บท
ตั้งค่า

หน้าที่ของแม่บ้าน

หลิวรุ่ยหลันไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลี่ซือเทียนจะถามคำถามเธอตรงๆแบบนี้ การมาเจอกับเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนส่องด้วยแสงไฟจากสปอตไลต์ที่เคยเปล่งแสงส่องเขาบนเวทีอน่างไรอย่างนั้น

เธอคิดไม่ทันจริง ๆว่าผู้ชายคนนี้จะมีสายตาที่จ้องมองทุกอย่างอย่างถี่ถ้วน ไม่ปล่อยให้สิ่งใดหลุดรอดไปได้ง่าย ๆ

หลิวรุ่ยหลันพอจะเดาได้จากการมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นแล้วว่า หลี่ซือเทียนเป็นผู้ชายที่ไม่เพียงแค่มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ไวเท่านั้น แต่ยังสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

บรรยากาศภายในห้องเงียบลงชั่วครู่ เหลือเพียงเสียงลมที่พัดกระทบใบไม้ด้านนอก เสียงใบไม้สั่นสะท้อนเข้ามาในห้องขณะที่หลี่ซือเทียนยังคงจ้องมองหลิวรุ่ยหลันด้วยความสงสัยที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

“ว่าไงครับ?” เขาถามซ้ำเมื่อเห็นเธอจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

“อะไรว่าไงคะ?” หลิวรุ่ยหลันสะดุ้งเล็กน้อย

“ผมเห็นคุณจ้องผมราวกับว่าผมเป็นกระจก คุณเห็นอะไรในตัวผมงั้นเหรอ?” น้ำเสียงของเขาเหมือนจะท้าทาย แต่ก็แฝงไปด้วยความขบขันเล็กน้อย

หลิวรุ่ยหลันไม่ได้ตอบในทันที เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย รู้สึกเหมือนโดนจับได้ว่าใจลอย แต่เธอก็ไม่อยากจะพูดอะไรให้มากกว่านี้

หลี่ซือเทียนถอนหายใจเบา ๆ “เอาเถอะ ตอบยากนักก็ไม่ต้องตอบ” เขาตัดบทและยกมือขึ้นปัดผมด้านหน้าของเขาออกไป

เขาเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับจ้องมองเธออีกครั้ง “ว่าแต่...คิดดีแล้วหรือที่จะมาทำงานให้ผม?” คำถามนี้เหมือนเขากำลังทดสอบอะไรบางอย่าง

“คิดดีแล้วสิคะ ไม่อย่างนั้นดิฉันก็คงไม่เดินทางมาไกลถึงที่นี่” หลิวรุ่ยหลันตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แม้ในใจยังคงตื่นเต้น เธอสบตาเขาอย่างตรงไปตรงมา

สายลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างเริ่มเย็นขึ้นเล็กน้อย ขณะที่หลี่ซือเทียนขยับตัวในเก้าอี้แล้วเอ่ยขึ้น

“คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่?”

เสียงของเขามีความทุ้มต่ำกว่าปกติ ทำให้ห้องนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัด หลิวรุ่ยหลันรู้สึกเหมือนเขากำลังทดสอบเธออีกครั้ง แต่เธอยังไม่อยากตอบกลับเขาในทันที

“แล้วแต่จะกรุณาค่ะ ดิฉันยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้างที่นี่”

หลี่ซือเทียนถอนหายใจหนัก ๆ เหมือนกับว่ากำลังจะตัดสินใจอะไรบางอย่างที่เขาไม่ค่อยเต็มใจนัก

“ผมคงคิดผิดที่ไม่ถามก่อนว่าคุณทำอะไรเป็นบ้าง ก่อนที่ผมจะตัดสินใจรับคุณเข้าทำงาน”

หลิวรุ่ยหลันจ้องมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาเป็นทั้งเจ้าของไร่และเป็นอดีตนักร้องชื่อดังที่เธอเคยชื่นชมในวัยเด็ก ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้มาทำงานให้กับบุคคลที่เคยอยู่ในแสงสปอร์ตไลต์มาก่อนเช่นนี้

ความทรงจำในวัยเด็กของเธอผุดขึ้นมาทันที เธอจำได้ว่าเธอนั่งหน้าจอทีวี ดูเขาร้องเพลงด้วยความชื่นชม ดวงตาเธอเฝ้าจ้องเขาด้วยความประทับใจ ในตอนนั้นหลี่ซือเทียนคือคนดังที่ไม่มีใครไม่รู้จัก

การที่เธอต้องมาเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย ชายผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่บนเวทีขนาดใหญ่ ท่ามกลางแสงไฟนับร้อย กำลังนั่งอยู่ที่นี่ ในห้องทำงานที่ดูเรียบง่ายเกินกว่าจะเป็นที่ของบุคคลผู้เคยมีชื่อเสียงเช่นเขา

ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องช่างดูแตกต่างจากภาพในหัวของเธอ ผนังสีขาวสะอาดเรียบๆ โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่ไม่มีสิ่งของมากนัก เว้นเพียงแฟ้มเอกสารไม่กี่ชิ้นที่วางอยู่อย่างเป็นระเบียบ

แสงแดดส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ผ้าม่านสีขาวบางๆ ปลิวไสวจากสายลมที่พัดผ่านหน้าต่าง และส่องสะท้อนกับโต๊ะทำงานของหลี่ซือเทียน บรรยากาศเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก

แม้ว่าลมจะพัดให้ม่านพลิ้วไหวอย่างแผ่วเบา แต่มันก็ไม่สามารถทำให้บรรยากาศในห้องนี้ดูสดชื่นขึ้นได้ กลับกลายเป็นว่ามันเพิ่มความหนาวเย็นที่แฝงอยู่ในอากาศอย่างน่าประหลาด เหมือนกับความไม่แน่ใจที่เธอมีต่อสถานการณ์นี้

หลี่ซือเทียนไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจบรรยากาศรอบตัว เขานั่งอยู่อย่างสงบ สายตาจับจ้องไปที่เธอราวกับกำลังค้นหาความจริงบางอย่าง

“ดูเหมือนว่าคุณนั้นจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าที่แม่บ้านจะต้องทำอะไรบ้าง?” หลี่ซือเทียนเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความท้าทายแปลกๆ ที่ทำให้หลิวรุ่ยหลันต้องกลืนน้ำลาย ความเงียบในห้องนี้ยิ่งทำให้คำพูดของเขาดังก้องในหัวเธอ

หลิวรุ่ยหลันพยายามรวบรวมความกล้าหาญ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดันต่อคำพูดของเขา ในความเงียบที่ตามมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel