บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 อัศวินของหัวใจ

โครม! เพล้ง!

เสียงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีเพียงไม่กี่ชิ้นในบ้านล้มระเนระนาดแตกกระจายไปทั่วพื้น ทำให้พีรยาที่เพิ่งเลิกงานมาไม่ทันได้พักเหนื่อย ถึงกับถอยกรูดไปยืนตัวสั่นหน้าซีดชิดกับผนังอย่างตกใจ

“ฉันถามว่านังมดมันอยู่ไหน!” พวกมันถามเสียงเหี้ยม

“ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่รู้ ไม่กลับบ้านมาเป็นเดือนแล้ว” พีรยาตอบเสียงสั่น สายตามองไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่หน้าตาโหดเหี้ยมสี่ห้าคนอย่างหวาดๆ

“งั้นก็แสดงว่ามันหนีไปแล้วน่ะสิ เฮ้ย! พวกมึงเอาตัวนังผู้หญิงคนนี้ไปขึ้นรถ” สิ้นเสียงสั่งชายฉกรรจ์สองคนก็กรูเข้ามาฉุดกระชากลากถูร่างเล็กของพีรยา แม้จะพยายามดิ้นและขัดขืนเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล แรงเท่ามดของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอมีหรือจะสู้แรงช้างสารของผู้ชายถึงสองคนได้

“กรี๊ดดด! ปล่อยนะพวกแกจะเอาตัวฉันไปไหน! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที! ” พีรยากรีดร้องและตะโกนขอความช่วยเหลือดังไปทั่ว แต่ก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนกล้าเข้ามาช่วย เพราะเพียงแค่โผล่หน้าเข้ามาเยี่ยมๆ มองๆ พวกมันก็ข่มขู่ด้วยปืนและคำพูดใหญ่โตจนคนฟังหัวหดตัวลีบกลับไป ถ้าใครใจกล้าหน่อยก็ทำได้แค่มาเลียบๆ เคียงๆ ดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ เท่านั้น

และในขณะที่พีรยาทั้งร้องทั้งดิ้นอย่างสุดชีวิตอยู่นั้นเสียงของใครคนหนึ่งก็ตะโกนมาแต่ไกล “เฮ้ย! พวกมึงทำอะไรน่ะ จะเอาพี่กูไปไหน ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย”

“เต้! เต้ช่วยพี่ด้วย อยู่ๆ พวกนี้ก็เข้ามาทำลายข้าวของในบ้านแล้วจะจับตัวพี่ไป” ทันทีที่เห็นหน้าน้องชายต่างสายเลือด พีรยาถึงกับยิ้มออกใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง

“กูบอกให้ปล่อยพี่สาวกู พวกมึงหูแตกกันหรือไงห๊า!” กาจพลที่กำลังจะไปส่งผู้โดยสารอย่างขัตติยะ แทบกระโจนลงจากรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อเห็นพี่สาวกำลังถูกฉุดกระชากลากถูลงจากบ้าน โดยไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ

“ใจเย็นๆ เต้ ดูท่าทางพวกนี้มันจะไม่ธรรมดา” ขัตติยะกระซิบเตือน เพราะดูจากหนังหน้าและหน่วยก้านของอีกฝ่ายแล้ว เป็นเรื่องยากที่ทั้งเขาและกาจพลจะต่อกรด้วยกำลัง

“เย็นได้ไง พี่เก่งดูพวกมันทำกับพี่ต้นข้าวสิ”

“เอาน่า มาเดี๋ยวฉันคุยกับพวกมันเอง” ว่าแล้วขัตติยะก็เดินเข้าไปยืนเผชิญหน้ากับชายร่างใหญ่ยักษ์ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม แล้วถามติดตลก

“ผู้หญิงคนนี้ไปด่าว่าหรือทำอะไรเจ็บๆ แสบๆ พวกพี่ล่ะสิ มาอีหรอบนี้คงจะเจอหนักเลยล่ะสิท่าถึงต้องตามมาแก้แค้นกันถึงที่บ้าน เอาเป็นว่าผมขอโทษแทนด้วยก็แล้วกันนะพี่ เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงปากร้ายปากเสียอย่างนี้ประจำแหละ”

“นายเก่ง! นี่นายจะช่วยหรือว่ามาหลอกด่าฉันกันแน่ห๊า” พีรยาถึงกับควันออกหู หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ชายหนุ่มยังมีแก่ใจมาพูดกัดจิกเธออยู่ได้

“กูไม่สนหรอกว่าผู้หญิงคนนี้จะปากร้ายปากจัดแค่ไหน ตราบใดที่นังมดมันไม่เอาเงินที่กู้ไปจากบ่อนมาคืนล่ะก็ นังผู้หญิงคนนี้ที่เป็นตัวค้ำประกันคนนี้จะต้องไปเป็นผู้หญิงขัดดอกของเจ้านายกู จนกว่าจะได้เงินคืนทุกบาททุกสตางค์”

“ผู้หญิงขัดดอก! ไม่นะฉันไม่ไป เต้ช่วยพี่ด้วย นายเก่งขอร้องล่ะช่วยฉันด้วยนะ” พีรยาดิ้นพล่าน ใบหน้าตื่นตระหนกละล่ำละลักขอความช่วยเหลือจากคนนั้นทีคนนี้ที ไม่เว้นแม้ขัตติยะที่ถือเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง

“ปล่อยพี่สาวกู แล้วกูจะใช้หนี้แทนแม่เอง บอกมาเท่าไหร่” กาจพลโพล่งออกไปอย่างไม่คิดอะไรมากเท่าไหร่ เพราะคิดว่าผู้เป็นแม่คงติดหนี้บ่อนพนันอย่างมากก็น่าจะแค่หลักหมื่นเท่านั้น และมันเป็นจำนวนเงินที่พอหาหยิบยืมมาได้

“รวมทั้งต้นทั้งดอกเบ็ดเสร็จก็สี่แสนห้า”

“สี่แสนห้า!”

ตายห่า! เงินเยอะขนาดนี้จะไปหาที่ไหนได้ กาจพลคิดอย่างตกใจ ซึ่งก็ไม่ต่างกับพีรยาที่พอได้ยินจำนวนเงินเธอถึงกับเข่าอ่อน หนทางที่จะรอดจากการเป็นผู้หญิงขัดดอกดูท่าจะมืดมน

“เงินตั้งเยอะตั้งแยะขนาดนั้น ขอเวลาพวกเราหน่อยไม่ได้เหรอ”

“ใช่ๆ ขอเวลาพวกเราหน่อยนะ” หญิงสาวรีบเอ่ยเสริมคำพูดของน้องชายด้วยสีหน้าอ้อนวอน แม้จะยังคิดไม่ออกว่าจะหาเงินจำนวนมหาศาลนั้นมาจากไหน แต่ตอนนี้ขอแค่ให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ร้ายๆ ตรงนี้ไปให้ได้เสียก่อน เรื่องอื่นค่อยคิดกันทีหลัง

“พวกกูให้เวลานังมดมันมามากเกินพอแล้ว ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องมาต่อรอง เฮ้ย พวกมึงเอาตัวนังผู้หญิงไปขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวเจ้านายจะรอนาน”

“ไม่นะ! ฉันขอร้อง ขอเวลาฉันหน่อย สัญญาว่าจะหาเงินมาคืนให้พวกแกทุกบาททุกสตางค์”

ขัตติยะยืนมองหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าแก่นแก้วปากคอเราะรายอย่างพีรยายกมือไหว้และมองคนพวกนั้นด้วยสายตาอ้อนวอน โดยที่คนเป็นน้องอย่างกาจพลก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย เขาในฐานะคนที่รู้จักมักจี่กันมานานก็อดที่จะสงสารสองพี่น้องคู่นี้ไม่ได้ และหลังจากยืนชั่งใจอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก่อนที่หญิงสาวจะโดนลากออกจากบ้านไปเขาก็ตัดสินใจได้ว่าควรจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“เดี๋ยวก่อน! หนี้ทั้งหมดสี่แสนห้าใช่ไหม...ฉันจะใช้ให้เอง” ขัตติยะเอ่ยพลางดึงเช็คในกระเป๋าที่มักพกติดตัวเสมอขึ้นมากรอกตัวเลขแล้วเซ็นชื่อ ก่อนจะยื่นมันให้กับคนที่ดูน่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่แทนที่มันจะรับเช็คแล้วปล่อยตัวพีรยา มันกลับแสยะยิ้มแล้วบอกเสียงเย็น

“พวกกูต้องการเงินสดเท่านั้นโว้ย”

“อ้าวเฮ้ย เช็คกับเงินสดมันต่างกันตรงไหนวะ สี่แสนห้าเหมือนกัน” กาจพลแย้งขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ต่างไม่ต่างกูไม่รู้ รู้แต่ว่าเจ้านายกูสั่งให้เอาเงินสด กูก็ต้องได้เงินสดกลับไปเข้าใจ๋ ไอ้ลูกหมา”

คนถูกด่าว่าไอ้ลูกหมาแทบถลาเข้าไปตั๊นหน้าคนพูด แต่ดีที่ขัตติยะห้ามเอาไว้ก่อน เพราะยังไงตอนนี้พวกมันว่าอะไรก็ต้องยอม

“ก็ได้ งั้นพวกนายรออยู่ตรงนี่ซักสิบห้านาทีก่อนก็แล้วกัน ฉันจะกลับไปเอาเงินสดที่บ้าน...ไปเต้”

“เก่ง! นายอย่าไปเลยนะ ฉันขอร้อง ถ้าขืนนายกับเต้ไปกันหมด แล้วพวกมันไม่รอตามที่ตกลงกันไว้ เอาตัวฉันไป กว่านายกับเต้จะกลับฉันจะไม่กลายเป็น...เป็น...ฉัน...ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงขัดดอก ขอร้องละนะ ให้คนที่บ้านเอามาให้ไม่ได้เหรอ นะๆ ฉันกลัวจริงๆ ถ้าจบเรื่องคราวนี้ฉันจะยอมนายทุกอย่างเลย เงินฉันก็จะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ด้วย”

“เฮ้อ! เธอมันนี่จริงๆ เลย หน้าตารูปร่างอย่างนี้ไม่รู้เจ้านายคนพวกนี้พิศวาสไปได้ยังไง” ชายหนุ่มถอนหายใจพร้อมกับแกล้งบ่น แต่ก็ยอมใจอ่อนทำตามคำขอร้องของหญิงสาว โดยเดินเลี่ยงออกมา แล้วต่อสายหาคนเป็นแม่ ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถจะนำเงินสดจำนวนมากนี้มาให้เขาได้

ขัตติยะใช้เวลาพูดคุยกับปลายสายไม่นาน ก็เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ที่พอจะทำให้สองพี่น้องได้หายใจหายคอคล่องขึ้น ชายหนุ่มเดินมาตบไหล่กว้างกาจพลเบาๆ พร้อมกับสั่ง “เต้ เดี๋ยวแกไปรับคุณนายสมรที่บ้านด้วยนะ”

“มอ’ ไซค์เหรอพี่” กาจพลถามอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก

“อือ ก็คุณนายสมรเขารีเควสมาอย่างนั้น”

“ครับพี่”

หลังจากที่กาจพลสวมวิญญาณเด็กแว้นบิดมอเตอร์ไซค์คู่กายไปรับคุณนายสมรตามคำสั่งด้วยความเร็วสูง ขัตติยะก็หันมามองพีรยาที่ถูกชายร่างใหญ่สองคนควบคุมตัวราวกับเป็นผู้ร้ายคดีอุกฉกรรจ์ แล้วร้องขอเมื่อเห็นหญิงสาวยืนยิ้มหน้าซีด “ฉันว่าพวกนายปล่อยผู้หญิงแล้วขึ้นไปรอบนบ้านดีกว่าไหม ขืนยืนอยู่ตรงนี้ชาวบ้านได้แตกตื่นกันหมดพอดี แค่นี้ก็ตกใจจนแทบจะย้ายบ้านหนีกันอยู่แล้ว”

ทั้งหมดหันมามองหน้ากัน ก่อนคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มจะหันมามองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ ขัตติยะจึงรีบพูดเสริมขึ้นอีกว่า “อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลยน่า พวกนายมีตั้งสี่ห้าคน และแต่ละคนตัวใหญ่ยักษ์กันทั้งนั้น ฉันกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อีกคนหนึ่ง จะหนีไปไหนได้”

“งั้นมึงเดินนำขึ้นไปก่อน แล้วพวกกูจะพานังผู้หญิงตามไป”

ขัตติยะไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนจะเดินนำขึ้นไป แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นข้าวของแตกกระจัดกระจายเต็มพื้นไม่มีแม้แต่ที่จะเดิน เดือดร้อนเขาต้องเก็บของที่พอเป็นชิ้นเป็นอันมารวมกันไว้ตรงมุม แล้วใช้ไม้กวาดกวาดเศษเล็กเศษน้อยไปรวมกันไว้อีกมุมแก้ขัดพอให้มีที่ทางเดินเหิน

“เข้ามาแล้วปล่อยผู้หญิงด้วย ไม่ต้องห่วงเงินสี่แสนห้าพวกนายได้แน่นอน”

ไอ้หาญพยักหน้าให้ลูกน้องทั้งสอง และทันทีที่เป็นอิสระพีรยาก็วิ่งโถมเข้าไปกอดขัตติยะอย่างต้องการหาที่พึ่ง แม้จะตกใจอยู่บ้าง แต่ชายหนุ่มก็เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกในขณะนี้ของหญิงสาวดี เขาจึงโอบกอดและพูดปลอบร่างเล็กสั่นเท่านั้นอย่างอ่อนโยน

ผ่านไปพักใหญ่กาจพลก็กลับมาพร้อมกับคุณนายสมรและเงินจำนวนสี่แสนห้า ทั้งสองเดินขึ้นบนบ้านอย่างเร่งรีบ และทันทีที่เห็นสภาพภายในบ้านคุณนายสมรถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจ

“นี่มันอะไรกัน บ้านเช่าของฉันมีพวกนักเลงหัวไม้มาคุมตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมมันเดินยั้วเยี้ยเต็มไปหมด แล้วดูสภาพบ้านสิ ทำไมของมันถึงได้กระจัดกระจายอย่างนี้ บอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นเจ้าเต้”

และก่อนที่คนถูกถามจะได้ตอบ เสียงขัตติยะที่โดนผู้ชายร่างยักษ์บังจนมิดก็ดังขึ้น

“แม่มาแล้วเหรอครับ งั้นผมฝากต้นข้าวหน่อย แล้วไหนล่ะครับเงิน”

“เต้เอากระเป๋าเงินให้ตาเก่งหน่อยซิ” นางบอกพลางดึงร่างเล็กของพีรยามากอดไว้ พร้อมกับสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

“นี่มันเรื่องอะไรกันหนูต้นข้าว”

“พวกเขามาทวงหนี้ของน้ามดค่ะ แต่หนูกับน้องชายไม่มีเงินให้ มันเลยจะเอาตัวหนูไปขัดดอกจนกว่าจะหาเงินสี่แสนห้าไปคืน”

“นี่นังมดอีกแล้วเหรอ ทำไมนะมันถึงชอบก่อเรื่องให้ลูกๆ ได้เดือดร้อนครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้จักจบจักสิ้นเสียที...ครั้งนี้ก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ ” คุณนายสมรส่ายหน้าอย่างระอากับผีพนันอย่างนางมด และเห็นใจสองพี่น้องที่ต้องมาตามชดใช้หนี้สิน ที่ไม่ได้ก่อนับครั้งไม่ถ้วน และนับวันมันก็ยิ่งเพิ่มทวีขึ้นไปเรื่อยๆ

“หนูกับน้องชายต้องขอบคุณคุณนายมากๆ เลยนะคะ ที่อุตส่าห์เอาเงินมาใช้หนี้แทน ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกับคุณนายสักหน่อย หนูสัญญานะคะว่าจะช่วยกันหาเงินมาใช้คุณนายให้เร็วที่สุด”

“หนูขอบคุณผิดคนแล้วละ เงินนั้นไม่ใช่เงินของฉันหรอก เป็นเงินลูกชายฉันต่างหากละ เรื่องใช้คืนก็ตกลงกับเจ้าของเงินเองก็แล้วกันนะจ๊ะ” นางบอกพลางส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น ไม่ถือตัวว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านเช่าและหญิงสาวเป็นแค่ผู้เช่าอาศัย ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ผู้เช่าทุกคนจะรักและเคารพคุณนายสมรเป็นอย่างมาก

“อย่างนั้นเหรอคะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันไปทอดสายตามองผู้ชายที่เธอแอบรักมานาน ด้วยความรู้สึกซึ้งใจจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แม้ตลอดเวลาเขามักจะแสดงออกว่าไม่ค่อยกินเส้นกับเธอเท่าไหร่ แต่พอมีเรื่องเดือดร้อนเขากลับเป็นคนแรกที่ยื่นมือเข้ามาช่วย

“ได้เงินแล้วก็ไปซะสิ และไม่ต้องมายุ่งกับพวกเราอีกนะโว้ย”

“นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับแม่ของแก ไอ้ลูกหมา…พวกเรากลับโว้ย”

เป็นอีกครั้งที่กาจพลถูกพวกมันด่า และก็เป็นขัตติยะอีกเช่นเคยที่ต้องคอยห้ามชายหนุ่มเอาไว้

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” ถึงอย่างนั้นกาจพลก็ยังตะโกนอาฆาตตามหลังพวกมันไปอย่างหงุดหงิด ซึ่งไม่ต่างกับคุณนายสมรที่มองตามกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่พอรู้ว่าเป็นคนของบ่อนไหน แล้วหันมามองใบหน้าจิ้มลิ้มของพีรยาอย่างหนักใจแทน

“แล้วถ้านังมดมันไปก่อหนี้อีกล่ะต้นข้าว หนูจะทำยังไง จะไม่ต้องยอมไปเป็นผู้หญิงขัดดอกหรอกหรือ…เมื่อไหร่นะผู้หญิงน่ารักนิสัยดีอย่างหนูจะเจอผู้ชายดีๆ อย่างหนูนกบ้าง” คุณนายสมรเอ่ยถึงอดีตผู้เช่าบ้านของตนที่รู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี และที่สำคัญหญิงสาวเป็นผู้หญิงที่ลูกชายของนางเคยรักมาก แต่สาวเจ้ากลับไปตกลงปลงใจกับหนุ่มนักธุรกิจรูปหล่อนามว่าชินภัทรซะงั้น ทำให้ลูกชายของนางอกหักพังยับเยิน

“นั่นน่ะสิครับคุณนาย ผมก็ไม่รู้ว่าแม่จะเอาความเดือดร้อนมาให้อีกเมื่อไหร่ เอาอย่างนี้ไหมพี่ต้นข้าว ผมว่าพี่ย้ายไปอยู่ที่อื่นที่มันไกลๆ จากที่นี่ดีไหม”

“ไม่ได้หรอก อยู่ที่นี่มันใกล้และสะดวกกับการเดินทางไปทำงานของพี่ เอาเป็นว่าเต้ช่วยตามหาน้ามดให้เจอก่อนจะไปก่อเรื่องอีกก็แล้วกัน ถ้าเจอตัวเมื่อไหร่พี่นี่แหละจะจัดการกับน้ามดเอง เห็นเราไม่พูดไม่ว่ายิ่งได้ใจ เดี๋ยวจะเอาให้หนักเลยคอยดู” พีรยาบอกน้องชายแล้วบ่นต่ออีกยืดยาว

และในจังหวะนั้นเองทำให้ขัตติยะรีบลากผู้เป็นแม่ออกมาอีกมุมหนึ่งของบ้าน แล้วกระซิบถาม “แม่...ในสายตา แม่ว่ายายต้นข้าวน่ารักและนิสัยดีจริงเหรอ”

“จริงสิ บางครั้งแม่ยังคิดเลยว่าอยากได้ลูกสาวน่ารักๆ อย่างนี้บ้าง....ว่าแต่แฟนแกนิสัยดีน่ารักได้ครึ่งหนูต้นข้าวเขาหรือเปล่า”

“แล้วแม่จะเซอร์ไพรส์” ขัตติยะยิ้มอย่างหมายมาด เพราะเขาพอจะนึกอะไรดีๆ ออกแล้วละว่าจะหาผู้หญิงที่ดีและน่ารักในสายตาของคนเป็นแม่ได้จากที่ไหน สุดท้ายคนที่เขาคิดว่าไม่มีประโยชน์ กำลังจะเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อเขามากที่สุด

“ย่ะ แล้วแม่จะรอดูเซอร์ไพรส์ของแกว่ามันจะขนาดไหน ดีจริงอย่างที่โม้หรือเปล่า” คุณนายสมรเบ้ปาก ค้อนส่งลูกชายตาคว่ำอย่างหมั่นไส้ ในคำยกยอแฟนสาว

“ครับ แล้วนี่แม่จะกลับเลยหรือเปล่า”

“ยังดีกว่า นานๆ มาทีแม่ขอไปทักทายผู้คนแถวนี้ก่อนก็แล้วกันนะ…เจ้าเต้จะไปขับวินต่อหรือเปล่าเรา”

“ไม่ล่ะครับคุณนาย ผมคงต้องอยู่เก็บกวาดบ้านช่วยพี่ต้นข้าว อีกอย่างมันก็เย็นแล้วด้วย วันนี้ก็เลยคิดว่าจะพอแค่นี้แหละครับ”

“งั้นก็ดี เดี๋ยวขากลับฉันวานไปส่งที่บ้านด้วยแล้วกันนะ ตอนนี้ขอไปหาเพื่อนเม้าท์ก่อนดีกว่า” พูดจบคุณนายสมรก็เดินยิ้มร่าลงจากบ้าน ส่วนกาจพลก็แยกตัวเข้าไปจัดเก็บข้าวของที่แตกกระจายบนพื้น จะเหลือก็แค่ขัตติยะกับพีรยาเท่านั้น ที่ยังคงยืนรีๆ รอๆ อ้ำๆ อึ้งๆ จะพูดอะไรก็ไม่พูด หันมาสบตากันแล้วรีบหลบ อาจจะเป็นเพราะทั้งสองเวลาเจอหน้ากันไม่เคยพูดดีกันเลยสักครั้ง คราวนี้จะต้องมาพูดดีๆ กันเลยรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

“เอ่อ... / เอ่อ...”

“เธอพูดก่อนแล้วกัน”

“เอ่อ...ขอบใจนะที่ช่วย ทั้งที่นายกับฉันเราก็ไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ ส่วนเรื่องเงินถ้าไม่มีปัญหาอะไร ฉันจะทยอยใช้คืนให้นะ แม้มันจะนานสักหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงนายได้เงินคืนทุกบาททุกสตางค์แน่นอน”

“ไม่เป็นไร ที่จริงเงินแค่นั้นฉันไม่เอาคืนก็ได้ แต่เธอต้องยอมช่วยอะไรฉันเรื่องหนึ่ง” ชายหนุ่มพูดพลางกลั้นหัวเราะกับท่าทีจริงจังของอีกฝ่าย เพราะความไม่ค่อยจะถูกกันเธอคงกลัวเขาจะเรียกเงินคืนแบบโหดๆ ล่ะสิ

“ระ...เรื่องอะไร นายคงไม่ได้คิดพิศวาสฉันขึ้นมาหรอกนะ” หญิงสาวพูดติดตลกพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ

“บ้า คนอย่างฉันไม่ตาถั่วขนาดนั้นหรอกน่า เอาเป็นว่าเรื่องนี้คุยที่นี่ไม่สะดวกเท่าไหร่ เราไปคุยกันที่บ้านฉันดีกว่านะ”

“บ้าน!” พีรยาอุทานออกมาอย่างตกใจ เรื่องที่เขาจะให้เธอช่วยมันเป็นความลับขนาดที่จะต้องไปคุยกันที่บ้านของเขาเลยหรือ

“ฉันหมายถึงบ้านเช่าใกล้ๆ นี้ หลังที่มันว่างอยู่น่ะ และตอนนี้ฉันได้ยึดมันเป็นบ้านอีกหลังของฉันไปเรียบร้อยแล้ว”

“แล้วก็ไม่บอก แต่เร็วๆ นะ ฉันต้องมาช่วยเต้มันเก็บกวาดบ้าน”

“อือ แป๊บเดียว...เต้! ฉันขอยืมพี่สาวแป๊บนะ เดี๋ยวเอามาคืน”

“ครับ เอาไปแล้วเอาไปเลยไม่ต้องคืนก็ได้ครับพี่เก่ง ผมยกให้”

“ไอ้น้องบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้ กวาดบ้านไปเลยนะ ถ้ากลับมาไม่เสร็จล่ะน่าดู” พีรยาชี้หน้ากาจพลที่ยืนหัวเราะและยักคิ้วหลิ่วตาให้เธออย่างล้อเลียน พร้อมกับพูดคาดโทษเสียงดัง เพื่อกลบเกลื่อนความอาย ก่อนจะรีบเดินลงจากบ้านไปก่อนที่คนเป็นน้องจะขายเธอมากไปกว่านี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel