ตอน 4
พออุ้มหญิงสาวก็มีโอกาสต่อต้านด้วยการทุบตีเขาอย่างเมามันด้วยกำปั้นเล็กๆ เสียงร้องโวยวายดังไปทั่ว มาเฟียหนุ่มวางหญิงสาวลงยืนกับพื้น ดอกเหมยโล่งใจเมื่อการโวยลั่นป่าช้าแตกของตัวเองได้ผล ทว่า...!!
“ว้าย !!!” เสียงอุทานตกใจของบรรดาบริวารพลันดังขึ้น พวกผู้ชายดูนิ่งๆ พวกผู้หญิงที่ทำหน้าที่แม่บ้าน ต่างกรีดร้อง อ้าปากค้างทำตาโตกันกับภาพการกระทำของเจ้านายเบื้องหน้า
ร้องโวยวายดีนักต้องสั่งสอนให้สงบลงซะบ้าง สำหรับผู้ชายสั่งสอนด้วยลูกปืน แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ต้องสั่งสอนด้วยจูบ มาเฟียหนุ่มไม่ได้จูบแผ่วเบา เขาทั้งรุนแรง เร่งเร้า คุกคาม ลวนลาม เอาแต่ใจเพียงต้องการลงโทษหญิงสาวเชื่อฟังคำสั่ง สำหรับเขาคำสั่งคือคำสั่งไม่ใช่ศักดิ์แต่พ่นน้ำลายรดฟ้า คำสั่งเขาศักดิ์สิทธิ์ใครไม่เคารพต้องเจอดี ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นหัวหน้าคนนับพันได้อย่างไร ถ้าการสั่งผู้หญิงตัวเล็กบอบบางคนเดียวไม่ได้ เขาสั่งใครได้อีกโดนลูกน้องหัวเราะเยาะแน่
บริวารต่างคนต่างหลบไม่กล้าอยู่ดูฉากเลิฟๆ รักๆ ของเจ้านาย ดีไม่ดีอาจโดนเขม่น หรือไม่ก็โดนคาดโทษรุนแรงที่บังอาจกล้ายืนดู ก็คนไม่เคยเห็นจะจะกับตา สาวสวย หนุ่มหล่อ วาดลวดลายการจูบสะท้านสายตาผู้คนแบบนี้ก็เล่นเอาคนดูเขิน
ปากหญิงสาวถูกก่อกวนด้วยปากร้อนมาเฟียหนุ่ม ในจังหวะเร่งเร้า รุนแรง นับนาทีเผาผลาญขึ้นตามลำดับ เขาไม่ยอมปล่อยจูบหนักหน่วงจากเธอ ต่อให้เธอดิ้นหนี ผลักไส ทุบตีด้วยการระรัวกำปั้นเล็กไร้กำลัง เขากลับนิ่งเฉยไม่ปลดปล่อยจนกว่าตัวเองอิ่ม ร่างบอบบางอยู่ในอ้อมแขนทรงพลังของเขา หมดเรี่ยวแรงเพราะจูบร้อนเร่าที่ทำเอาหมดสภาพความมั่นคงในความคิด สมองมึนงงคิดอะไรไม่ออก
หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทัน อาการประท้วงค่อยผันแปรเป็นอ่อนระทวยไปกับบทจุมพิต เพื่อการสั่งสอน ทั้งรุนแรง รุกเร้า ใช้กำราบคนหัวดื้อคิดจะเอาชนะ แข้งเขาสั่นทรงตัวไม่อยู่ ยังดีที่มีเขาช่วยประคอง อานุภาพร้ายแรงเพียงแค่จูบ ปลายลิ้นร้อนชายหนุ่มเปิดช่องปากหญิงสาว ไรอัน หยวน ใช้ปากร้อนสั่นไหวงับปากเธอขบเม้มดูดัน ขบกัดราวกับต้องการหยอกล้อระคนเอาใจ
ตอนนี้ปากหญิงสาวแสบร้อนบวมเจ่อ จากกระทำของคนลงมือลงโทษในจังหวะดุดันเอาแต่ใจ ไม่คิดเห็นอกเห็นใจคนอื่น เอะอะจูบ เอะอะกระชากเข้ามากอด คนไม่เคยอย่างดอกเหมยมีหรือจะมีความสามารถในการตั้งรับความดุเดือดเลือดพล่านจากสิ่งที่เขากระทำต่อเธอได้
ไรอันตั้งใจหยุดแค่จูบสั่งสอนกับบทลงโทษสถานเบา ติดใจรสปากหญิงสาวช่างช่วยกระตุ้นปลุกความหิวในตัวเขาลิงโลดโจนทะยานอย่างประหลาดหัวใจหนุ่มแน่นเหมือนม้าศึกคึกดีดดิ้น ชักชวนให้เขาไปต่อกับการรุกเร้าบุกตะลุยกัดกินปากหญิงสาว ปลายลิ้นจัดแจงสอดแหย่หลังเปิดปากนุ่มได้สำเร็จ ในรูปแบบอุกอาจไม่ปรานีต่อความรู้สึกคนถูกรุกไล่
อ่า...รสชาติลิ้นของเธอช่างมีมนตร์สะกด ล่อหลอกให้ลงลิ้นพัวพัน เกี่ยวกวัดรัดลิ้นเล็ก ต่อให้เธอพยายามถดหนี ฝ่ามือบอบบางสั่นเทาวางแปะอยู่บนอกแน่น หาที่วางไม่เหมาะ ไม่รู้จักเรียนรู้การเคลื่อนไปจุดไหน จึงทำได้แค่แปะนิ่งไว้อยู่อย่างนั้น ไม่อาจขยับเขยื้อน ความร้อนจากปลายลิ้นกำลังลวกลิ้นเล็กของเธอหมดแรงต่อสู้ จึงต้องยอมจำนน ไรอันกำลังสนุกสุดซาบซ่านกับการกัดกินความอ่อนหวานละมุนละไมปลายลิ้น
ความรู้สึกมากมายก่อตัวทั้งๆ ที่เขาไม่เคยบ้าบอแสดงหนังสดต่อหน้าบริวารลูกน้อง หรือใครก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาหมดความอดทน ทั้งจากความดื้อของเธอที่เขาไม่เคยพบเจอ ไม่เคยเจอใครต่อปากต่อคำ เพื่อต่อต้านคำสั่งของเขา ทั้งรสปลายลิ้น รสปากของเธอเร่าร้อนกว่ารสผู้หญิงที่เคยนอนรอเขาบนเตียง
“นายครับ” เสียงใครสักคนขัดจังหวะช่วงเวลาสนุกสนานเพลิดเพลินอิ่มเอมในรสลิ้น
“อะไร” ไรอันตวาดเสียงขุ่น ใครบ้ากล้าขัดอารมณ์ ไม่อยากมีวิญญาณอยู่กับร่างหรือยังไง
“โทรศัพท์จากนายท่านครับ” อาฟางทำตัวไม่ถูก ยืนอยู่ไม่ห่างจากเจ้านายที่กำลังกัดกันอยู่กับสาวแปลกหน้า แม้แต่ชื่อแส้ยังไม่ทราบ เจ้านายก็ดันลากมาด้วย คงเพราะถูกใจกันอยู่ลึกๆ ในใจ สักพักคงได้ถามไถ่ประวัติกันแบบไม่เหลือสิ่งปกปิด อาฟางเชื่อแบบนั้นแปลกใจอยู่อย่าง บ้านหลังนี้เป็นที่ส่วนตัว เจ้านายไม่เคยพาคนอื่นนอกจากคนในแก๊ง หรือในสกุลได้กรำกราย เขาไม่ค่อยไว้ใจผู้หญิงคนนี้ เอกสารของเธอหายจริงหรือเป็นแผนการนางนกต่อเข้ามาในแก๊งเขี้ยวมังกรกันแน่
“บอกพ่อไปสิฉันไม่ว่างกำลังกินข้าว” ดูเขาพูดเข้าสิบรรดาลูกน้องรวมถึงสาวใช้ต่างกลั้นขำ นี่คือการกินข้าวอย่างนั้นหรือ
“นายท่านอยากคุยด้วยครับ” อาฟางไม่ละความตั้งใจ เขาดื้อเพื่อให้เจ้านายคุยกับนายใหญ่ให้ได้ ทางนั้นร้อนใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกชาย หลังจากได้รู้เรื่องที่เกิดกับลูกชาย ตนแจ้งแก่นายท่าน เจ้านายปลอดภัยดีท่านยืนยันจะคุยกับลูกชาย เขาจึงหน้าด้านเข้ามาขัดจังหวะการกินอาหารของเจ้านาย ต่อให้เสี่ยงกับชีวิต แม้เสี่ยงต่อการโดนกระทืบก็ยอม “เดี๋ยวครับนาย” อาฟางทักท้วง
“มีอะไรอีก” ไรอันถามด้วยน้ำเสียงรำคาญเต็มที การโดนลูกน้องคนสนิทขัดขวางเรื่องกำลังสนุก ช่างน่าฆ่าให้ตาย
“ปากเลอะครับ” อาฟางชี้ไปที่ปากเจ้านายเห็นคราบเลอะเอ่ยปากเตือน กลัวภาพลักษณ์ของไรอันไม่ดีในสายตาลูกน้อง ต่อให้โหดเหี้ยม ดุเดือน แข็งกระด้างต่อสายตาทุกคนก็ต้องจัดทรงให้ดูน่าเกรงขามตลอด มีคราวลิปสติกผู้หญิงติดแบบนี้เสียเชิงชะมัด
“เลอะ” ไรอันเลิกคิ้วถาม ยกมือค้างไว้ไม่รู้จะเช็ดตรงไหน ปากเลอะอะไร ชำเลืองมองไปยังหญิงสาวที่ยืนตัวแข็ง หน้าซีดอยู่ใกล้จึงพอเดาออก
“ครับเช็ดหน่อยก็ดี” อาฟางกลั้นขำสุดชีวิต ไม่กล้าหัวเราะ เก็บไว้ไปขำทีหลัง ขืนระเบิดขำตอนนี้เชื่อเงาหัวไม่มี “เลอะอะไร” คนถามคิ้วมุ่นไม่พอใจ มองลูกน้องราวกับจะกระชากมาตบ
“เลอะน้ำลายกับลิปสติกครับ” คนบอกก็บอกซะตรงไม่คิดอ้อมค้อมไปฝั่งเซ็นทรัล วกมาเกาลูนก่อนค่อยบอกก็ไม่ได้
ไรอันรับผ้าเช็ดหน้าสีน้ำตาลมาจากอาฟาง หันมองไปทางลูกน้องคนอื่น ก็พบว่าสายตาพวกนั้นคล้ายมีแสงวิบวับ ต่อให้ก้มหน้าเขาก็มองออก “ใครกล้าขำฉันจะควักลูกตา” เขาขู่แล้วจึงยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดปาก จากนั้นโยนกลับคืนให้อาฟางที่รอรับอยู่แล้วไม่พลาด
“ครับพ่อ” เขาเดินไปคุยสายห่างจากหญิงสาว ไม่กี่นาทีก็วกกลับมาโยนโทรศัพท์คืนอาฟาง ต้องรับให้ได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าโยนอะไรมาก็ตาม
“พาฉันกลับไปส่งที่โรงแรมนะคุณ” หญิงสาวเริ่มการต่อรอง แสดงสีหน้าให้เขาสงสารมากที่สุด
“เธอชื่ออะไร” เขาถามเสียงเข้ม ไม่สนใจคำอ้อนวอนจากเธอ บอกแล้วไงมันกลับไปตอนนี้ไม่ได้ พวกของแก๊งพยัคฆ์ดำมีเต็มพื้นที่ไปหมด ถ้าเขาไม่ตายซะก่อน พวกมันไม่มีวันรามือแน่ๆ ยิ่งตอนนี้ทางแก๊งคู่อริที่คิดฮุบพื้นที่ดูแลในมือแก๊งเขี้ยวมังกร กำลังสถาปนานายใหญ่คนใหม่ มันต้องการสร้างอำนาจเหนือเขา การกำจัดเขาคือความคิดต้นๆ ของพวกมัน โชคร้ายที่พวกมันพลาดครั้งใหญ่ เขาดวงแข็งรอดคมกระสุนของพวกมันมาได้ ได้รับการอารักขาจากบอดี้การ์ดมากฝีมือหูไวตาไวร่างกายว่องไว
“คุณท่าจะเป็นคนหูตึง ฉันบอกว่าต้องการกลับโรงแรม”
“บอกชื่อมาก่อน เดี๋ยวจะพากลับ”
“พากลับจริงๆ ใช่ไหม” คนบ้าฉันไม่อยากอยู่กับคุณเสียเปรียบตลอดเวลา เมื่อกี้คุณเห็นฉันเป็นคนหรือเปล่านึกอยากจูบก็จูบ ต่อหน้าคนตั้งเยอะแยะ หญิงสาวนิ่งยืนมองเขาพร้อมต่อว่าเขาในใจ สายตาจ้องเขม็งที่เขาเขม็ง
“ฉันนางสาววนิดา เลิศสกุลวงศ์ ชื่อเล่น ดอกเหมย เป็นคนไทย มาเที่ยวฮ่องกงเป็นครั้งแรก” บอกชื่อตัวเองเป็นทางการ แถมบอกวัตถุประสงค์การมาเมืองไทยอีกนิดแถมให้
“อยากรู้นิดเดียวบอกซะยืดยาว”
“ตกลงจะพากลับแล้วใช่ไหม”
“คิดว่าไง”
“อ้าว ! ก็คุณบอก”
“บอกแต่ไม่ได้บอกว่าจะพากลับเดี๋ยวนี้ หรือวันนี้ ไปขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง เธอยังกลับตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไม”
“อันตราย อีกอย่างเธอบอกเองนี่ เอกสารกับกระเป๋าเงินหาย ฉันจะให้ลูกน้องไปหาให้ ระหว่างนั้นก็อยู่ที่นี่มันจะปลอดภัยที่สุด”
“ปลอดภัยจริงๆ หรือ” สายตาวาววาบเต็มไปด้วยไอแห่งความหวาดหวั่น เผลอมองริมฝีปากคนตรงหน้า ซ้ำยังกล้าเลื่อนลงไปมองลำคอแกร่งที่มีลูกกระเดือกของเขาอีกด้วย ฉับพลันพวงแก้มเนียนร้อนผ่าว ก้มหน้าหลบซ่อนสายตาเต็มไปด้วยความเอียงอาย เขาทำแบบนี้กับเธอสองครั้งสองครา ซ้ำต่อหน้าคนอื่นโดยไม่คิดเห็นใจเธอบ้าง เกิดมาไม่เคยจูบกับใครแม้แต่นิด เขากล้าทำกับเธออย่างนี้ได้อย่างไร ไอ้คนบ้า...เลวที่สุด
กวางน้อยอย่างเธอปล่อยไปตามลำพัง รับรองฝูงพยัคฆ์ได้งาบกัดกินไม่เหลือซาก กักตัวอยู่ในถ้ำมังกรอย่างนี้นับว่าปลอดภัยหายห่วง กรณีไม่ปลอดภัยตรงมังกรลงมือขย้ำกัดกินซะเอง
“เธอคิดว่าไง ดอกเหมย ชื่อเธอน่ารักสมตัวดีนะ” สายตาเร่าร้อนส่งให้กับหญิงสาว กล่าวชมนิ่งเหมือนไม่มีความรู้สึกคึกคักในคำชม สายตาเร่าร้อนคู่นั้นไม่พ้นสายตาบอดี้การ์ดทั้งสองที่แอบจ้องตาเป็นมัน สายตาแบบนี้เขาไม่เคยเห็นเจ้านายแสดงออกกับใคร ยิ่งคำพูดยั่วเมื่อกี้ รับใช้ไรอันมาได้ยินเป็นบุญหูก็วันนี้ อาฟาง อาเฉา กลั้นยิ้มจนปวดแก้ม