บท
ตั้งค่า

14. พูดไทยได้ก็ไม่บอก

“แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมพูดภาษาไทยกับฉันตั้งแต่แรก..นายปล่อยให้ฉันพูดภาษาอังกฤษผิด ๆ ถูก ๆ โดยที่ไม่บอกฉันด้วย ตลกนักหรือไงที่ได้หลอกฉัน”

เธอได้โอกาสต่อว่าเขาทันที

“ทำไมผมจะต้องพูดภาษาไทยด้วยล่ะ ในเมื่อผมไม่ใช่คนไทย ครอบครัวของผมพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เกิด แล้วคุณดูรูปร่างหน้าตาของผมสิ..เหมือนคนไทยตรงไหน”

เขาถามน้ำเสียงเหมือนจะขบขันแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม

“ใช่..ไม่เหมือน..นายเป็นฝรั่งทั้งตัวทั้งหัวใจแต่..ทำไมถึงพูดไทยได้ล่ะ หรือว่านายมีแฟนคนไทย”

“ไม่ใช่!..คนอย่างผมไม่คิดจะชายตามองผู้หญิงไทยแม้แต่น้อย”

“ทำไม ผู้หญิงไทยไม่ดีตรงไหน เดี๋ยวนี้ฉันเห็นผู้ชายตะวันตกหันไปแต่งงานกับผู้หญิงไทยตั้งเยอะแยะอย่างโจเซฟที่ทำงานบริษัทเดียวกับนายก็แต่งงานกับเพื่อนฉัน” เธอแย้งเขา

“แต่ไม่ใช่คนอย่างผมแน่”

เขาตอบเสียงไม่พอใจ บุญญิสาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบผู้หญิงไทย

“แล้วทำไมนายถึงพูดภาษาไทยได้ล่ะ”

“เลิกถามเรื่องนี้ได้แล้ว แล้วก็ไม่ต้องมาถามเรื่องส่วนตัวของผมด้วย”

เขาเก๊กหน้าขรึมขึ้นเป็นเจ้าชายเย็นชาขึ้นมาทันที

“ฉันไม่ถามเรื่องส่วนตัวนายก็ได้..ถ้าอย่างนั้นช่วยตอบฉันเรื่องพอลได้ไหมล่ะ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนแล้วทำไมเขาถึงไม่ไปรับฉัน” เธอเงยหน้าไปสบตาดุของเขา

“เขาไม่ว่างก็เลยให้ผมมารับคุณแทน แล้วก็พาคุณเที่ยวตามกำหนดหนึ่งเดือนที่เขาวางแผนไว้กับคุณ”

“ว่าไงนะ..อีตาพอลให้นายพาฉันเที่ยวแทนยังงั้นหรือ” บุญญิสา ถามเสียงดัง

“ใช่..”

“แล้ว...ทำไมเขาถึงไม่พาฉันไปเที่ยวด้วยตัวเองล่ะก็เขาสัญญากับฉันเอาไว้แล้วนี่..เขาเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ฉันเดินทางมาหาเขา แต่เขากลับให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน.แล้วคำขอแต่งงานของเขาล่ะ”

บุญญิสา หน้าซีดถ้าเธอรู้ตั้งแต่แรกตอนที่อยู่สนามบินเธอก็คงจะไม่มากับผู้ชายคนนี้

“นี่คุณเชื่อคำพูดของผู้ชายที่ไม่ได้เห็นหน้าตากันด้วยหรือ” คำถามของเขาเหมือนจะว่าเธอโง่เง่าที่เชื่อคนง่าย

“เพื่อนของฉันรับรองว่าพอลเป็นคนดี”

“คุณเชื่อคำรับรองของคนอื่นมากกว่าการเชื่อด้วยตัวเองหรือไง..ผมไม่คิดเลยนะว่าความคิดของผู้หญิงไทยนี่จะประหลาดแบบนี้..คุณกล้าเสี่ยงเดินทางมาคนเดียวทั้งที่ภาษาอังกฤษของคุณก็ไม่ดีแบบนี้ นับว่าใจถึงมาก”

“ฉันรู้ว่าพอลพูดภาษาไทยได้ต่างหาก และอีกอย่างฉันตั้งใจว่าจะมาเรียนภาษาที่นี่ด้วย”

“ทำไมคุณถึงกล้ารับปากจะแต่งงานกับพอล ทั้งที่ไม่ได้รู้จักตัวจริงของเขาเลย”

“เราติดต่อพูดคุยกันทางโซเชียล”

“โดยไม่ได้ศึกษาเรียนรู้กันน่ะหรือ...”

“แล้วมันเรื่องอะไรของนายที่จะมายุ่งด้วยล่ะ..ฉันจะรักใครจะแต่งงานกับใคร ก็ไม่หนักหัวใครนี่”

“หนักหัวใคร..หมายถึงอะไร” ออกัส ทำหน้างง

“ไหนบอกว่าเข้าใจภาษาไทยดีไงล่ะ เก่งจริงก็น่าจะรู้”

“ผมไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งขนาดนั้นหรอกนะ ถ้าเป็นคำเปรียบเทียบเปรียบเปรย ผมก็ไม่ได้เข้าใจนักหรอก”

“ก็ดีแล้วนี่ ฉันจะได้ใช้คำเปรียบเทียบลึกซึ้งไว้ด่านาย”

“ผมรู้ก็แล้วกันว่าเป็นคำด่า..”

“อ๋อ..เหรอ แล้วทำไมต้องถามฉันด้วยล่ะว่าหนักหัวหมายถึงอะไร นั่นล่ะเป็นคำด่าอย่างหนึ่ง” เธอได้ทีรีบเยาะเย้ย

“ถ้าคำนั้นผมฟังไม่เข้าใจ ผมก็ถือว่าไม่ใช่คำด่า” เขาตอบมาหน้าตาเฉย

“นายจะเข้าใจหรือไม่ฉันไม่สนหรอก เพราะหลังจากเช็คเอ้าท์จากที่นี่ ฉันก็จะไปโอ๊คแลนด์หาเพื่อนของฉันทันที”

“เพื่อนคุณคนที่ชื่อดุจเดือนน่ะหรือ..”

“ใช่..ยัยเดือนเป็นเพื่อนของฉันเอง เธอมีสามีเป็นชาวกีวีนี่เอง ชื่อโจเซฟที่ฉันบอกว่าทำงานที่เดียวกับนายไงล่ะ”

“ผมรู้จักโจดี..เขาทำงานบริษัทเดียวกับผมแล้วก็พอลด้วย โจเป็นคนดีคนหนึ่ง”

“แต่น่าเสียดายที่เขาแนะนำผู้ชายที่ไม่ดีให้กับฉัน”

“คุณหมายถึงพอลน่ะเหรอ”

“ก็จะใครอีกล่ะ ถ้าพอลเป็นคนดีจริง คงจะไม่หายหัวไป แล้วให้คุณมารับฉันแทนแบบนี้หรอก”

“คุณรู้แบบนี้ก็ดีแล้ว..จะได้ไม่คิดว่าผู้ชายฝรั่งมีแต่คนดี ไปเสียหมด”

“ไม่บอกฉันก็รู้แล้ว อย่างน้อยก็มีนายคนหนึ่งล่ะที่ทำให้ฉันเข้าใจว่าหนุ่มฝรั่งไม่ได้เป็นคนดีทุกคน”

“แล้วก็ไม่ได้รวยให้ผู้หญิงไทยคอยเกาะเป็นปลิงดูดเลือดดูดเนื้อทุกคนด้วย”

เขาพูดต่อด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“นายมองผู้หญิงไทยผิดไปหรือเปล่า”

“ไม่ผิดหรอก..ผมเคยพบคนแบบนั้นมาแล้ว และคนรู้จักของผมก็พบเจอผู้หญิงไทยแบบนั้นด้วย คุณเองก็คงไม่แตกต่างกันหรอกมั้ง”

เขามองหน้าเธอด้วยสายตาดูถูกอย่างเปิดเผย บุญญิสา หน้าแดงด้วยความโกรธ

“จะดูถูกกันมากไปแล้วนะ”

“หรือคุณจะเถียงว่าไม่จริง ที่คุณเดินทางมาหาพอลที่นิวซีแลนด์นี่ก็เพราะคิดว่าเขามีเงินให้คุณใช้ จะทำให้คุณมีชีวิตที่สุขสบายขึ้น คุณเห็นแก่เงินของเขามากกว่าที่จะรักพอล เอ๊ะ..หรือว่าคุณมาเพราะรักพอลล่ะ” เขาทำเสียงเย้ยหยัน

“ถึงฉันไม่ได้รักพอล แต่ฉันก็ไม่คิดว่าจะขอเงินเขาใช้”

“แน่ใจหรือ..ถ้าคุณไม่ขอเงินพอล ทำไมคุณไม่จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเองล่ะ ให้พอลส่งเงินไปให้ทำไม”

“ฉันไม่ได้ขอเขา..แต่พอลเป็นคนเสนอให้ฉันเอง”

“รวมทั้งเสนอว่าจะจัดงานแต่งงานด้วยสินะ..หลังจากนั้นคุณก็จะใช้ความใสซื่อกิริยาอ่อนหวานของสาวไทยหลอกล่อให้เขาหลงใหลคุณให้เงินทองปรนเปรอคุณ ให้คุณใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในขณะที่พอลก็จะทำงานงก ๆ ผลิตแบ็งก์ให้คุณถลุงแต่ถ้าเมื่อไหร่พอลหมดเงินคุณก็จะตีจากไปหาที่เกาะใหม่ อย่างนั้นใช่ไหม”

“แหม..ดูนายจะจินตนาการได้บรรเจิดมากเลยนะเนี่ย..เหมือนกับว่าเคยเจอคนแบบนั้นมาก่อนอย่างนั้นแหละ”

“แน่นอน..ถ้าผมไม่เจอมาก่อนผมจะพูดได้แบบนี้หรือ”

“เอาเถอะฉันจะไม่โต้แย้งอะไรกับนายทั้งนั้น นายจะคิดยังไงจะไม่ชอบผู้หญิงไทยอย่างฉันก็เรื่องของนาย ต่อไปนี้ก็ทางใครทางมันเราแยกกันตรงนี้ก็แล้วกัน”

บุญญิสา รีบเดินนำหน้าไป

“เดี๋ยว..ผมยังไม่ได้ทานอาหารเช้า”

“นั่นมันก็เรื่องของนาย!”

บุญญิสา เดินลิ่วออกไปทันที ออกัส เดินตามไปด้วย จนไปถึงห้องพัก บุญญิสา ก็รีบเก็บข้าวของลงกระเป๋าเดินทาง โดยที่ ออกัส ได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ จนช่วงที่บุญญิสา เดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว เขาจึงลองเปิดดูกระเป๋าเล็กของบุญญิสา ที่วางอยู่โต๊ะเครื่องแป้งดู

“พาสปอร์ต..บัตรเครดิต มีสมุดจดเบอร์โทรด้วย ได้การล่ะ”

เขากระหยิ่มยิ้มย่องคิดแผนบางอย่างขึ้นมาได้

“เธอจะไปไหนได้...ถ้าไม่มีเงิน ไม่มีพาสปอร์ต แถมไม่มีเบอร์โทรเพื่อนอีกต่างหาก”

เขาพูดเบา ๆ มองไปที่ห้องน้ำ ด้วยแววตาหมายมาดที่จะกลั่นแกล้งสาวไทยที่อวดเก่ง กล้าพูดว่าจะขอแยกทางไปตามลำพัง อยากรู้นักว่าถ้าไม่มีสิ่งของสำคัญในกระเป๋าเล็กใบนี้เธอจะทำอย่างไร ยิ่งมือถือของบุญญิสา เขาก็เก็บซ่อนเอาไว้แล้วด้วย

ออกัส รีบหยิบกระเป๋านั้นเดินออกจากห้องไปทันที เขาจะเอากระเป๋าเล็กของบุญญิสาใบนี้ไปซ่อนไว้ที่เดียวกับมือถือในรถก่อน จากนั้นก็จะไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้อง

อาหารของโรงแรมให้อิ่มท้อง แล้วก็จะไปเดินย่อยอาหารชมวิวที่ทะเลสาบให้สบายอารมณ์ ระหว่างที่เขาเดินไปที่รถก็มีเสียงสัญญานมือถือดังขึ้นมา เขามองที่จอมือถือก่อนจะรีบกดรับทันที

“ว่าไงเอมม่า..”

“ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนคะ” เสียงเอมม่าถามเข้ามา

“ทะเลสาบเทคาโป” เขาตอบน้องสาว

“อุ๊ย!..พี่พาผู้หญิงคนนั้นไปเที่ยวที่โรแมนติกแบบนั้นด้วยหรือคะ..หวังว่าพี่คงจะไม่หวั่นไหวเผลอใจไปโรแมนติกกับเธอเข้าหรอกนะคะ”

เอมม่า ไม่รู้ว่าคำพูดนั้นสะดุดใจพี่ชายเข้าอย่างจังจนพูดไม่ออก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel