บทย่อ
พี่คิมหันต์ คือพี่ชายข้างบ้านที่หุ่นล่ำ กล้ามแน่น แถมยังเป็นพวกขี้อ่อยแบบไม่รู้ตัว ยิ่งโตเป็นหนุ่มพี่เขายิ่งมีเสน่ห์ ทำให้แก้วตาคนนี้เผลอมีใจให้อย่างไม่รู้ตัว ภารกิจตามจีบ ตามอ่อย ตามรุกหนุ่มข้างบ้านจึงบังเกิดขึ้น "แก้วชอบพี่" คนถูกบอกรักไม่ได้ดูตกอกตกใจหรืออะไรเลย ดวงตาเขาไม่มีความไหวติงใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างดูปกติจนฉันใจหาย ก่อนจะได้ยินเสียงขำเบา ๆ ดังลอดออกมา "พูดจริงพูดเล่น?" ฉันน่ะพูดจริง แต่คนที่ทำเล่นคือเขาต่างหาก "พูดจริงดิ แก้วอุตส่าห์รีดยางอายพูดออกมาเลยนะ" คนตรงหน้าจ้องฉันอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ย "ฟังนะเตี้ย" อืม ตั้งใจฟังอยู่ รีบ ๆ ตอบคำถามเถอะ ลุ้นจนฉี่จะราดแล้วเนี่ย! "ไว้เราสูงเท่านี้พี่ก่อนค่อยมาบอกรักใหม่นะ" มือข้างหนึ่งเขาวัดส่วนสูงจากศีรษะฉันขึ้นไปหลายสิบเซนฯ ให้มันอยู่ตรงช่วงไหล่เขาพอดี "พี่คิมสูงเท่าไหร่" "ร้อยเจ็ดสิบห้า" อืม... ห่างกันเกือบยี่สิบเซนฯ ได้ "ถ้าแก้วสูงเท่าไหล่พี่คิมแล้วจะได้คำตอบใช่ปะ?" ฉันถามอย่างมีความหวัง "รอสูงก่อนเถอะ ค่อยมาทวงคำตอบจากพี่" "จำคำพูดตัวเองให้ดี ๆ ละ" ฉันยิ้มแป้นให้คนตรงหน้าจนถูกบีบจมูกอย่างมันเขี้ยว
Intro
“เตี้ย! ไปเรียนกัน”
เสียงทุ้มของพี่ชายข้างบ้านยืนเกาะรั้วไม้เรียกฉัน
“ใครเตี้ย เรียกดี ๆ นะ” รีบสวมรองเท้านักเรียนอีกข้างด้วยท่ากระโดดเหยง ๆ แล้ววิ่งออกมาหาหนุ่มหล่อหน้าตาโคตรดีแม้มองมาแต่ไกล
“สูงแค่นี้ไม่เรียกเตี้ยจะเรียกอะไร”
“เขาเรียกคนตัวเล็กค่ะ” ฉันบุ้ยปากใส่ ก่อนจะเปิดประตูรั้วออกมายืนวัดส่วนสูงกับอีกคน
เฮ้อ... อนาจใจแท้ พอมายืนเทียบเคียงกันแล้ว เหมือนเสาไฟฟ้ากับหลักกิโลเมตรยังไงก็ไม่รู้
“แก้ว! ลืมแฟ้มไหมลูก” เสียงแม่ตะโกนเรียกจากข้างในบ้าน ฉันสำรวจตัวเองก่อนจะพบว่าลืมแฟ้มใส่งานที่ต้องส่งวันนี้จริง ๆ
“ไอ้พี่คิม รอแป๊บนะ” บอกอีกคนเสร็จก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน
“วันหลังดูให้ดี ๆ ก่อนออกจากบ้านเข้าใจไหม หืม?”
“ค่าาาา คุณแม่”
ฉันฉีกยิ้มสวยให้คนเป็นแม่ที่ส่ายหน้าเหมือนเอือมระอาลูกสาวคนนี้
“แก้วไปก่อนนะคะ พี่คิมรอนานแล้ว” ยกมือไหว้ผู้เป็นมารดาก่อนจะรีบวิ่งด้วยช่วงขาสั้น ๆ มาหาหนุ่มหล่อที่นั่งคร่อมช็อปเปอร์คู่ใจรอฉันเรียบร้อยแล้ว
“ขึ้นแล้วนะ” มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบรวบชายกระโปรงหน้าหลังเข้าด้วยกัน เหยียบขาเหยียบแล้วก้าวขาพาดขึ้นคร่อมเบาะซ้อนทันที
“นั่งให้เป็นผู้หญิงกับเขาบ้างเถอะแม่คุณ” พี่คิมหันต์สุดหล่อบ่นกระปอด กระแปด แต่ฉันไม่สนใจหรอกในเมื่อนั่งท่านี้แล้วได้แต๊ะอั๋งเขาน่ะ
หมับ!
รีบสวมกอดคนขับให้มั่นเมื่อพี่คิมติดเครื่องยนต์แล้ว
“สวมหมวกก่อน”
ฉันส่ายหน้าทั้ง ๆ ที่ใบหน้าแนบแผ่นหลังแกอยู่
“โรงเรียนอยู่แค่ซอยหน้าเอง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ถ้าสวมหมวกกันน็อกก็อดได้สูดกลิ่นกายหอม ๆ ของพี่เขาน่ะสิ แก้วตาไม่ยอมเสียโอกาสนี้หรอก
“ประมาท” อีกคนว่าให้ แต่ก็ยอมเคลื่อนตัวรถสองล้อนี้ไปข้างหน้าด้วยระดับความเร็วแบบพอดี
“อีเตี้ย!”
มาถึงโรงเรียนก็เจอเพื่อนสนิทกวักมือเรียก
“อะไรยัยปอ” แขนฉันถูกปอปลารั้งให้เซถลาจะไปทางด้านหลังต้นไทรต้นใหญ่ เพื่อนรักเพื่อนชี้ให้ฉันดูผู้หญิงกับผู้ชายคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเพราะฉันเพิ่งลงจากรถมอเตอร์ไซค์พี่เขาเมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่ผ่านมา
“แกได้ยินปะ?” ยัยปอปลาถามขึ้น ส่วนฉันมองหน้านางก่อนตอบ
“แกไม่ได้ยินแล้วฉันจะได้ยินไง?” ถามไม่คิดเลยคุณเพื่อน ตรงที่เรายืนแอบดูพี่คิมหันต์กับเพื่อนผู้หญิงยืนคุยกันมันไกลกันเกือบยี่สิบเมตร
“งั้นเขยิบไปตรงนู้นไหม” ปอปลาสะกิดให้ขยับไปที่พุ่มต้นเข็ม เราสองคนย่องเหมือนโจรย่องเบา แอบเข้าไปฟังคนสองคนคุยกันเงียบ ๆ
“วาเลนไทน์ปีนี้คิมอยากได้ช็อกโกแลตแบบไหนเหรอ” เสียงพี่ผู้หญิงที่ฉันคุ้นหน้าดีเพราะเธออยู่ห้องเดียวกับพี่คิม แถมยังอยู่บ้านถัดพวกเราไปแค่สามหลัง
เธอชื่อพี่กุหลาบ สวย หุ่นดี มีมารยาทเป็นที่หมายปองของผู้ชายในโรงเรียน
“อีเตี้ย สงสัยเป้าหมายมึงจะโดนพุ่งชนก่อนแล้วละ” ก่อนจะเกลียดคนอื่น ฉันก็หมั่นไส้เพื่อนข้าง ๆ ก่อนได้ไหมอะ รู้ทั้งรู้ว่าฉันชอบพี่คิมหันต์มากแค่ไหนนางยังมาจี้ใจดำฉันอีก
“ยังไงก็ได้” เสียงพี่คิมหันต์ตอบเพื่อนเขา
แบบนี้หมายความว่าไม่ปฏิเสธน้ำใจพี่กุหลาบเลยสินะ
แก้วตางอนแล้ว!
“อ้าวเตี้ย! จะไปไหนอะ”
ทนฟังต่อไม่ไหวเลยเดินถอยออกมาจากตรงนั้น ป่านนี้พวกเขาคงรู้แล้วว่าพวกเราแอบฟัง ในเมื่อยัยปอปลาตะโกนเรียกฉันดังลั่นขนาดนั้น
“ทำไมวันนี้ไม่รอพี่?”
เสียงทุ้มตะโกนถามฉันผ่านรั้วไม้ข้างบ้าน ฉันทำหูทวนลมไม่สนใจยืนรดน้ำต้นไม้ต่อ
“ถามไม่ตอบ” ได้ยินเหมือนเสียงอะไรหล่นดังตุ้บ ตามมาด้วยเสียงเดินสวบสาบเพราะเหยียบใบไม้
โป๊ก!
“โอ้ย!” ฉันยกมือลูบหัวป้อย ๆ อมลมแก้มพองหันไปเอาเรื่องคนที่เพิ่งเขกมะเหงกลงกลางกบาลฉัน
“เล่นตัว ถามไม่ตอบ” พี่คิมหันต์เลิกคิ้วยียวนที่ฉันทำเมินไม่คุยด้วย
“ใครจะปล่อยตัวเหมือนคนแถวนี้ล่ะ!” ประชดเสียเลย
“ใครปล่อยตัว น้อย ๆ หน่อย อย่าพูดจาแก่แดด”
อีพี่คิมบ้า! แค่ประชดเบา ๆ มาหาว่าฉันแก่แดดเสียงั้น
“แล้วทำไมวันนี้ไม่รอ”
ปกติเราจะไปเรียนและเลิกเรียนพร้อมกัน แต่เพราะวันนี้อารมณ์ไม่ดีตั้งแต่พี่คิมไม่ปฏิเสธคำถามพี่กุหลาบเลยแอบกลับมาก่อน
“อยากเดินออกกำลังกายลดไขมันในตัว”
“แห้งขนาดนี้ยังจะมีไขมันอีก” ขึงตาดุใส่คนขี้ประชดเสียเลย
“ตกลงหนีกลับก่อนทำไม” เขายังถามประโยคเดิมซ้ำ
“ก็บอกไปแล้ว”
“เตี้ยอย่าริอ่านเป็นคนขี้โกหก” คำก็เตี้ย สองคำก็เตี้ย อย่าให้ฉันจีบติดเถอะพี่ได้มีแฟนเตี้ยไปตลอดชีวิตแน่!
“ตกลงเป็นอะไร หืม?” พออีกคนทำเสียงหล่อใส่หน่อยหัวใจฉันก็อ่อนยวบทันที
“ใกล้วาเลนไทน์แล้ว พี่คิมอยากได้อะไรพิเศษไหมอะ” ลองใช้คำถามเดียวกับพี่กุหลาบดูหน่อย อยากรู้คำตอบอะ
“นั่นมันวันเกิดเราด้วยไม่ใช่ไง”
ใช่ ฉันเกิดวันแห่งเทศกาลความรักอย่างที่พี่คิมบอกนั่นแหละ
“ตอบคำถามแก้วก่อนสิ” คนถูกคาดคั้นคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ
“ไม่เอาอะ วันนั้นพี่มีคนให้ของขวัญเยอะแล้ว” เหมือนหัวใจจะหยุดเต้นกับคำตอบนั้น ทีตอนพี่กุหลาบถามนะอะไรก็ได้ แล้วแต่เธอเลย เสียงเล็กเสียงหล่อ แต่พอน้องสาวคนนี้ถามหน่อยกลับไม่ไยดีที่จะตอบให้สบายใจ
“พี่คิม” เหมือนตอนนี้ความอดทนฉันหมดลงจึงเรียกเขาเสียงแข็ง
“ว่า?” คิ้วดกดำเลิกขึ้นจ้องตาฉันเหมือนรอฟังต่อ
“แก้วชอบพี่”
คนถูกบอกรักไม่ได้ดูตกอกจกใจหรืออะไรเลย ดวงตาเขาไม่มีความไหวติงใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างดูปกติจนฉันใจหายก่อนจะได้ยินเสียงขำเบา ๆ ดังลอดออกมา
“พูดจริงพูดเล่น?” ฉันน่ะพูดจริง แต่คนที่ทำเล่นคือเขาต่างหาก
“พูดจริงดิ แก้วอุตส่าห์รีดยางอายพูดออกมาเลยนะ”
คนตรงหน้าจ้องฉันอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ย
“ฟังนะเตี้ย”
อืม ตั้งใจฟังอยู่ รีบ ๆ ตอบคำถามเถอะ ลุ้นจนฉี่จะราดแล้วเนี่ย!
“ไว้เราสูงเท่านี้พี่ก่อนค่อยมาบอกรักใหม่นะ” มือข้างหนึ่งเขาวัดส่วนสูงจากศีรษะฉันขึ้นไปหลายสิบเซนฯ ให้มันอยู่ตรงช่วงไหล่เขาพอดี
“พี่คิมสูงเท่าไหร่”
“ร้อยเจ็ดสิบห้า” อืม... ห่างกันเกือบยี่สิบเซนฯ ได้
“ถ้าแก้วสูงเท่าไหล่พี่คิมแล้วจะได้คำตอบใช่ปะ?”
ฉันถามอย่างมีความหวัง
“รอสูงก่อนเถอะ ค่อยมาทวงคำตอบจากพี่”
จากอารมณ์ไม่ดีตอนนี้แก้วตาถึงกับหัวใจพองโต ก็แค่ความสูง สมัยนี้มีวิธีเพิ่มความสูงตั้งเยอะตั้งแยะ ฉันเพิ่งอยู่ ม.4 ด้วย เหลือเวลาขยายความสูงอีกตั้งหลายปี
“จำคำพูดตัวเองให้ดี ๆ ละ”
ฉันยิ้มแป้นให้คนตรงหน้าจนถูกบีบจมูกอย่างมันเขี้ยว
“ช็อกโกแลตไม่เอานะ มันซ้ำเยอะ กินไม่ไหว”
พี่คิมตะโกนบอกก่อนจะกระโดดข้ามรั้วกลับไป แบบนี้หมายความว่าเขาก็อยากได้ของขวัญวาเลนไทน์จากยัยแก้วตาคนนี้ใช่ไหมนะ