บทที่ 1 (2)
เธอไม่รอให้ต้นน้ำกล่าวประโยคจบ สองขาเล็กรีบก้าวออกเดินตรงไปยังรถยนต์สีดำที่พึ่งขับเข้ามาจอดเทียบข้างฟุตบาท ทั้งรีบเปิดประตูรถนำพาตัวเองขึ้นมานั่งข้างคนขับ
“ไปโดนอะไรมา” โดนัทจ้องมองหน้าผากของน้องสาว พินิจพิจารณาอย่างละเอียด ใบหน้าหล่อเหลาสองคิ้วดกดำขมวดเข้าหากันดวงตากลมโตที่เหมือนดวงพระอาทิตย์ที่มีแสงสาดส่องออกมาเริ่มหรี่ลงเพราะความสงสัย
“ฟะ...ฟุตบอลค่ะ” เด็กสาวตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก เพราะความเกรงกลัวพี่ชายจะดุให้ตนเอง
“ไหนดูหน่อยสิ ทำไมมันช้ำแบบนี้ ต้องไปหาหมอแล้ว ปล่อยเอาไว้แบบนี้คงได้นอนร้องไห้ทั้งคืนแน่ๆ” มือที่ดึงถุงน้ำแข็งออกจากหน้าผากผลักกลับเอาไปไว้ที่เดิม ก่อนที่เขาจะเดินเครื่องยนต์รีบเร่งไปยังคลินิกหมอที่อยู่ใกล้ที่สุด
ลูกตาลจ้องมองใบหน้าของพี่ชายด้วยความหลงใหลได้ปลื้ม เธอชื่นชมในความหล่อเหลาที่มองกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ ในใจก็รู้สึกอดภูมิใจจนนับครั้งไม่ถ้วนว่าช่างมีบุญวาสนาได้มีพี่ชายและพี่สาวหน้าตาดีเกินคนอื่นเขา
“เลิกจ้องได้แล้ว เป็นห่วงหน้าผากตัวเองก่อน ระวังจะเสียโฉม ไปทำยังไงให้ลูกบอลอัดหน้ามาแบบนี้ ซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนเลยนะ” เสียงบ่นของพี่ชายดังขึ้น สายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่ถนนเบื้องหน้า อย่างมีสมาธิ ใบหน้าสวยที่เปื้อนรอยยิ้มเมื่อครู่หุบกลับไปทันที เหลือเพียงสีหน้าที่หม่นหมอง
โดนัทเหลือบสายตามองมาทางน้องสาวที่เงียบไป ในใจของเขาก็ไม่ได้อยากดุด่าว่าให้ แต่เพราะความเป็นห่วงและความร้อนใจ ยิ่งด้วยตอนนี้พ่อกับแม่ออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศหลายเดือน ถ้ารู้ว่าเขาดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวไม่ได้ ท่านทั้งสองคงได้เทศนาเขาไปหลายวันเป็นแน่
“พี่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก แผลแค่นี้เอง” เธอส่งยิ้มเจือจางมาให้โดนัท ที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่หลังพวงมาลัย ก่อนที่เสียงตีไฟเลี้ยวของรถยนต์จะดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่าถึงที่หมายแล้ว
“ลงไปก่อน เดี๋ยวพี่หาที่จอดรถ ดูรถด้วยเข้าใจไหม” โดนัทพูดขึ้น ใบหน้าสวยพยักขึ้นลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถแล้วก้าวขาเดินลงไป
เด็กสาวเดินเข้ามาในคลินิกพร้อมถุงน้ำแข็งที่แตะเอาไว้กลางหน้าผาก ทุกคนต่างให้ความสนใจ หันมามองกันหน้าสลอน พยาบาลชุดขาวเดินเข้ามาถามไถ่อาการ ก่อนนำพาลูกตาลเดินเข้ามาด้านใน เพื่อทำประวัติคนไข้รอเพื่อเข้าตรวจอาการบาดเจ็บกับคุณหมอ
“ถ้ามีอาการเหมือนที่หมอบอกไป ให้รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดนะครับ พรุ่งนี้หน้าผากคงจะช้ำมากกว่านี้ อย่าลืมทำตามที่หมอแนะนำอย่างเคร่งครัดนะครับ อย่าวิตกกังวลมากเกินไป ทำใจให้สบาย เดี๋ยวทุกอย่างก็กลับมาปกติเหมือนเดิม”
ลูกตาลรับฟังคำแนะนำจากคุณหมออยู่นาน เธอเดินออกมาจากห้องตรวจ พร้อมผ้ากอซสีขาวผืนใหญ่ที่แปะเอาไว้ที่หน้าผาก สายตาของทุกคนต่างมองมาที่เธอเหมือนครั้งแรก มันยิ่งทำให้เด็กสาว รู้สึกไม่สบายใจ สองมือรีบกุมตรงผ้าสีขาวเอาไว้ ก่อนเดินไปรับยาที่มีพี่ชายรออยู่ตรงจุดนั้นก่อนแล้ว
“หึ สวยดีนะ” เขาเอ่ยล้อน้องสาวขึ้น
“พี่นัท หนูงอนแล้วนะ ชิ!!” เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เสียงหัวเราะของพี่ชายยังคงดังขึ้นมา ยิ่งทำให้ใบหน้าสวยหงิกงอเข้าไปใหญ่
“กล้างอนพี่เหรอ พี่ว่าจะแวะร้านเค้กที่ชอบให้ซะหน่อยเป็นการปลอบใจ แต่ดูเหมือนคนแถวนี่จะไม่อยากกินของอร่อย” โดนัทพูดขึ้นมาลอยๆ แต่มันก็ได้ผล น้องสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ รีบเอาสองมือคว้าหมับ!! เข้าที่แขนของเขา ลูกตาลรีบเอาใบหน้าแนบลงมาบนต้นแขนของพี่ชาย
“พี่นัทที่น่ารักของน้อง หนูจะงอนพี่ได้ไงคะ เมื่อกี้หนูแค่ล้อเล่น แต่ว่าค่าขนมของหนูหมดแล้ว พี่ชายเลี้ยงน้องสาวได้ไหมเอ่ย” ลูกตาลส่งสายตาออดอ้อนออเซาะมาให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง เป็นชายใดก็ต้องใจอ่อน ใบหน้าสวยหวานของลูกตาล ยิ่งเธอฉีกยิ้มหวานหยดย้อย หัวใจของเขาก็อ่อนปวกเปียกลงในทันใด
“ได้ แต่วันนี้ต้องทำตัวน่ารักๆ ให้พี่ทำงานอย่างสบายใจสักวัน โอเคไหม” โดนัทพูดต่อรองกับน้องสาวใบหน้าสวยรีบขยับขึ้นลงเป็นการตอบรับในทันที เขาเดินไปรับยาให้กับลูกตาล ก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางมายังร้านขายขนมเค้กที่เธอโปรดปราน