บท
ตั้งค่า

ตอน 2

“เป็นอะไรไปครับ” อาฟางเอี้ยวตัวไปมองตุ๊กตาตัวสวยที่นอนอยู่บนตักเจ้านาย ดูเหมือนสวยน่ารักกว่าตุ๊กตาตัวอื่นของเจ้านายซะด้วย

“เป็นลม” ไรอัน หยวน ตอบสั้นๆ ชำเลืองมองคนหนอนหนุนอยู่บนตักด้วยสายตานิ่ง ทว่าหัวใจกลับสั่นไหว เมื่อสายตาลดลงไปจดจ้องมองตรงกลีบปากเผยอด้วยอาการเผลอ ใจเขากลับสั่นอย่างแปลกประหลาด

“สงสัยตกใจที่เจอห่ากระสุน พาไปปลอบใจสิครับ” อาเฉาแนะพร้อมกับยิ้มกริ่มแบบผู้ชาย

“เอ่อ...คงจะอย่างนั้นมั้ง” ไม่รู้จะทำอะไรแล้วนี่ ในเมื่อเธอหลับสนิทซะบอกทางกลับบ้านไม่ได้ เขาจำใจหรือไม่จำใจ เรียกว่าเต็มใจถึงจะถูกในการพากลับไปที่บ้านด้วย

“แก๊งพยัคฆ์ดำ มันถือโอกาสหลังวันตรุษ ส่งคนมาปลิดชีพฉัน มันคิดหรือว่าคนอย่างไรอัน หยวน จะต้องนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่นิ่งๆ เป็นหมูให้มันเชือด งานนี้ฉันคงต้องหาทางไปเยี่ยมนายใหม่ของพวกมันซะบ้าง” มันจะได้รู้จักคนอย่างไรอัน หยวน ดีพอ ไรอันเชื่อว่าเป็นการสั่งการของนายคนใหม่ที่อยากเป็นใหญ่สูงสุด

“ไปเมื่อไหร่สั่งมาได้เลยนะครับเจ้านาย ทุกคนพร้อมรับใช้” สองลูกน้องพร้อมรับใช้ถวายหัวกับเจ้านายอยู่ทุกโอกาส

ฉันจะทำอย่างไรกับเธอดีนะตุ๊กตา ทำไมเขาไม่อยากปล่อยเธอ ทำไมเขาถึงได้ร้อนซู่ซ่าตอนจูบปากเล็กๆ นั้นด้วย ไรอันเผลอไล้นิ้วไปตรงกลีบปากหวานซาบซ่าน

หญิงสาวนอนนิ่งเป็นลมเพราะโดนจู่โจมด้วยจูบพายุเฮอลิเครน ขยับเปลือกตาปริบๆ รู้สึกตัว มีบางอย่างแตะที่พวงแก้ม ขยับไปตรงกลีบปาก ความคิดลางเลือนเรื่องจูบกับคนแปลกหน้ากลับเข้ามาในมโนสำนึก คราวนี้เธอจึงรีบลืมตาดีดตัวลุกขึ้น พบว่าตรงหน้า ด้านข้างด้วย มีผู้ชายถึงสามคน

“ตื่นแล้วหรือ” เขาถามเสียงเรียบด้วยภาษาจีนกวางตุ้ง

“ตื่น...ฉันเป็นอะไรไป มาหลับอะไรเวลาแบบนี้ แล้วนี่มันอะไร ฉันอยู่ที่ไหน” หญิงสาวตอบโต้เป็นภาษาจีน เธอนั่งอยู่ในรถ ที่มีผู้ชายสามคนหรือว่าถูกพาตัวไปขาย หรือถูกจับตัวไปทำอะไรกันแน่ “พวกคุณเป็นใคร จับตัวฉันมาทำไม” คราวนี้ดอกเหมยไม่อาจอยู่นิ่ง หญิงสาวตื่นเต้นตกใจเหมือนกำลังจะสิ้นสติไปอีกรอบ การมาเที่ยวฮ่องกงวันแรก แทนที่จะได้เจอกับเรื่องสนุกกลับต้องเผชิญกับความเป็นความตาย ความตื่นเต้นควรเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายรับตรุษจีนกันแน่

เจอแบบนี้ควรอยู่เที่ยวเมืองไทยกับครอบครัวน่าจะดีกว่า กระแดะอยากมาเที่ยวฮ่องกง แค่ได้อั่งเปาเป็นเงินขวัญถุงจากอาม่าหนึ่งแสนบาทพร้อมกับตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฮ่องกง หญิงสาวแสดงความตื่นเต้นกระโจนตะครุบหน้ามืดตามัว

“เฮงรับปีใหม่แล้วสิกู” ดอกเหมยบ่นพูดกับตัวเองในใจ นอกจากมองคนในรถ หญิงสาวตวัดสายตามองบรรยากาศนอกรถด้วย เธอกำลังอยู่บนถนนอะไร มุ่งตรงไปทางไหน ยิ่งมองยิ่งมืดแปดด้านไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ล้วงลงไปในกระเป๋า ตั้งใจโทร. หาทางบ้านทว่า...ตาโตด้วยความตกใจ

“โทรศัพท์ของฉันหาย...หาย...แม่เจ้า” หญิงสาวโวยวายในรถ นอกจากโวยที่ตัวเองถูกจับตัวมา ยังโวยที่ของหาย ไม่ใช่แค่โทรศัพท์ กระเป๋าเงิน พาสปอร์ตก็หายไปด้วย ของหายทั้งกระเป๋า “พวกคุณเอาของฉันไปใช่ไหม เอาคืนมาเดี๋ยวนี้ฉันจะกลับบ้าน”

“เธอมาจากไหน” ไรอันถามตุ๊กตาด้วยท่าทีใจเย็นไม่สนคำถาม มาพร้อมกับคำกล่าวหาจากเธอ

ดอกเหมยเงียบไม่อ้าปากตอบคำถามชายที่นั่งไม่ห่างจากเธอ มาดเขาเป็นเจ้าพ่อมากคำพูดสั้นห้วน สีหน้าตึงท่าทางดูเหี้ยมโหด ดูเขาไม่ได้สนใจความเดือดร้อนของเธอ ทว่า...ในจังหวะต่อว่าเขาอยู่ในใจเธอกลับเผลอมองริมฝีปากบางช่างได้รูปพอเหมาะพอเจาะของเขาราวกับถูกสะกด

“ว่าไงเธอเป็นใครมาจากไหน” เขาถามเพื่ออยากรู้ที่มาที่ไป ครั้นให้ส่งกลับเขาไม่ได้คิดในหัว

“เป็นใครก็ช่าง ปล่อยฉันลงจากรถเดี๋ยวนี้” เธอไม่สนใจตอบคำถามผู้ชายมาดอย่างกับเจ้าพ่อ หรือพวกยากุซ่า มาเฟียขาโหดแต่อย่างใด

“ฉันว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่เป็นนักท่องเที่ยวใช่ไหม” สำนวนการพูดภาษาจีนชัดแจ๋วเข้าใจง่าย ดูยังไงก็ไม่น่าใช่คนฮ่องกงลักษณะไม่ให้ เชื่อว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่พูดจีนได้ดีอย่างกับเจ้าของภาษาเท่านั้นเอง

“ปล่อยฉันไป” เธอยืนยันกับเขาแบบนั้น “เอกสารฉันหายไปจากกระเป๋า แล้วยังโดนพวกคุณลากมา เชื่อว่าหน้าอย่างพวกคุณไม่ใช่คนดี”

“หึ...เอกสารหาย อ้อ...อย่างนี้ก็เป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ สิ”

“บอกแล้วไง เป็นอะไรก็เรื่องของฉัน ปล่อยฉันลงจากรถเดี๋ยวนี้”

“เสียใจ ถ้าฉันปล่อยเธอคนพวกนั้นไม่ปล่อยเธอแน่”

“หมายความว่ายังไง ฉัน...เกี่ยวอะไรกับพวกคุณฉันมาเที่ยว”

“ช่วยไม่ได้เกี่ยวไปแล้ว” เรียกว่าโชคชะตานำพา ทำให้เขาลากเธอติดมาด้วย ดังนั้นในเมื่อโชคชะตาเล่นงานแบบนี้ ก็ต้องรับผลของโชคชะตาไป “เธอต้องกลับไปพร้อมกับฉัน”

“ไม่ ฉันไม่ไป พวกคุณเป็นใครฉันก็ไม่รู้จัก ทางที่ดีปล่อยฉันลง ฉันหาทางกลับที่พักเองได้”

“อยู่เฉยๆ จะทำให้เธอปลอดภัย ถ้าอยากมีลมหายใจไปถึงพรุ่งนี้” เขาเตือนแกมขู่

“แก๊งลักพาตัวหรือ พวกคุณต้องเข้าใจผิดจับคนผิดแน่ๆ ฉันเป็นนักท่องเที่ยวมาจากเมืองไทย ปล่อยฉันสิปล่อย” เธอวอนขอระคนหวาดกลัว ถ้าเป็นพวกแก๊งมาเฟียลักพาตัวผู้หญิงไปขาย เธอควรทำอย่างไร ควรหาทางหนีอย่างไร

“เสียใจเธอกลายเป็นผู้ร่วมชะตากรรมกับฉันแล้ว ฉันคงปล่อยเธอไปไม่ได้” เขาขู่ไปอย่างนั้นเรื่องพาเธอไปส่งยังที่พักของเธอเป็นเรื่องง่าย แต่จะสามารถรอดหูรอดตาฝ่ายนั้นหรือเปล่า คงเป็นเรื่องยาก คนของไอ้แดเนียล หวัง มีอยู่ทั่วทุกที่เกิดการปะทะกันแบบนี้ รับรองไอ้แดเนียลไม่สงบแน่ “ทางที่ดีเธออยู่แบบสงบปากดีกว่าการโวยวายไรสาระ” เขาออกคำสั่งสีหน้าตึงเย็นชาพยายามดึงเธอเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากที่สุด เพื่อจะได้รั้งเธอให้อยู่กับเขา เชื่อว่าตัวเองไร้สาระ

“เอกสารฉันหาย ทั้งกระเป๋าเงิน พาสปอร์ตแบบนี้ฉันจะกลับประเทศยังไง” ไอ้หน้าหล่อปากเก่งควรรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำกับเธอ เงินไม่มีเอกสารเดินทางไม่มี ไม่เท่ากับเป็นผู้อพยพรี้ภัยอย่างนั้นหรือ ไม่ต่างกับต่างด้าวแรงงานเถื่อนละสิ

“อาเฉาขับไปที่บ้านพักบนฝั่งเกาลูน ฉันไม่อยากให้เอิกเกริก” ไรอันสั่งลูกน้องเขินกลับไปบ้านพ่อได้เป็นเรื่องใหญ่แน่

“ได้ครับเจ้านาย” อาเฉารับปากแข็งขัน เขาจึงกลับรถตรงแยกหน้าทันฉับพลัน รถแล่นมาไม่นานนักก็ข้ามสะพานคอนกรีตยาวเหยียดข้ามแม่น้ำจูเจียง ไปถึงเกาะส่วนตัวกับคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเกาะ

“นี่คุณฟังฉันอยู่ไหม เอกสารฉันหาย” หญิงสาวบอกตัวเองให้โวยวาย อย่ายอมให้เขาพาตัวเธอไปง่ายๆ ตอนนี้ห่างจากโรงแรมมาไม่รู้ตรงส่วนไหนของฮ่องกง ยืนชมความสวนงามของแม่น้ำจูเจียงอยู่ดีๆ ก็ต้องมาผจญกับพายุห่ากระสุนการไล่ล่าที่เธอไม่ได้ไม่ส่วนรู้เห็น

“อยู่กับฉันไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารอะไร” แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ต้องใส่ ถ้าเขาถูกใจเล่นกันทั้งวันทั้งคืนไม่เบื่อ แต่ถ้าไม่ถูกใจครั้งเดียวก็พอ แล้วนี่เขาดันถูกใจรสจูบเงอะงะของเธออย่างช่วยไม่ได้ เหตุผลง่ายนิดเดียวเก็บอยู่ในใจเขาพาเธอมาด้วยก็เพราะติดใจเท่านั้นไม่มีอันตรายอะไรพาดเกี่ยวถึงเธออย่างที่เขาอ้าง

“ไม่อยู่ ฉันไม่อยู่ ฉันจะกลับโรงแรม พาฉันย้อนกลับไปส่งที่โรงแรม” รถขับมาตามสะพานข้ามไปฝั่งเกาลูน บ้าแล้วบ้าที่สุดเธอกำลังออกนอกเขตที่ตัวเองพักไกลออกไปทุกที เธอพักอยู่ย่านเซ็นทรัล เป็นศูนย์กลางการค้าของฮ่องกง แต่ตอนนี้กำลังถูกพาไปอีกฝั่งหนึ่ง ตายๆ ห่างจากจิมซาจุ่ยมาไกลแล้วทำไงดี สาวไทยอยู่ไม่สุขจิตใจไม่สู้ดี ไหนเอกสารก็หาย กระเป๋าเงิน ทุกอย่างหาย ซ้ำยังถูกกักขังตัวไว้คราวนี้จะทำอย่างไร จะรอดกลับไปหาอาม่า มาม้า อาเตี่ยได้ไหม พ่อแก้วแม่แก้วลูกไม่น่าเห็นแก่อั่งเปาพร้อมกับตั๋วเครื่องบินของอาม่าเลย

“คงไม่ได้ ตอนนี้เธอตกอยู่ในอันตราย” เขาตอบเสียงเย็น เหมือนกับการนั่งกินติ่มซำในร้านหรู

“ทำไมฉันตกอยู่ในอันตราย ในเมื่อฉันมาเที่ยวไม่เคยมีศัตรูที่ไหน” ศัตรูของเธอคือเขาคนหน้าหล่อนิสัยไม่ดีนั่งอยู่ข้างๆ ดูเขาสิหน้าตาไม่ทุกข์ไม่ร้อน ทั้งๆ ที่เธอด่าเขาปาวๆ

“ฉันมี” เขาตอบเสียงทุ้มไม่ยี่หระหญิงสาวแต่อย่างใด

“มี...หรือไม่มีนั่นมันเรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับฉัน” เธออยากหนีไปให้ไกลจากเขา อยากกลับที่พัก อยากเที่ยวอย่างที่ตั้งใจไว้ ที่สำคัญอาม่า มาม้า ฝากซื้อของเพียบเลย ซ้ำเธอยังไม่ได้เที่ยวที่ไหนเป็นกิจจะลักษณะ เพิ่งย่างก้าวออกจากโรงแรมไปยืนชมแม่น้ำ โปรแกรมการเที่ยวยังไม่เริ่มต้นด้วยซ้ำ ผีห่าซาตานที่ไหนดลให้เธอมาเจอเรื่องแบบนี้

“เกี่ยว เธอติดมากับฉันพวกมันก็ต้องจำเธอได้ ถ้ามันต้องการเอาคืนฉันมันต้องไปหาเธอ จับเธอเป็นตัวประกันเพื่อแลกเปลี่ยนกับฉัน แต่ก่อนที่พวกมันจะแลกเปลี่ยนตัวเธอกับฉัน มันก็คงทำ...” เขามองเรือนร่างอ่อนหวานของเธอลามเลียด้วยสายตาหื่นระยำ “ฉะนั้นถ้าอยากอยู่แบบปลอดภัย กลับบ้านโดยไม่มีผัวเป็นฝูง เชื่อฉันอยู่กับฉันจนกว่าเรื่องสงบ”

“โอ๊ย...มั่วแล้ว” ใครบ้ายอมติดอยู่กับผู้ชายฉกฉวยเอาจูบแรกจากเธอไป แฟนก็ไม่เชิงผัวก็ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น ทำไมต้องมาผจญห่ากระสุนกับเขาด้วย ซวย...แถวบ้านเรียกซวย ภาษาจีนกวางตุ้งถูกงัดออกมาใช่ต่อรอง เจรจากับเขาจนแทบหาศัพท์มาพูดคุยไม่ทันอยู่แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel