บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เป็นห่วง

ย่านชุมชนแออัดใจกลางเมืองหลวงคือสถานที่ซึ่งมินลดาเรียกว่าบ้าน เธอเกิดและเติบโตจากที่นี่จึงมีความผูกพัน ไม่เคยมีความคิดจะย้ายไปที่อื่น แม้ว่าสิ่งแวดล้อมจะไม่ค่อยน่าอยู่สักเท่าไหร่

บ้านไม้ชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ คือที่ซุกหัวนอนของเธอและน้องชายมาโดยตลอด มันคือสมบัติชิ้นเดียวที่บิดาและมารดาทิ้งไว้ให้ ก่อนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ยังโชคดีที่แม้จะมีกันแค่สองพี่น้อง แต่ก็มีเพื่อนบ้านที่น่ารักคอยดูแลเอาใจใส่ ทำให้รู้สึกไม่เหมือนถูกทอดทิ้งให้อยู่กันเพียงลำพัง

“วันนี้หนูจะไปเยี่ยมน้องแล้วนะจ๊ะพ่อจ๋าแม่จ๋า เป็นกำลังใจให้ไมค์มันหายไว ๆ ด้วยนะจ๊ะ” มินลดานั่งจุดธูปยกมือไว้อัฐิของบิดาและมารดาที่อยู่บนหิ้ง จ้องมองกรอบรูปนั้นด้วยความคิดถึงจับใจ

เสร็จธุระแล้วเจ้าหล่อนก็เดินสะพายกระเป๋าผ้าออกไปหน้าบ้าน ทว่าในวินาทีนั้นเจอใครบางคนที่คุ้นหน้า นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจ ส่งรอยยิ้มทรงเสน่ห์มาทักทาย

ตั้ม คือรุ่นพี่ข้างบ้าน ซึ่งทำงานในอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง คอยไปรับไปส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ คอยช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษาให้มินลดามาโดยตลอด ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันพอสมควร และเธอได้ยกให้เขาเป็นพี่ชายคนโตไปแล้ว

“หวัดดีมิลค์” หนุ่มหล่อร่างสูงยกมือทักทายพร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจสาว ไว้ผมทรงสกินเฮดดูเข้าทีกับใบหน้าหล่อคมเข้มตามฉบับหนุ่มไทย

“สวัสดีค่ะพี่ตั้ม มาแต่เช้าเชียว”

“จะไปโรงพยาบาลใช่ไหม เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ไม่เป็นไรดีกว่าเกรงใจอ่ะ พี่ตั้มรีบไปทำงานเถอะเดี๋ยวหนูไปเอง”

“เกรงใจทำไมวะเนี่ย ขึ้นมาเร็ว ทำอย่างกับพี่เป็นคนอื่นคนไกลอย่างนั้นล่ะ” คนพูดยื่นหมวกกันน็อคให้เป็นการมัดมือชกซึ่งมันก็ได้ผลมาโดยตลอด

“ก็เพราะไม่ใช่คนอื่นไงคะเลยเกรงใจ แต่ก็ขอบคุณพี่ตั้มมาก ๆ เลยนะ ที่คอยไปรับไปส่งทุกวันเลย เพลา ๆ ลงบ้างเถอะเดี๋ยวก็ไม่มีสาวเข้ามาจีบหรอก” เธอยอมรับหมวกกันน็อคมาใส่ ก่อนจะเดินไปซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์คันโก้

“ไม่เห็นจะอยากมีเลยแฟนน่ะ มีก็ปวดหัวเปล่า ๆ”

“พอมีแล้วจะติดแฟนจนลืมน้องนุ่งล่ะสิไม่ว่า ทำเป็นพูดดีไปเถอะ”

“ไม่มีทางโว้ย จับดี ๆ ล่ะเดี๋ยววันนี้พี่จะพาซิ่งไป” ว่าแล้วก็จับมือเรียวมาวางหมับที่หน้าท้องอย่างถือวิสาสะ

“รู้แล้วค้า...”

ชายหนุ่มหันมายิ้มให้รุ่นน้องข้างบ้าน ก่อนจะสวมหมวกกันน็อกแล้วออกรถไป คนเป็นแม่ที่ยืนมองดูอยู่หน้าบ้านยิ้มอย่างพอใจ ได้แต่หวังว่าสักวันลูกชายจะเอาชนะใจมินลดาได้ เพราะเธอเองก็เอ็นดูเจ้าหล่อนมาตั้งแต่เด็กแล้ว

@โรงพยาบาล...

มาถึงโรงพยาบาลแล้วมินลดาก็เดินตรงมายังตึกผู้ป่วยชาย ด้วยความที่ทุนทรัพย์ค่อนข้างน้อยจึงไม่มีปัญญาให้น้องชายพักห้องพักพิเศษ แต่มันก็มีข้อดีอย่างหนึ่งคือทำให้มีเพื่อนคุย ไม่เหงาเวลาที่เธอต้องไปเรียนหนังสือหรือทำงานพิเศษ

“มิลค์ไหวเหรอเรื่องค่าใช้จ่าย” เดินเข้ามาได้สักพักหนุ่มรุ่นพี่ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ไหวสิคะพี่ตั้ม หนูเก่งอยู่แล้วพี่ก็รู้” เธอส่งยิ้มให้อย่างไม่มีความกังวลใด ๆ ผิดกับข้างในลึก ๆ ที่มันตีรวนไปด้วยความคิดด้านลบ

“พี่คุยกับแม่แล้วว่าจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เราเอง”

“ขอบคุณนะคะ แต่ไม่เป็นไรหนูมีเงินมารักษาไมค์แล้วล่ะ อีกอย่างเราสองคนก็รบกวนพี่กับป้าติ๋วมามากแล้ว ตอนนี้หนูจะต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองบ้าง”

“แต่พี่กับแม่ไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องรบกวนอะไรเลยนะ เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกันแล้วนี่นา”

“ครั้งนี้หนูขอเป็นคนดิ้นรนด้วยตัวเองนะคะพี่ตั้ม ถ้ามีอะไรที่มันขาดเหลือหนูสัญญาว่าจะบอกพี่ตั้มเป็นคนแรกเลยค่ะ”

“พูดแล้วนะ” คนพูดยกมือขึ้นไปวางหมับบนกลางกระหม่อม ลูบเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “ว่าแต่เราไปเอาเงินมาจากไหนล่ะ มันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ”

“เอ่อ...หนูไปทำงานพิเศษมาค่ะ ได้เจ้านายใจดีเลยให้เงินมาเยอะหน่อย”

“งานอะไร? ทำไมพี่ไม่เคยรู้มาก่อน”

“งาน...พริตตี้อะไรพวกนั้นละค่ะ”

“พี่ไม่อยากให้เราทำงานแบบนี้เลย มันเปลืองเนื้อเปลืองตัวรู้ไหม แถมยังเป็นเป้าสายตาของไอ้พวกหื่นกามทั้งหลายอีกด้วย พี่เป็นห่วงมิลค์นะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ หนูดูจะพยายามดูแลตัวเองให้ดี หนูสัญญา”

“ถึงสัญญาพี่ก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี เอาเป็นว่าถ้าจะไปทำงานที่ไหนต้องบอกพี่ทุกครั้งนะ พี่จะไปคอยดูแลความปลอดภัยให้”

“โอเคค่ะพี่ชาย หนูว่าเราเข้าไปหาไมค์กันดีกว่านะป่านนี้คงจะตั้งตารอแล้วล่ะ”

“ครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel