12. ช่วยด้วย
เธอเห็นหนุ่มสาวฝรั่ง ท่าทางคงจะเป็นคู่รักกันที่ยืนอยู่ห้องพักตรงข้าม กำลังจะไขประตูห้องของพวกเขาอยู่ เธอจึงรีบตรงดิ่งไปหาทันที
“ขอโทษค่ะ..ได้โปรดช่วยฉันด้วย”
บุญญิสา พูดกับสองคนนั้นด้วยความร้อนรน
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
ฝ่ายหญิงเป็นคนถามขึ้นสีหน้าตกใจ เพราะบุญญิสา ทำเหมือนกับหนีอะไรมา
“เอ้อ..คือ..ฉันกำลังมีอันตรายค่ะ”
บุญญิสา ละล่ำละลักบอก เธอกลัวออกัส จะออกมาเห็นเสียก่อน
“คุณมีอันตรายหรือคะ..เป็นอะไรคะ”
คำถามนั้นทำให้บุญญิสาดีใจไม่น้อยที่ผู้หญิงตรงหน้าฟังออก
“มีผู้ชายที่อยู่ในห้องนั้นจะทำร้ายฉัน” เธอชี้ไปที่ห้องของออกัสพักอยู่
“ผู้ชายทำไมคะ..”
“คือผู้ชายคนที่อยู่ในห้องเป็นตัวอันตรายสำหรับฉันค่ะ ได้โปรดช่วยฉันด้วย”
“อะไรนะคะ..ที่นี่มีอันตรายหรือคะ..ผู้ชายเป็นอะไรนะคะ” ผู้หญิงคนนั้นทำหน้างง เหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่บุญญิสาบอกไป เธอจึงตัดสินใจเกาะแขนผู้หญิงคนนั้นแน่น เป็นทำนองว่าจะขอเข้าไปอยู่ในห้องด้วย
“อุ๊ย..อะไรคะ..คุณจะทำอะไรคะเนี่ย” ผู้หญิงคนนั้นตกใจ
“ให้ฉันอยู่ด้วยนะคะ” บุญญิสาทำหน้าตาอ้อนวอน
“ท่าทางเหมือนเธอกลัวอะไรสักอย่างนะที่รัก”
ฝ่ายผู้ชายเป็นคนบอกกับผู้หญิงที่เป็นคู่รัก
“นั่นน่ะสิคะ..คงมีผู้ชายอยู่ในห้องนั้นจะทำอันตรายเธอก็ได้นะที่รัก” ฝ่ายหญิงเดา
“ฉันกลัว...ขอฉันไปนอนด้วยคนนะ”
บุญญิสา บอกเสียงสั่น แววตาอ้อนวอนขอร้องคนทั้งคู่ แต่ก่อนที่สองคนจะตัดสินใจ ก็เห็นประตูห้องตรงข้ามเปิดออกมาพอดี
“ที่รัก...ออกมาทำอะไรที่นี่ กลับไปห้องของเราได้แล้ว”
เสียงของผู้ชายที่คุ้นหูดังมาจากข้างหลัง บุญญิสา หันขวับไปมอง เห็นออกัส เดินยิ้มเข้ามา เธอรีบเกาะแขนผู้หญิงคนนั้นแน่น แสดงความหวาดกลัวออกมา
“ฉันไม่ไปกับเขานะคะ ช่วยฉันด้วย” บุญญิสา บอก
“ที่รัก..ผมไม่น่าลืมให้คุณกินยาเลย”
ออกัส พูดพร้อมกับเดินเข้ามาโอบกอดบุญญิสาเอาไว้ทันที ลักษณะคล้ายปลอบใจ ทำให้คู่รักหันไปมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
“ขอโทษด้วยครับ ที่ภรรยาของผมทำให้พวกคุณตกใจ คือเธอไม่ได้กินยาช่วงเย็นก็เลยมีอาการทางประสาทนิดหน่อย ผมขอพาเธอไปกินยาก่อนนะครับ”
บุญญิสา ไม่ได้เข้าใจประโยคที่ออกัส อธิบายให้กับคู่รักนั้นฟังเลย หากเธอแปลออก คงได้อาละวาดให้สมกับคนเป็นโรคประสาทไปแล้ว แต่เพราะไม่เข้าใจจึงได้แต่ทำหน้างง ๆ มองคนนั้นทีคนนี้ที
“มิน่าล่ะ เธอถึงได้มีท่าทางแปลก ๆ พูดก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง”
ผู้หญิงคนนั้นบอกอย่างโล่งอก กับออกัส พร้อมกับแกะมือบุญญิสา ออกอย่างสุภาพ
“ไม่ต้องกลัวนะคะ..คุณไปทานยากับสามีคุณเถอะนะคะ แล้วก็เข้านอน”
สาวฝรั่งบอกยิ้ม ๆ บุญญิสา อยากจะร้องไห้ให้ลั่นไปเลย ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทำท่าทางผลักไสให้เธอไปกับ ออกัสด้วย
อีตาบ้านั่น พูดอะไรนะน่าโมโหตัวเองที่ดันฟังไม่รู้เรื่อง
“ขอบคุณนะครับที่ช่วยพูดให้” ออกัส หันไปยิ้มกับหญิงคนนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ..คุณรีบพาภรรยาเข้าห้องไปเถอะค่ะ”
“ปล่อยฉันนะ..ฉันไม่ไปกับนาย”
บุญญิสา ขัดขืนเมื่อ ออกัส เข้ามาจับมือเธอ
“ที่รัก...อย่าดื้อสิครับ..ผมจะพาคุณไปพักผ่อน พรุ่งนี้เราจะได้ไปเที่ยวกันไงครับ”
ออกัส ก้มตัวมากระซิบเสียงทุ้มหวานไพเราะพร้อมส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับบุญญิสาด้วย ถ้ารอยยิ้มนั้นไม่ได้เสแสร้ง เธอก็อยากจะยิ้มตอบอยู่หรอก แต่นี่เธอรู้ว่าเขาแกล้งทำดีกับเธอ ต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นเอง เธออยากจะรู้นัก เขาพูดอะไรกับสองคนนั่นกันแน่
“คุณดูแลภรรยาให้ดีหน่อยนะ อย่าให้เธอออกมาแบบนี้”
ชายหนุ่มเป็นคนพูดเตือน ก่อนจะโอบไหล่คู่รักของเขาเดินเข้าห้องพักไป ปล่อยให้บุญญิสา อยู่ตามลำพังกับ ออกัส
“เดี๋ยวสิคะคุณ..ช่วยฉันก่อน”
บุญญิสา ตะโกนเรียกตามหลัง แต่สองคนนั้นไม่ได้สนใจเลย กลับพากันเข้าห้องปิดประตู
“นายไปพูดอะไรกับสองคนนั่น พวกเขาถึงไม่ยอมช่วยเหลือฉัน”
บุญญิสา หันมาต่อว่าเขาตาขวางแต่เขาไม่ตอบ ซึ่งที่ไม่ตอบนั้นก็เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่เข้าใจคำถามก็ได้
“เชิญ!..”
ออกัส ผายมือให้เธอเดินกลับห้อง บุญญิสา รีบหันหลังทำท่าจะวิ่งหนี แต่ก็ช้ากว่ามือแข็งแรงของเขาที่คว้าเอาไว้
“คุณจะหนีไปไหน นี่มันค่ำแล้วนะ..เข้าไปในห้องกับผมเดี๋ยวนี้”
เขาออกคำสั่งพร้อมกับกระชากแขนเธอไป บุญญิสาขืนตัวเอาไว้อย่างเต็มที่
“ไม่ไป..ช่วยด้วยค่ะ ..ช่วยด้วย”
บุญญิสา ส่งเสียงดังร้องให้คนช่วย มีคนเปิดประตูห้องมาดูสองสามห้อง
“ขอโทษด้วยครับ..ไม่มีอะไรครับ..ภรรยาของผมมีอาการทางประสาทนิดหน่อย ผมกำลังจะพาเธอไปทานยา”
ออกัส ตะโกนบอกกับคนที่เปิดประตูห้องมาดู
บุญญิสา เห็นพวกนั้นผลุบหายไปหมด ปิดประตูเงียบไม่สนใจมาช่วยเหลือเธอสักคน..
ออกัส เห็นท่าจะไม่ดี เขาจึงตัดสินใจช้อนร่างบุญญิสา อุ้มขึ้นพาเดินเข้าห้องโดยไม่สนใจเสียงร้องโวยวาย และมือไม้ของเธอที่ทุบข่วนเขาไปตลอดทาง
เมื่อเข้ามาในห้อง ออกัส ก็โยนเธอลงบนเตียง แล้วเขาก็โถมตัวลงมากอดรัดเธอไว้ทั้งตัวจนได้กลิ่นหอมสบู่จากตัวเขา
“แกจะทำอะไรฉัน..ไอ้บ้ากาม ปล่อยฉ้าน...”
บุญญิสา ทั้งข่วนทั้งผลักเขาแต่กลับถูกเขารัดแน่นเข้าไปอีกจนเธอหายใจแทบไม่ออก
“ถ้าคุณยังโวยวายอยู่อีกผมจะจัดการคุณจริง ๆ ด้วย”
เขาจ้องหน้าบุญญิสานิ่ง ใบหน้าของเขาอยู่ชิดกับเธอจนได้ยินเสียงลมหายใจหอบถี่ของเขา บุญญิสาอ้าปากจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาพอดี
บุญญิสา ใช้แรงที่มีทั้งหมด ผลักอกของเขาแต่ก็ไม่สามารถจะทำได้ ยิ่งเธอดิ้นรนขัดขืนเขาก็ยิ่งรุกรานปากแก้มคอของเธอราวช้างตกมัน โดยที่เธอก็ต้านแรงพลังอันเหลือเฟือของเขาไม่อยู่ เขาจูบด้วยความรุนแรงป่าเถื่อนเหมือนกับคนที่โกรธแค้นไม่พอใจกันมาก่อน จนเธอรู้สึกเจ็บระบมไปทั่วหน้า
ทว่า..ความเจ็บปวดทางกายก็ยังน้อยกว่าความเจ็บใจ ออกัส จูบเธอเพื่อให้หยุดโวยวายเป็นการทำโทษที่เธอกล้าลองดีท้าทายไม่เชื่อฟังเขา ประกอบกับปมในใจที่เขามีอคติความรู้สึกที่ไม่ดีกับผู้หญิงไทย คนที่เคยเป็นพี่เลี้ยงในวัยเด็กจนเป็นสาเหตุให้ครอบครัวของเขาแตกแยก ทำให้เขาอยากจะแก้แค้นเอากับหญิงไทยคนนี้
เขาคิดว่า เธอก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงไทยคนที่เขารู้จัก เขาคิดเพียงว่าบุญญิสา ต้องการเพียงความสุขสบายต้องการเงินทองเท่านั้น
เขามองว่าที่เธอเดินทางมานิวซีแลนด์ ก็เพื่อจะมาหาผู้ชายที่จะให้เงินทอง ให้ความเป็นอยู่ที่ดีแก่เธอ หากเขามีความสัมพันธ์กับเธอ เขาก็แค่เอาเงินฟาดหัวเธอก็แค่นั้น
พอคิดได้เช่นนี้ ออกัส จึงไม่ได้รู้สึกผิด ที่จะรุกรานร่างกายของเธออย่างย่ามใจ ความแปลกใหม่ของกลิ่นกายสาวไทยที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เริ่มทำให้เผลอตัวเปลี่ยนจากความรุนแรงเป็นนุ่มนวลลง
บุญญิสา ทั้งตื่นตกใจด้วยความหวาดกลัว แต่เพียงไม่นานเธอก็เริ่มรู้สึกเหมือนกับถูกเหยียดหยามเกียรติศักดิ์ศรี
ออกัส สัมผัสถึงความเปียกชื้นของน้ำตาบนใบหน้าของเธอเลอะอยู่ที่หน้าเขาเช่นกัน เขาหยุดกึกฉับพลัน เกิดความตกใจไม่น้อย พอเขาหยุดก็ได้ยินเสียงสะอื้นของเธอดังขึ้น มันเป็นเสียงที่เตือนให้เขาสำนึกในการกระทำขึ้นมาได้ไม่น้อย เขาผลุนผลัน ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำทันทีและอยู่ในนั้นจนแน่ใจว่าเธอไม่ได้ส่งเสียงเอะอะโวยวายเขาจึงค่อย ๆ ย่องออกมาและนอนที่โซฟาจนกระทั่งรุ่งเช้า
