13. ตามหา
ออกัส งัวเงียตื่นขึ้นมาก็พบว่าบุญญิสา ไม่ได้อยู่บนเตียงนอน เขารีบลุกขึ้นเดินเข้าไปดูเธอในห้องน้ำ พบเพียงความว่างเปล่า เขาตกใจวิ่งไปเปิดดูที่ตู้เสื้อผ้า
“ค่อยยังชั่ว”
เขาผ่อนลมหายใจเมื่อเห็นว่ายังเห็นกระเป๋าเดินทางของเธอวางอยู่ในตู้ เขารีบจัดการอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วแล้วก็ออกเดินตามหาเธอไปทั่วโรงแรม
“คุณกำลังตามหาภรรยาอยู่หรือเปล่าคะ”
หญิงสาวคนหนึ่งถามออกัสขึ้นมา เขานึกออกว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวกับเมื่อคืนนี้เอง เธอคนนี้เข้าใจว่าบุญญิสา เป็นภรรยาของเขาตามที่เขาได้บอกเอาไว้นั่นเอง
“เอ้อ..ครับ..คุณเห็นเธอหรือเปล่า”
เขารีบตอบรับ และถามหาบุญญิสา ทันที
“เธอนั่งชมทะเลสาบอยู่ด้านหลังโรงแรมนี้เองค่ะ..เช้านี้ ดูเธอสงบขึ้นนะคะ คุณรีบไปอยู่เป็นเพื่อนเธอสิ”
เขากล่าวขอบคุณ ก่อนจะรีบก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปตามหาบุญญิสา เขาเห็นเธอจากด้านหลังกำลังนั่งอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นหนุ่มผมบลอนด์ เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปยืนอยู่ข้างหลังจนได้ยินเสียงการสนทนาของทั้งคู่ สองคนนั้น กำลังหัวเราะสดใสให้แก่กัน เจ้าหนุ่มผมบลอนด์นั่นพยายามที่จะสอนภาษาอังกฤษที่ถูกต้องให้กับเธอด้วย ในขณะที่เจ้าหล่อนก็ขยันตั้งคำถามแบบถูก ๆ ผิด ๆ ให้เจ้าหนุ่มนั่น คอยบอก มันเป็นภาพที่ขัดตาขัดใจเขานัก
ความตั้งใจของออกัส ที่จะตามมาขอโทษเธอในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นอันยกเลิก ท่าทางของเธอไม่ได้โศกเศร้าเป็นทุกข์อย่างที่เขาคิด
ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นบอกเขาว่าเห็นบุญญิสา นั่งชมทะเลสาบอยู่ เขาก็อุตส่าห์วาดภาพว่า เธอคงจะนั่งหมดอาลัยตายอยาก ทุกข์ตรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่เมื่อมาเห็นว่าเธอหัวเราะคิกคักมีความสุขอยู่กับหนุ่มผมบลอนด์ตรงหน้าก็ทำให้เขาเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“บุญญิสา!..มาทำอะไรอยู่ที่นี่ รู้ไหมผมตามหาแทบแย่”
ออกัส ส่งเสียงดังแทรกถามไป ทำให้สองหนุ่มสาวหันมามองเขาพร้อมกัน
บุญญิสา หยุดยิ้มเมื่อเห็นออกัส มายืนอยู่ใกล้เช่นเดียวกับหนุ่มผมบลอนด์ ตาสีฟ้าที่หันมาจ้องหน้าออกัส อย่างแปลกใจ
“เขาเป็นเพื่อนคุณเหรอครับ”
เจ้าหนุ่มผมบลอนด์ ที่ชื่อจอห์น เอ่ยถามบุญญิสา
“เปล่าค่ะ..ฉันไม่รู้จักเขา”
บุญญิสา บอกหน้าตาเฉย ทำให้ออกัส คำรามในลำคอทำนองว่ารู้จักเขาน้อยไปเสียแล้ว เดี๋ยวจะแสดงอะไรให้ดู
“คุณทักคนผิดหรือเปล่าครับ..คุณบุญญิสาไม่ได้รู้จักคุณ”
จอห์น บอกกับ ออกัส แต่ฝ่ายนั้นกลับหันหน้าไปยิ้มประจบบุญญิสา คล้ายกับจะของ้องอน
“เฮ้!..ดาร์ลิ้ง..เมื่อคืนนี้ผมขอโทษที่คุณสะกิดผมทั้งคืนแต่ผมเอาแต่หลับไปก่อน ไม่เอาล่ะ คุณเลิกงอนได้แล้วนะ ผมสัญญาว่าคืนนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังหรอกน่า…หรือว่าคุณจะให้ผมเมคเลิฟตอนนี้ก็ได้นะ..ไปกันเถอะ”
ออกัส พูดประโยคนี้ให้เจ้าหนุ่มผมบลอนด์ได้ยินโดยเฉพาะ เพราะรู้ว่าบุญญิสา คงจะไม่ค่อยเข้าใจอยู่แล้ว เขาส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับเธอประกอบคำพูดด้วย แต่บุญญิสา จำคำว่า “เมคเลิฟ” ได้ถนัด จึงหน้าแดงซ่าน ลมแทบจะออกหูแม้จะแปลทั้งประโยคไม่ออก แต่ก็พอจะเดาออก
“นายพูดอะไร บอกมานะ” บุญญิสา จ้องหน้าออกัส เขม็ง
“โธ่..ที่รักไม่เอาน่า..บอกแล้วไงว่าขอโทษ”
ออกัส ไม่สนใจสีหน้าท่าทางของบุญญิสาเลย
“คุณเป็นแฟนเธอเหรอ”
จอห์นฟังคำพูดของออกัสแล้ว ก็อดสงสัยไม่ได้
“ไม่ใช่แฟน..แต่เราเป็นสามีภรรยากัน” ออกัส ตอบยิ้ม ๆ ให้กับจอห์น
“สามีภรรยา!” จอห์น ทำหน้าตกใจ
“ใช่..เราเพิ่งแต่งงานกัน แล้วก็มาฮันนีมูนกันที่นี่” ออกัส บอกต่อ
“โอ..พวกคุณมาฮันนีมูนกันหรือ” จอห์น มีสีหน้าผิดหวังขึ้นมาทันที
“ใช่ครับ..พอดีภรรยางอนผมนิดหน่อยน่ะขอบคุณนะที่อยู่เป็นเพื่อนเธอ”
ออกัส พูดจบก็เข้ามาโอบไหล่บุญญิสา แต่ถูกเธอปัดป้องขัดขืนใส่
“ที่รัก..เราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่านะ”
เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงกระซิบอ่อนหวานราวกับว่าเป็นคู่รักแสนหวานเพื่อให้เจ้าหนุ่มคนนั้นได้เห็น
“นี่ปล่อยฉันนะ..ฉันไม่ไปกับนายเด็ดขาด”
เธอขัดขืนเมื่อเขาดึงแขนเธอขึ้น
“อย่าดื้อสิที่รัก..บอกแล้วไงว่าผมขอโทษ โธ่..แค่ผมไม่ทำการบ้านเมื่อคืน คุณต้องโกรธขนาดนี้เลยเหรอ..งั้นผมพาคุณไปทำตอนนี้ก็ได้ ผมกำลังคึกอยู่พอดีเชียวล่ะ”
เขามองหน้าเธอประกายตากรุ้มกริ่ม หวังให้เจ้าหนุ่มผมบลอนด์ได้ออกไปเสียที
“นายพูดบ้าอะไรของนาย..ทำไมต้องมาเรียกฉันที่รักที่เริกอะไรนี่ด้วย”
บุญญิสา ทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจ แต่เธอพอจะเดาออกว่าเขากำลังจะเสแสร้ง ทำเป็นคนรักของเธอเพื่อให้จอห์นเข้าใจผิด
“งั้นเชิญพวกคุณตามสบาย บ๊าย บายนะครับคุณโบว์”
เจ้าหนุ่มผมบลอนด์ลุกขึ้นกล่าวลาบุญญิสาแล้วก็เดินจากไปทันที
“เดี๋ยวสิคะจอห์น..อย่าเพิ่งไป”
บุญญิสา เรียกเขาแต่ฝ่ายนั้นก็เดินจ้ำอ้าวไปไกลแล้ว
“อุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาหว่านเสน่ห์ เสียใจด้วยนะที่เจ้าหมอนั่นมันเผ่นไปเสียแล้ว”
เขาทำหน้าตาเยาะเย้ยบุญญิสา แต่เธอไม่ได้เข้าใจคำถากถางของเขา จึงได้แต่โมโหที่เขาทำให้เพื่อนใหม่ที่กำลังจะสอนภาษาอังกฤษให้เธอต้องลุกออกไป
“นายมันตัวก่อกวนชัด ๆ ฉันอยากจะฆ่านายนัก”
เธอต่อว่าเขาด้วยภาษาไทยที่เธอคิดว่าเขาจะไม่เข้าใจ
“คุณมาหว่านเสน่ห์กับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ลืมไปแล้วหรือว่าคุณมานิวซีแลนด์ เพื่อจะแต่งงานกับพอล”
ออกัส พูดเตือนให้บุญญิสาได้รู้ แต่บุญญิสา หูผึ่งที่ได้ยินชื่อของพอลลาร์ด
“พอล..คุณพูดถึงพอลเหรอ..ตกลงเขาอยู่ไหน”
บุญญิสา รีบถามทันทีเธอคิดว่าออกัส กำลังจะพาเธอไปหา พอลลาร์ด ที่ใดที่หนึ่งในนิวซีแลนด์ ออกัส เพิ่งจะนึกได้ว่าบุญญิสา คงจะไม่เข้าใจในประโยคที่เขาพูด
“ผมไม่รู้” เขาตอบสั้น ๆ
“ไม่จริง..คุณต้องรู้สิว่าพอลอยู่ไหนมันเกิดอะไรขึ้นช่วยบอกฉันทีเถอะ ได้โปรดเถอะนะ คุณออกัส”
เธอเงยหน้าสบตาขอร้องเขา หากจะให้ไหว้ขอร้องเธอก็จะทำ
“นี่คุณไหว้ผมทำไม” เขาถามด้วยสีหน้าแปลก ๆ
“บอกฉันมาเถอะนะคะ..ไม่ว่าพอล อยากพบฉันหรือไม่
ฉันก็อยากรู้เหตุผล และฉันก็จะไม่เซ้าซี้เขา ฉันจะไปหาเพื่อนฉันที่โอ๊คแลนด์ ฉันจะไม่แต่งงานกับเขา”
“คุณจะไปหาเพื่อนคุณงั้นหรือ”
แม้ออกัส จะรู้ว่าเธอพูดวกวนไม่เป็นประโยคที่จะเข้าใจได้ง่าย ๆ แต่เขาก็พอจะจับความหมายได้พอสมควร
“ใช่ ใช่..เพื่อนฉันอยู่ที่โอ๊คแลนด์ ฉันขอโทรหาเพื่อนได้ไหม”
บุญญิสา สีหน้าแสดงความดีใจ
“ผมรู้นะว่าเพื่อนคุณเป็นคนจับคู่ให้คุณ..พลาดจากพอลแล้ว เพื่อนคุณก็คงจะหาคนใหม่ให้อยู่ดี ผมว่าถ้าคุณคิดว่าฝรั่งคนไหนก็ได้ ขอให้มีเงินให้คุณ ทำไมคุณไม่พิจารณาผมล่ะผมมีเงินให้คุณได้นะ ผมจ้างคุณอยู่กับผมหนึ่งเดือนก็ได้ โอเคไหม แค่เดือนเดียวเท่านั้น”
ออกัส จ้องหน้าบุญญิสา อย่างต้องการทำตอบแต่เขาคงลืมไปว่าเธอฟังไม่ออก
“โอเค..อะไรของคุณฉันไม่เข้าใจ..”
“ผมซื้อคุณหนึ่งเดือน โอเคไหม” เขาใช้ประโยคง่าย ๆ สั้น ๆ
“ว่าไงนะ...นายจะซื้อ..อะไรหนึ่งเดือนนะ..”
“ซื้อคุณไง..เท่าไหร่”
“ไอ้บ้า..แกเห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย”
บุญญิสา เลือดขึ้นหน้าด่าเขาเป็นภาษาไทยด้วยความโมโห เธอฟังไม่ผิดแน่เพราะเขาใช้คำพูดที่เป็นศัพท์พื้น ๆ
“เห็นเป็นผู้หญิงหน้าเงินไงล่ะ”
เขาเข่นเขี้ยวบอกด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม
“ช่วยพูดใหม่อีกทีสิ”
“ผู้หญิงหน้าเงิน” ออกัส ย้ำเสียงหนักแน่นกว่าเดิม
“รอให้ฉันไปเปิดดิกดูก่อนเถอะ..ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร”
เธอสะบัดหน้าผมปลิวสยายเดินหนีเขาไป ออกัส อดขำกับคำพูดท่าทางของเธอไม่ได้ ถ้าเธอรู้ความหมาย เธอจะทำอะไรเขานะ อยากจะรู้นัก เขาเดินตามไปติด ๆ
“ผมหิวข้าวแล้ว..ไปทานอาหารเช้ากัน จากนั้นผมจะพาคุณไปเที่ยวชมรอบ ๆ ทะเลสาบ”
เขาบอก แต่บุญญิสา ก็ไม่ได้เข้าใจนัก เธอรู้แต่ว่าเขาหิวต้องการไปรับประทานอาหารเช้า แต่ประโยคหลัง ๆ เธอไม่ค่อยแน่ใจ หากเขาจะพูดช้า ๆ กว่านี้ บางทีเธออาจทำความเข้าใจได้ไม่ยากนัก
“เอาล่ะคุณบุญญิสา..ผมเหนื่อยกับการพูดภาษาที่ทำให้คุณไม่เข้าใจเต็มทีแล้ว”
บุญญิสา หูผึ่ง เธอชะงักฝีเท้าด้วยความตกใจผสมแปลกใจที่ประโยคเมื่อสักครู่ของออกัส เธอเข้าใจอย่างชัดเจนดีมาก เพราะคำพูดที่หลุดจากปากเขาไม่ใช่ภาษาอังกฤษแม้แต่คำเดียว
“เมื้อกี้นายพูดภาษาอะไร ไหนลองพูดใหม่สิ”
บุญญิสา ส่งเสียงถามเขาด้วยภาษาไทยอย่างตื่นเต้น
“คุณหูหนวกหรือไง คุณบุญญิสา”
ออกัส ตอบกลับออกมาเป็นภาษาไทยอย่างแน่นอน แม้จะติดสำเนียงฝรั่ง แต่เขาก็พูดไทยได้ชัดกว่าพอลลาร์ด อยู่มากทีเดียว
“นะ..นี่..นายพูดภาษาไทยได้หรือ”
เธอละล่ำละลักถามนัยน์ตาโตทั้งตื่นเต้นผสมแปลกใจ
“ใช่..ได้ทั้งพูดอ่านเขียน..มีอะไรข้องใจงั้นหรือ”
เขาเลิกคิ้วทำหน้ายียวน
