บทที่ 3 อิจฉา【1】
นี่สินะ... การทำงานแบบมืออาชีพ ใบแก้วคิดในใจ หลังทั้งคู่ได้เดินทางมาถึงสตูดิโอถ่ายแบบและได้เห็นว่าคุณกวีเป็นมิตรกับทีมงานในกองถ่ายมาก ราวกับอีกฝ่ายไม่ใช่คนเดียวกันกับที่เธอเจอที่คอนโดเมื่อกี้
“ถ้ามีละครเรื่องไหนติดต่อจ้างให้คุณเขาไปเล่นบทฝาแฝด คงจะตีบทแตกน่าดู” ใบแก้วพูดกับตัวเอง พลางเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาพระเอกหนุ่ม หลังเธอเดินไปขอน้ำเปล่าจากทีมงาน
“คุณกวีคะ น้ำค่ะ” หญิงสาวเรียกพร้อมยื่นขวดน้ำให้อีกฝ่าย แถมยังทำหน้าซื่อเหมือนกับเมื่อครู่นี้เธอไม่ได้นินทาพระเอกหนุ่มเลยแม้แต่นิด
“เธอมาทำงานวันนี้เป็นวันแรก รู้หรือเปล่าว่าต้องทำอะไรบ้าง” เมื่อคุณกวีดื่มน้ำจนพอใจแล้ว อีกฝ่ายถึงค่อยถามใบแก้ว
“ก็พอรู้บ้างคร่าว ๆ ค่ะ”
“...”
“แก้วต้องคอยดูตารางงาน ฟังบรีฟจากทีมงาน แล้วก็คอยดูแลคุณกวี เผื่อว่าคุณกวีต้องการอะไรระหว่างการทำงาน” ใบแก้วร่ายหน้าที่ของตัวเองตามที่เธอเข้าใจให้คุณกวีฟัง พระเอกหนุ่มพยักหน้ากลับมาเชิงบอกว่าเธอเข้าใจถูกแล้ว แต่ก็ยังไม่วายเพิ่มเติมหน้าที่ให้ใบแก้วอยู่ดี
“นอกจากเธอต้องทำหน้าที่ตามที่พูดมาแล้ว เธอยังต้องคอยตามใจฉันด้วย”
“ถ้ามันเกี่ยวกับงาน แก้วก็พร้อมจะตามใจคุณกวีอยู่แล้วค่ะ” ใบแก้วตอบกลับไป
“ไม่ ต่อให้มันไม่เกี่ยวกับงานเธอก็ต้องตามใจฉัน” อีกฝ่ายแก้คำพูดให้ใหม่ จนใบแก้วต้องขมวดคิ้วเป็นปมอีกครั้ง
“ทำไมล่ะคะ แก้วเป็นพนักงานของช่องนะคะ คุณกวีไม่ได้ให้เงินเดือนแก้วสักหน่อย”
“ฉันคิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าเธอต้องพูดแบบนี้”
“...”
“คนที่ยัดเยียดให้เธอมาทำงานนี้ เขาไม่ได้บอกเหรอว่าค่าคอมมิชชั่นที่เธอจะได้เพิ่มเติมในแต่ละเดือนมันมาจากฉันทั้งนั้น” คุณกวี
พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“โอเคค่ะ แก้วเข้าใจแล้วค่ะ” เพราะดูจากท่าทีของพระเอกหนุ่มแล้ว อีกฝ่ายคงต้องการให้ใบแก้วตามใจกันให้ได้ เธอจึงเลือกที่จะยอมอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย เพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบ แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้พูดคุยกันต่อ หนึ่งในทีมงานของกองถ่ายก็เดินเข้ามาทักทายทั้งคู่เสียก่อน
“สวัสดีค่ะคุณกวี นี่...เป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่เหรอคะ?”
“ใช่ครับ” คุณกวีพยักหน้ารับ พร้อมกับที่ใบแก้วยกมือไหว้ทีมงานที่เดินเข้ามาทักทายโดยที่พระเอกหนุ่มไม่ต้องบอก
“สวัสดีค่ะ ชื่อแก้วนะคะ” หญิงสาวแนะนำตัวเองกับทีมงานเสร็จสรรพ
“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อภัคนะคะ” เธอทักทายกลับมาด้วยท่าทางเป็นมิตร ก่อนจะหันกลับไปคุยกับคุณกวีต่อ ดูจากท่าทางของพี่ภัคแล้ว อีกฝ่ายน่าจะเคยร่วมงานและมีความสนิทสนมกับคุณกวีอยู่พอสมควร
ใบแก้วเคยเห็นการทำงานในกองถ่ายมาบ้างตอนที่อาจารย์ส่งตัวไปศึกษางาน ถึงจะเคยเห็นบรรยากาศเหล่านี้มาแล้ว แต่พอได้มาอยู่ในกองถ่ายจริง ๆ แม้จะเป็นการถ่ายแบบนิตยสารแฟชั่น ไม่ใช่การถ่ายละคร ใบแก้วก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ยิ่งวันนี้คุณกวีต้องถ่ายแบบกับ คุณริษาที่กำลังจะมีผลงานร่วมกันด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ใบแก้วรู้สึกตื่นเต้น
เข้าไปใหญ่
“ตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีก” ขณะที่หญิงสาวยืนอยู่หลังกล้อง เพื่อมองดูการถ่ายแบบของดาราเบอร์ต้นอย่างตั้งใจอยู่นั้น ใบแก้วก็พูดกับตัวเองไปด้วย คุณริษาที่กำลังยืนโพสท่าแบบมืออาชีพอยู่ข้างคุณกวีนั้นสวยมากจนเธอไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย
ยิ่งตอนนี้ชายหญิงหน้าตาดีสองคนยืนอยู่ข้างกัน ก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่ดูโดดเด่นมากขึ้นแบบไม่มีใครยอมใคร ทำเอาใบแก้วอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากสองคนนี้แต่งงานกันจริง ๆ ลูกของทั้งคู่คงได้หน้าตาพ่อกับแม่มาอย่างไม่ต้องสงสัย
“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากสำหรับวันนี้” เมื่อการถ่ายแบบเซ็ตสุดท้ายสิ้นสุดลง เสียงของช่างภาพก็ดังขึ้น ใบแก้วที่ได้ยินดังนั้นรีบเดินเข้าไปหาคุณกวีทันที เนื่องจากเธอต้องคอยปรนนิบัติอีกฝ่ายเหมือนเป็นเจ้านายตัวเอง
“หิวน้ำ” คุณกวีบอกใบแก้วเพียงสั้น ๆ
“นี่ค่ะ น้ำ” ใบแก้วเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นขวดน้ำเปล่าที่เปิดฝาใส่หลอดไว้เรียบร้อยส่งให้คุณกวี เท่าที่เธอสังเกตพฤติกรรมของพระเอกหนุ่มตลอดทั้งวันมานี้ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ดื่มน้ำเยอะอยู่พอสมควร
“แฟนเหรอคะ? ทำไมหนูไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย” คุณริษาที่ยังอยู่หน้าฉากเอ่ยถามคุณกวีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่เธอจะผงกศีรษะ
เล็กน้อยเป็นเชิงทักทายใบแก้ว
“เปล่า เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่น่ะ” คุณกวีบอกกลับไป
“ผู้จัดการส่วนตัวของพี่นี่หน้าตาเหมือนตุ๊กตาบลายธ์เลยแฮะ ทำไมพี่ถึงไม่แนะนำให้เธอไปเป็นดาราบ้างล่ะคะ ให้เธอมาคอยรับใช้พี่ทำไม” พูดจบ คุณริษาก็กลั้วหัวเราะเบา ๆ คล้ายต้องการแหย่คุณกวีเล่น ก่อนที่ผู้จัดการส่วนตัวของคุณริษาจะเดินเข้ามาแล้วพากันเดินออกจากหน้าฉากไป ทิ้งให้ใบแก้วได้แต่มองตามแผ่นหลังเล็กราวกับต้องมนตร์สะกด
“จะมองตามเขาทำไม” ทันใดนั้นเสียงคุณกวีก็ดังขึ้น จนทำให้ใบแก้วหลุดออกจากภวังค์
“ก็เธอสวยนี่คะ”