บท
ตั้งค่า

EPISODE 01 / 1

สามปีต่อมา...

ปัง!!!

เสียงประทัดดังตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันโห่ ฉันที่กำลังนอนฝันหวานว่าได้ลูบไล้แผงอกหนัดแน่นอันเป็นลอนคลื่นของพี่คิมหันต์เลยสะดุ้งตื่นจนได้

“หนวกหูจัง” เอาหมอนปิดหูก็แล้ว แต่เสียงประทัดจากบ้านอื่น ๆ ก็ยังดังตามมาติด ๆ

ก๊อก ๆ เสียงประตูห้องนอนถูกเคาะเหมือนจะพังเข้ามายิ่งทำให้ฉันหัวเสีย

“ยัยแก้ว! ออกมาช่วยแม่เตรียมของไหว้หน่อย” แม่ตะโกนแบบนี้คนบ้านข้าง ๆ ได้ตื่นกันพอดี

“ค่าาาา ขอห้านาทีนะแม่” ลากเสียงยานคางตอบท่าน ค่อย ๆ แกะตัวขี้เกียจออกจากหลังเพราะมันเกาะหนึบจนไม่อยากลุกจากที่นอน

“หาว~” มองนาฬิกาตรงหัวเตียงเพิ่งจะตีห้าสิบนาที ทำไมบ้านอื่น ๆ เขาถึงไหว้บรรพบุรุษเช้าแบบนี้นะ

“โอ๊ย!” เนี่ย พอตื่นเช้าตายังถ่างไม่เต็มที่เลยเตะข้าวของที่เก็บไม่เป็นที่เป็นทางจนเกือบเล็บแตก

“เดี๋ยวได้ไปนอนในถังขยะก่อนส่งคืนเจ้าของหรอก”

โทษปี่โทษกลองไปหมดเพราะถูกปลุกทั้ง ๆ ที่กำลังฝันดี ก้มลงไปหยิบเจ้ารถบังคับคันใหญ่ที่เมื่อวานเด็กโข่งข้างบ้านเอามาเล่นแล้วลืมทิ้งไว้ เดือดร้อนให้ฉันเอามาเก็บไว้ในห้องนอนจนตื่นมาเตะเข้าให้

ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวราว ๆ สิบนาทีเพราะถ้าขืนช้ากว่านี้มีหวังคุณนายรสสุคนธ์ได้ขึ้นมาแหกอกฉันอีกรอบแน่

“เอาผลไม้ไปล้าง จัดใส่จานแล้วเตรียมไหว้ศาลพระภูมิ ศาลตายาย ส่วนนี่เนื้อสัตว์ ขนมหวาน แม่จัดไว้แล้วเดี๋ยวสักเจ็ดโมงเอาไปวางบนโต๊ะสีแดงที่เราตั้งไว้เพื่อไหว้เทพเจ้ากับบรรพบุรุษเอาโชคเอาลาภเข้าบ้าน เข้าใจไหม” แม่พูดย้ำเหมือนปีนี้เป็นปีแรกที่เราจัดงานตรุษจีนงั้นแหละ

“ค่าาาา” ตอบทั้งที่ยังหาวหวอด ๆ

“สำรวมบ้างเถอะลูก นี่ถ้าพ่อเราไม่ติดงานต่างจังหวัดคงช่วยแม่ได้เยอะกว่านี้”

โห แม่พูดเหมือนมีลูกไม่เอาอ่าวอะ

เอ๊ะ! หรือจะจริง?

ช่างเถอะ รีบ ๆ ทำตามที่ท่านสั่งดีกว่า เดี๋ยวได้โดนเพ่นกบาลอีกรอบ โชคลาภได้หายหมดทั้งบ้านแน่ทีนี้

“อ๊ะ นั่นป้าโบนัสนี่”

พอเดินออกมาล้างผลไม้ที่ข้างบ้านเพราะไม่อยากยืนแออัดกับแม่ที่ครัวด้านใน สายตาก็มองเห็นป้าข้างบ้านที่มีลูกชายโคตรหล่อกำลังจัดพิธีไหว้บรรพบุรุษเหมือนกันกับบ้านฉัน

“อรุณสวัสดิ์ค่ะป้าโบนัส” เดินไปเกาะรั้วกล่าวทักทายผู้ใหญ่ที่มีอายุแล้วทว่าความสวยท่านยังไม่ลดลงเลย

“อ้าว อรุณสวัสดิ์จ้าหนูแก้วตา ขยันจังเลย ตื่นมาช่วยแม่จัดของไหว้ด้วย” อยากจะหัวเราะแห้ง ๆ ตอบป้าแกไปว่า ‘หนูจำใจทำค่ะ’ แต่แบบนั้นไม่ดีแน่ เราต้องเอาใจว่าที่แม่สามีในอนาคต (มโนเก่งก็ฉันนี่แหละ)

“แล้วนี่ทำไมคุณป้าอยู่คนเดียวเหรอคะ” แอบมองรอบบริเวณบ้านแล้วไม่เห็นมีใครนอกจากป้าโบนัสคนสวยที่กำลังตั้งโต๊ะจัดกระถางธูปอยู่คนเดียว

“สองพ่อลูกอยู่หลังบ้านนู่นจ้ะ” อ้อ ที่แท้ก็อยู่หลังบ้านกันนี่เอง

“เดี๋ยววันนี้ถ้าที่บ้านทำอะไรเสร็จแล้ว มาที่บ้านป้าหน่อยนะ”

ไม่ต้องบอกว่าให้ฉันไปทำอะไรเพราะนี่เป็นประเพณีของบ้านใกล้เรือนเคียงที่ทำทุกปีอยู่แล้ว

“ได้เลยค่ะ” ตอบด้วยรอยยิ้มกว้างจนอีกคนยิ้มรับ

“งั้นป้าไปดูสองพ่อลูกที่หลังบ้านก่อนนะ เดี๋ยวเผลอทำอะไรหล่นแตกจะเป็นลางไม่ดีเอา”

“ค่ะ”

ป้าโบนัสเดินไปหลังบ้านแล้ว ส่วนฉันยังคงทำตัวเป็นยีราฟ ชะเง้อคอมองไปด้านหลังบ้านของพวกท่าน หวังว่าจะเห็นหน้าพี่คิมหันต์จะได้มีแรงทำงาน

“ยัยแก้ว! ผลไม้เปื่อยหมดแล้วมั้ง ล้างทีเป็นชั่วโมง” เสียงแม่ดึงฉันให้คอหดเหลือเท่าเก่า หันมารีบลงมือล้างผลไม้เก้าอย่างที่ยังอยู่ในถุงเหมือนเดิม

“ใกล้เสร็จแล้วแม่”

ต้องตอบแบบนี้ไม่งั้นคุณนายรสสุคนธ์ได้เดินมาดูผลงานลูกสาวแน่ ๆ

ตอนนี้เป็นเวลาใกล้จะเที่ยงแล้ว พิธีไหว้เทพเจ้าไหว้บรรพบุรุษบ้านฉันเสร็จเรียบร้อยเพราะได้เตี่ยกลับมาช่วยงานแม่ทัน

“อาหนูแก้วเอากระดาษเงินกระดาษทองไปเผาให้อากงอาม่าหน่อยสิลูก”

เตี่ยเดินถือถังที่ใช้เป็นที่เผากระดาษเงินกระดาษทองมาให้ฉัน ฉันรีบเดินไปรับมาถือไว้ก่อนจะเดินไปที่หน้าบ้าน วางถังที่ว่าไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ถูกปลูกไว้ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตามที่เตี่ยและแม่เล่าให้ฟัง

“อากงขา อาม่าขา วันนี้แก้วตามาเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้อากงอาม่าใช้บนสวรรค์นะคะ อยากได้อะไรก็ไปซื้อเอานะ ถ้าถูกใจช่วยหลานสาวคนนี้ให้เจอเนื้อคู่ในเร็ววันได้ยิ่งดีค่ะ” ปากฉันก็ไวแบบนี้แหละ นึกอะไรได้ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย

ฟิ้ว~

จู่ ๆ ลมจากไหนก็ไม่รู้พัดมาลูกใหญ่ทำเอากระดาษเงินกระดาษทองที่วางไว้ปลิวล่องลอยเต็มสนามหน้าบ้าน

“ลมมาจากไหนเนี่ย!” ปากบ่น ขารีบวิ่งไปเก็บกระดาษพวกนั้นที่ปลิวทั่วสนามหญ้าหน้าบ้าน

“วันนี้วันไหว้ ของกินน่าจะเยอะทำไมมาหากบหาเขียดกินตรงนี้ล่ะ”

หูย ดูปากอีพี่คิมหันต์สิ พูดจาน่าตบด้วยปากจริง ๆ

“หนูไม่นิยมกินกบกินเขียด แต่ถ้าพี่คิมชอบ หนูยอมกินเป็นเพื่อนก็ได้นะคะ” หยอดวันละนิดจิตแจ่มใส

คนตัวโตที่เกาะรั้วหน้าบ้านฉันอยู่ค่อย ๆ ผลักบานประตูไม้สีชมพูเข้ามา เพราะบ้านเราสนิทกันมาก เข้านอกออกในได้โดยที่ไม่ต้องเรียกให้ใครมาเปิดให้ด้วยซ้ำ

“เขาให้เผาให้บรรพบุรุษ ไม่ได้ให้เอามาโปรยเล่นแบบนี้”

คนตัวโตที่วันนี้สวมเสื้อยืดสีแดงต้อนรับเทศกาลกับกางเกงยีนเซอร์ ๆ ที่ขาดตรงเข่าเดินมาช่วยก้มลงเก็บกระดาษที่กระจัดกระจายเต็มสนามหญ้า

“ใครโปรยเล่น เพราะลมบ้านั่นแหละจู่ ๆ ก็พัดมา” ฉันโทษลมโทษฟ้ามั่วไปหมด

“ตัวเองไม่รู้จักเก็บดี ๆ เอง” ก็จริงแหละ แต่พอเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ได้ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา ผมยาวละต้นคอ ผิวขาวราวหยวกกล้วยมาช่วยเก็บข้าง ๆ

“โอ๊ย!”

“เป็นไรอีก” พี่คิมหันต์รีบหันหน้ามาถามหลังจากได้ยินเสียงร้องของฉัน

“พี่คิม เลือด!” จากที่หายใจปกติ ตอนนี้เหมือนแน่นหน้าอกใกล้ขาดอากาศหายใจเต็มที

“เฮ้ย! ทำอีท่าไหนเนี่ย?” ตาฉันเริ่มพร่ามัวแต่พอมองเห็นราง ๆ ว่าคนตัวโตกำลังวิ่งมาทางนี้และรับร่างฉันได้ทัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel