บทที่ 2 ซุป’ตาร์ชื่อดัง【2】
“รู้แล้วน่า เร่งอยู่ได้” อีกฝ่ายตอบกลับอย่างรำคาญใจ ขณะที่ใบแก้วก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้ง เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลงกว่านี้
เห็นที... การร่วมงานกับพระเอกเบอร์ต้น ๆ ของช่องตลอดทั้งสองสามเดือนนี้คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใบแก้วเสียแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ใบแก้วคิด หลังจากที่เธอได้เห็นพฤติกรรมมุมนี้ของคุณกวี
งานง่าย ๆ สบาย ๆ และได้เงินดีมันไม่มีอยู่ในโลกนี้หรอก อันที่จริงใบแก้วก็ไม่น่าไปเชื่อคำโฆษณาของพี่ยงยุทธเลย เพราะหญิง
สาวได้ค้นพบอุปสรรคในการทำงานของตัวเองแล้ว และอุปสรรคที่ว่านั้น ก็คือคุณกวีที่แสนจะเอาแต่ใจนี่แหละ
แม้ใบแก้วเพิ่งจะได้ร่วมงานกับคุณกวีเป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของอีกฝ่ายวันนี้เอง แต่เธอก็เริ่มจะคาดเดาระดับความเอาแต่ใจและขี้หงุดหงิดของคุณกวีได้แล้ว เนื่องจากพระเอกหนุ่มไม่เคยปิดบังอารมณ์ของตัวเองเลย ไม่ว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจหรือกำลังหงุดหงิดแค่ไหน คุณกวีก็จะแสดงออกให้ใบแก้วเห็นอย่างตรงไปตรงมา
คล้ายเจ้าตัวไม่ได้แคร์เลยว่าการกระทำของตัวเอง อาจทำให้ใบแก้วทนไม่ไหวจนต้องขอลาออกไป
“เธอขับรถเป็นหรือเปล่า” คุณกวีถามขึ้นระหว่างที่ทั้งคู่อยู่ในลิฟต์ เพื่อเตรียมตัวออกไปทำงานด้วยกัน
“ขับเป็นค่ะ”
“ค่อยยังชั่ว...”
“แต่ว่าแก้วยังไม่มีใบขับขี่นะคะ” หญิงสาวรีบพูดต่อ ทำเอาพระเอกหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เหมือนกำลังอดทนกับอะไรบางอย่าง ซึ่งก็คงเป็นใบแก้วอย่างไม่ต้องสงสัย
“ถ้ายังไม่มีใบขับรถ แล้วเธอจะบอกทำไมว่าตัวเองขับรถเป็น”
“อ้าว ก็คุณกวีถามว่าขับเป็นไหม แล้วแก้วตอบผิดตรงไหนเหรอคะ” คราวนี้ใบแก้วสวนกลับไป เพราะเธอเองก็ต้องใช้ความอดทนกับคุณ
กวีเช่นกัน
“นี่เธอเถียงฉันเหรอ?” อีกฝ่ายถามกันอย่างเอาเรื่อง
“เปล่าค่ะ แก้วก็แค่อธิบาย” ใบแก้วบอกกลับไปทั้งหน้าซื่อ คุณกวีสบตากับใบแก้วอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออกพอดี
“เดินออกไปสิ อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทน” คุณกวีพูดกับใบแก้วเสียงนิ่ง ทำเอาหญิงสาวเกิดอาการเสียวหลังวูบ จนเธอต้องรีบเดินออกจากลิฟต์ตามคำสั่งของพระเอกหนุ่มด้วยความรวดเร็ว
“ตกลงใครเป็นผู้จัดการของใครกันแน่ นี่ช่องส่งใครมาทำงานนี้กัน” เมื่อใบแก้วขึ้นมานั่งที่เบาะข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายก็ขับออกจากลานจอดรถ พร้อมกับพึมพำเสียงแผ่วเหมือนต้องการพูดกับตัวเองเสียมากกว่า แต่เพราะนั่งอยู่ข้างกัน จึงทำให้ใบแก้วได้ยินคำพูดอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าพระเอกหนุ่มจะพูดเบาแค่ไหนก็ตาม
“เอาแบบนี้ไหมคะ...เดี๋ยวภายในสัปดาห์นี้แก้วจะรีบไปสอบใบขับขี่มา” ใบแก้วยื่นข้อเสนอกลับไป หลังหญิงสาวคิดได้ว่าเธอควรจะไปสอบใบขับขี่ให้จบ ๆ ไป เพราะยังไงก็เป็นผลดีกับตัวเธอเองทั้งนั้น
“ถ้าลำบากก็ไม่ต้องไปทำ เดี๋ยวฉันโทรเรียกให้คนขับรถที่บ้านมาทำงานก็ได้” คุณกวีตอบกลับเสียงห้วน ทว่าภายใต้ท่าทีหงุดหงิดที่อีกฝ่ายแสดงออกมานั้น ใบแก้วกลับรู้สึกว่าคุณกวีอารมณ์เย็นลงมากแล้ว เพราะอย่างน้อย ๆ พระเอกหนุ่มก็ไม่ได้ปล่อยรังสีอำมหิตออกมา จนทำให้หญิงสาวเกิดอาการเสียวสันหลังวูบเหมือนก่อนหน้านี้
“ไม่ลำบากเลยค่ะ แก้วคิดว่าไปสอบไว้ก็ดีเหมือนกัน” หญิงสาวบอกกลับไป เธอไม่ได้รู้สึกว่าการไปสอบใบขับขี่เป็นเรื่องลำบากอะไร เนื่องจากยังไงในอนาคตเธอก็ต้องไปสอบอยู่แล้ว
“ตามใจเธอแล้วกัน แต่ยังไงระหว่างนี้ฉันก็คงต้องเรียกให้คนขับรถที่บ้านมาทำงานอยู่ดี”
“ค่ะ เอาตามที่คุณกวีสะดวกเลยค่ะ” ใบแก้วว่าเสียงแผ่ว จากนั้นความเงียบก็ปกคลุมทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คุณกวีจะถามขึ้นอีกครั้ง
“ตอนอยู่ที่คอนโด เธอบอกว่าตัวเองจะต้องเป็นผู้จัดการส่วนตัวชั่วคราวใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แก้วจะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้คุณกวีไปก่อนราว ๆ สองถึงสามเดือน ระหว่างที่รอให้ฝ่ายบุคคลจัดหาผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่มาให้”
“แล้วเธอสมัครเข้ามาทำงานที่ช่องด้วยตำแหน่งอะไร” อีกฝ่ายถามต่อ
“ครีเอทีฟค่ะ”
“งั้นแสดงว่าที่ช่องส่งเธอมา ทั้งที่ไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งนี้เลย เพราะช่องกลัวว่าฉันจะไม่ต่อสัญญาใช่ไหม” คุณกวีซักไซ้ ทำเอาใบแก้วนิ่งไปครู่หนึ่ง เนื่องจากคำพูดของพี่ยงยุทธผุดขึ้นมาในหัวเธอพอดี
“...”
“เงียบแบบนี้แสดงว่าฉันพูดถูกสินะ” พระเอกหนุ่มว่าต่อ เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าใบแก้วไม่มีท่าทีปฏิเสธ
“เรื่องนี้แก้วไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ที่บริษัทไม่ได้บอกอะไรแก้วเลย” เธอตอบกลับไป ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาเธอนั้นแหละจะซวยเอา