอนั่ง
บุญญิสา มองจานอาหารเช้าตรงหน้าอย่างสำรวจ มีขนมปังปิ้งที่วางคู่กับขวดแยมผลไม้ แล้วก็นมสดอีกหนึ่งเหยือก
“เอาวะ กินกันตายไปก่อนก็แล้วกัน”
บุญญิสา นึกในใจ เพราะไม่ค่อยจะชอบขนมปังปิ้งสักเท่าไหร่ ปกติเธอจะชอบรับประทานพวกโจ๊ก หรือไม่ก็ข้าวราดแกง หรือข้าวมันไก่เป็นอาหารเช้า แต่ที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทยคงจะสรรหาของกินอย่างที่ใจต้องการไม่ได้ง่าย ๆ เอาไว้เจอดุจเดือน ที่โอ๊คแลนด์ เมื่อไหร่ ค่อยโส้ยอาหารไทยที่ร้านเพื่อนก็แล้วกัน
“กินเสร็จผมจะพาคุณไปเที่ยวสวนผลไม้”
เขาบอกในขณะที่บุญญิสากำลังทาแยมลงบนขนมปังปิ้ง
“ผลไม้อะไร”
บุญญิสา ฟังพอเข้าใจ เธอคิดว่าเขาจะชวนเธอกินผลไม้บางอย่าง
“กีวี..รู้จักหรือเปล่าล่ะ”
“กีวีงั้นหรือ..โอเค..ฉันชอบเอามาสิ”
เธอบอกให้เขาเอากีวีมาให้ ออกัส ทำหน้าเหมือนจะขำ แต่ก็ไม่ยิ้ม เขาแกล้งมองไปชมดอกไม้ใบหญ้าแถวนั้นแทน
“ไหนล่ะกีวี..ฉันรอกินอยู่นะ”
บุญญิสา ถามหาผลไม้ เธอนึกว่าเขาจะเดินไปเอามาให้เสียอีก
“นี่คุณ..ผมจะพาไปเที่ยวฟาร์มที่มีผลไม้นะ ไม่ได้จะเอาผลไม้ให้คุณกินเดี๋ยวนี้”
เขาหันมาพูดช้า ๆ กับเธอ
“เอาเถอะถึงคุณจะพูดช้าลง แต่ฉันก็ไม่ได้เข้าใจหรอกนะ”
บุญญิสา กัดขนมปังแก้เซ็ง ที่ตัวเองไม่สามารถเข้าใจอะไรได้ ไม่รู้ว่าเธอจะต้องทนอยู่กับเขาอีกนานแค่ไหนกว่าจะไปพบหน้าพอลลาร์ด
บุญญิสา จึงใช้วิธีการเงียบ คอยทำตามคำสั่งของอีตาออกัส ไม่ว่าเขาจะสั่งให้เธอเก็บกระเป๋าไปขึ้นรถ เธอก็ทำตามทุกอย่าง ในใจคิดเพียงว่าเขาคงกำลังจะพาเธอเดินทางไปหาพอลลาร์ด ที่ฟาร์มผลไม้กีวีอะไรนั่นก็ได้
