บทย่อ
"ที่จูบก็เพราะชอบ เราปล้ำก็เพราะรัก" “หยุดก่อนๆ” รีบพุ่งตัวออกไปโบกดักหน้าเอาไว้ “เฮ้ย!” คนขับแตะเบรกแทบไม่ทัน จู่ๆ ก็กระโดดมาขวางหน้ารถเขาได้ยังไง ดัมพ์รีบเปิดประตูออกไปตั้งใจจะด่าให้เสียคนไปเลย “ป้า! ทำงี้ได้ไง เกิดผมเบรกไม่ทันนี่คงได้หามส่งป่าช้ากันแล้ว” พ่อหนุ่มมาดนักเลงรวบผมหยักศกยาวระดับต้นคอ ใส่เสื้อสีขาวซีดคอเปื่อยยุ่ยจากการถูกซักมาอย่างยาวนาน ท่อนล่างก็สวมกางเกงยีนเดฟรัดติ้วยืนเท้าสะเอวมองผ่านแว่นตาสีดำ ปากก็ต่อว่าป้าคนหนึ่งที่ยืนโพกผ้าจนแทบมิดหัว “ป้า!” ตั้งสติได้วรดาก็ชี้นิ้วใส่ตัวเองแบบงงๆ เธอไปเป็นป้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แต่พอคลำไปเจอผ้าพันคอผืนสีเทาที่พันจนรอบหน้าเพื่อกันแดดก็เข้าใจ หญิงสาวค่อยๆ ดึงผ้าพันคอออกจนเผยให้เห็นใบหน้าอันสวยงามอยู่ข้างใน “ฉันไม่ใช่ป้าย่ะ! รถฉันเสียแค่อยากขอความช่วยเหลือหน่อย” วรดาพูดไปก็เก็บผ้าพันคอยัดใส่กระเป๋าของตัวเองไปด้วย หันกลับมาอีกครั้งก็พบเขายืนนิ่งแทบไม่ขยับเขยื้อน “นี่นาย!” “หา!” “เป็นอะไร ฉันบอกว่ารถฉันเสีย นายช่วยไปส่งฉันที่หมู่บ้านข้างหน้าได้ไหม เดี๋ยวให้ค่าจ้าง” “รถเสียเหรอ?” ดัมพ์หายตะลึงแล้วก็ค่อยปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติไร้ซึ่งท่าทางกระด้างกระเดื่องเมื่อครู่นี้
ตอนที่ : 1 จูบ
1
จูบ...
ซองเอกสารที่ถืออยู่ในมือกำนันสันต์บอกว่ามันสำคัญมาก และยังกำชับอีกด้วยว่าให้ส่งมอบให้ถึงมือของดัมพ์ด้วยตัวของเธอเอง วรดาหันไปมองไอ้ตุ้มซึ่งกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับรถเก๋งคันโตโดยไม่คิดสนใจมองว่าเธอกำลังเดินเข้ามาในบริเวณอู่ หันไปด้านซ้ายก็เป็นไอ้ก้องซึ่งก็เอาแต่หมุนไขควงตรงหน้ากระโปรงรถ มันเหลือบตาขึ้นมามองส่งยิ้มให้เล็กน้อยแล้วลงมือทำงานต่อ
“เฮ้ย! สนใจพี่หน่อยสิวะ”
“ว่าไงพี่อิ่มงานยุ่ง” ไอ้ก้องตะโกนบอกทั้งที่ยังหน้านิ่วคิ้วขมวดต่องานที่กำลังทำอยู่
“ดำอยู่ไหม”
“อยู่ในบ้านพี่เข้าไปเลย” ไอ้ตุ้มบุ้ยหน้าไปทางประตูเชื่อมเข้าบ้านของเจ้าของอู่ วรดามองตามไปแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ 'เอาวะ เอาไปให้ข้างบนบ้านก็ได้' หญิงสาวเปิดประตูไม้เข้าไปภายในบ้านซึ่งเชื่อมต่อกับอู่ซ่อมรถ พบห้องรับแขกก่อนเป็นอันดับแรก มีทางเชื่อมไปด้านข้างซึ่งพอจะมองออกว่าเป็นห้องครัว แม้ภายนอกจะรกไปด้วยอุปกรณ์ในการซ่อมรถ แต่ภายในบ้านของเขากลับสะอาดสะอ้านจนน่าชื่นชมในการดูแลเอาใจใส่
“ดำอยู่หรือเปล่า?” ลองเรียกชื่อของเขาเบาๆ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่อยู่ข้างบน วรดาตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปหาเขาข้างบน พอเท้าพ้นบันไดขั้นสุดท้ายก็พบว่ามีห้องนอนอยู่สองห้องแต่คนละฝั่ง หญิงสาวหันไปเตะตาเข้ากับประตูห้องหนึ่งซึ่งมันแปะป้ายสลักอักษรไม้เอาไว้ด้วยคำว่า 'ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต...ไม่งั้นตาย!'
'เชอะ! ไม่เชื่อหรอกว่าเข้าแล้วจะตาย' คิดแล้วก็ก้าวเท้าไปตรงบานประตูน่าสงสัยนั่นในทันที
วรดานิ่วหน้าเมื่อประตูห้องไม่ได้ล็อก แค่ผลักเบาๆ ก็เปิดแง้มออก หญิงสาวลังเลใจอยู่เพียงชั่วครู่ก่อนจะก้าวเข้าไปภายในห้องของเขา จะเป็นไรไปก็เราเพื่อนกัน
“ดำอยู่ไหม?” ลองเรียกชื่อของเขาอีกรอบ ก่อนจะได้ยินเสียงกุกกักเหมือนคนอาบน้ำในชั่วอึดใจต่อมา 'ดำอาบน้ำอยู่ต้องรีบลงไป'ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่สถานการณ์อย่างนี้ย่อมไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน หญิงสาวก้มลงมองซองเอกสารในมือ แล้วเดินตรงไปบริเวณเตียงนอนที่อยู่กลางห้อง'เอาวางไว้ตรงนี้น่าจะดีกว่า'รีบวางซองเอกสารเอาไว้ตรงหัวเตียง
“ว้าย!” เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้น เมื่อหันหลังมาเจอดัมพ์ในสภาพผ้าขนหนูพันกายท่อนเดียว ดัมพ์มองคนในอ้อมกอดที่เกือบล้มเมื่อครู่ดีที่ว่าเอื้อมมือออกไปกอดเอาไว้ทันเจ้าตัวยังคงอ้าปากค้างในอาการตกตะลึงอยู่
“เข้ามาในห้องเราทำไมอิ่ม” เขาถามแบบไม่ใช่ดัมพ์คนเดิมที่เธอรู้จัก เสียงนาบเนิบสายตาก็จ้องจับผิด
“เอ่อ อิ่มเอาซองเอกสารของลุงกำนันมาให้ดำ เห็นกำนันบอกว่าสำคัญให้เอาให้ดำกับมือ ห้ามฝากคนอื่น” วรดารีบอธิบายความจริงให้เขารู้
“ซองเอกสาร?” ดัมพ์มองไปที่หัวเตียงก็พบว่าเจ้าซองที่เขาไม่อยากรับมันวางอยู่ตรงนั้น
“ใช่ เอ่อ ดำปล่อยอิ่มได้แล้วล่ะ” วรดาดันท่อนแขนของเขาออก แต่ว่าดัมพ์กลับรัดแน่นมากขึ้น
“ดำ! อิ่มบอกให้ปล่อยไง”
“อิ่มอ่านป้ายหน้าห้องหรือยังก่อนเข้ามา” เขาก้มลงถามแทบจะชิดใบหูของหญิงสาว ท่าทางคุกคามแบบที่วรดาไม่เคยพบเจอมาก่อน ทำให้หญิงสาวรู้สึกเริ่มอึดอัดใจ
“อิ่มอ่านแล้วแต่ว่า...ลุงกำนันบอกว่าสำคัญ อิ่มก็เลย...”
“ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตใช่ไหม” เขาหรี่ตามองคนตรงหน้าโดยที่มือก็ยังไม่ปล่อยออกจากร่างของวรดา
“ถ้าดำไม่พอใจ อิ่มจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้” รีบดันท่อนแขนของเขาออก แต่ว่าดัมพ์กลับรัดแน่นขึ้นมากกว่าเดิม
“ได้ไง ไหนๆ ก็มาถึงห้องนอนของเราทั้งที ผู้หญิงคนไหนเข้ามาไม่เคยออกไปเฉยๆ หรอกนะอิ่ม” ปลายจมูกปัดแผ่วผ่านพวงแก้มเบาๆ วรดาหัวใจแทบหยุดเต้น เมื่อถูกเขาสัมผัสแบบแนบชิด ชนิดที่ว่าเห็นอกเปลือยกล้ามเป็นมัดๆ อยู่ตรงหน้า
“ดำ...อิ่มเป็นเพื่อนดำนะ” หัวใจสั่นพอๆ กับปากที่กำลังย้ำสถานะให้เขารู้
“อิ่ม...ก็ไม่เว้น” สอดแขนเข้ารวบเอวคนเป็นเพื่อนออกแรงดันเบาๆ เข้าหาอกแกร่ง ก่อนจะแนบริมฝีปากเย็นชืดเข้าหา วรดาหลับตาลงแน่นเมื่อเขาเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความหวั่นกลัว สัมผัสบางเบาปัดป่ายไปมาก่อนลิ้นหนาจะแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่ม ตวัดรัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม ฝ่ามือหนาทำท่าจะเลื่อนสูงขึ้นไปกอบกุมอกอวบทั้งสองข้าง แต่ดัมพ์ก็ยั้งความคิดนี้เอาไว้เสียก่อน เขาผละออกห่างด้วยความเสียดาย ไม่กล้าทำให้อีกคนเสียใจมากไปกว่านี้
“อิ่ม...” เจ้าของชื่อแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา ทั้งอาย ทั้งแปลกใหม่ จนหัวใจเต้นผิดจังหวะ หญิงสาวกะพริบดวงตาถี่ๆ เหมือนต้องการปรับอารมณ์ของตัวเอง สองฝ่ามือยกขึ้นดันแผงอกเปลือยของเขาออก ก้าวขาสั่นๆ ของตนเองออกจากห้องของเขาไปด้วยอาการเหม่อลอย
“อิ่ม!” ดัมพ์เรียกชื่อหญิงสาวเสียงดัง ทว่าคนที่เดินใจลอยออกจากห้องก็ไม่ยอมหันหลังกลับมา
“แปลกแฮะ ไม่ตบ ไม่ด่า งงวุ้ย!” ดัมพ์ยกมือเกาหัวแกรกๆ เมื่อปฏิกิริยาตอบรับของวรดากลายเป็น ตกใจ หน้าซีด อ้าปากเหวอ แล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ
“อะไรของเขาวะ” ยิ่งคิดก็ยิ่งงุนงงรีบหาเสื้อผ้ามาสวมใส่เพื่อที่จะได้ตามหญิงสาวได้ทัน
วรดาเดินตัวตรงลงมาจากบันไดบ้าน กระทั่งเปิดประตูออกมาด้านนอกอู่ซ่อมรถ แทบจะก้มหน้าก้มตาไม่มองใคร ทั้งไอ้ก้องไอ้ตุ้มต่างก็หยุดงานที่ทำ หันมามองวรดาเป็นสายตาเดียวกัน ไม่พูด ไม่ทัก เหมือนตอนมา มันคืออะไร?
“พี่อิ่ม!”
“เฮ้ย! อะไร” วรดาสะดุ้งตัวโหยงหันไปมองไอ้ก้องด้วยท่าทีตกใจ
“เป็นอะไรทำไมเดินเหม่อแบบนั้น”
“นั่นสิ ผิดปกตินะพี่” ไอ้ตุ้มสมทบตามอีก
“เปล๊า! ไม่มีอะไร” เสียงสูงจนน่าสงสัยเป็นเท่าตัว ไอ้ก้องกับไอ้ตุ้มหันไปมองสบสายตากัน ก่อนจะเหลือบไปตรงประตูไม้ที่ลูกพี่ของมันทั้งสองเพิ่งจะผลักออกมาเมื่อครู่นี้