บทที่ 7
เพลิงนั่งหน้าเง้าบนแคร่ไม้ไผ่ตรงบริเวณใต้ต้นลำไย อย่างนึกขุ่นภรรยา ทำไมกันนะ ถึงจะต้องให้ความสนใจกับไอ้หนุ่มนั่นมากขนาดนั้น รู้ว่าตัวเองเล่นใหญ่ ทำเกินไป แต่ตวงรักก็ยังไงไม่ยอมง้อเขาเลย พอหลวมตัวเล่นใหญ่ไปแล้วก็ต้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สเต็ปแรกเริ่มจากชวนเมียทะเลาะ เมียก็ดันกวนกลับ สเต็ปต่อมาทำเป็นหอบของมานอนข้างนอก เมียก็ดันล็อคประตูห้องจริงๆ
ดูสิ! ดูทำกับเขาได้ลงคอ แต่งงานกันมาจะยี่สิบกว่าปี นับครั้งได้ที่ไม่ได้นอนเตียงเดียวกัน ที่ไม่ได้นอนก็เพราะมีเหตุจำเป็นทั้งนั้น นับนิ้วก็แค่สิบครั้งก็ไม่ถึง แล้วนี่...เพราะไอ้เด็กนั่นแท้ๆ ทำให้ตวงรักไม่ยอมให้เขาเข้าห้อง แถมยังไม่ยอมง้อเขาอีกด้วย
หึย! ให้ใครเอาอะไรไปขว้างหลังคาบ้านแก้เจ็บใจสักทีดีไหมนะ?
คิดอย่างพานพาโลไปเรื่อย บางเรื่องคนเราถึงจะเลยวัยไปแล้ว แต่เพราะอารมณ์เป็นใหญ่ทำให้เกิดอาการวัยกลับ เพลิงในวัยห้าสิบห้าปีเองก็เช่นกัน เรื่องอื่นเขามีสติตามวัยวุฒิ ยกเว้นก็เรื่องตวงรักนี่แหละ ก็เขารักของเขามาก จนบางที่ลืมไปว่ามันเป็นการครอบอีกฝ่ายไว้ให้อึดอัดและรู้สึกไม่ดี
“พ่อเพลิง”
เสียงหวานๆ ของลูกสาวดังขึ้น ทำให้เพลิงหันไปมอง หวานใจยืนอยู่พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง อวดเขี้ยวเล็กๆ ที่บิดามักจะเอ่ยล้อเธอว่าเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ตัวน้อย
“แม่ให้มาตามเหรอ?”
ยังมีความหวังลึกๆ ว่าเมียอาจจะให้ลูกมาง้อ หวานใจย่นจมูกน้อยๆ แล้วทรุดลงนั่งข้างบิดา พลางโอบรอบเอวท่านซบหน้าลงกับบ่ากว้างของเพลิงอย่างประจบ
“แม่ให้มาตาม แม่บอกว่าอยากง้อพ่อเพลิง แต่พ่อเพลิงเล่นใหญ่มากหนนี้”
“พ่อไม่ได้เล่นใหญ่เสียหน่อย” เพลิงว่าเสียงสะบัด แอบอายลูกขึ้นมาวูบหนึ่ง ที่ชักจะสะดีดสะดิ้งเกินไปหน่อย
“แม่เรานั่นแหละ ดูจะคลั่งไอ้เด็กนั่นจนเกินไป”
“แหม...พ่อเพลิงจ๋า ปล่อยแม่เค้าไปเถอะ แม่ก็แค่กดไลค์ พ่อก็ทำไม่รู้ไม่เห็นไปบ้าง แม่ไม่ได้ไปตามเกาะชื่นชมอีตานั่นถึงหัวบันไดบ้านเสียหน่อย อีกอย่างนะ แม่ก็ไม่มีทางจะได้รู้จักตัวจริงๆ ของนายสีสันอะไรนั่นหรอก พ่อจะหวงทำไมกัน แม่จ๋ารักพ่อเพลิงคนเดียวพ่อเพลิงก็รู้นี่นา”
“จริงๆ พ่อก็แค่งอนนิดเดียว” เพลิงสารภาพ
“แค่โวยแม่เราหน่อยเดียว เรื่องไปคอมเมนต์ผู้ชาย ก็ตอนนั้นมันวูบนี่นา แล้วแม่เราก็เถียงกลับ แถมยังไปกดหัวใจ ไล่เมนต์สติ๊กเกอร์ ทำเหมือนประชดพ่ออีก พ่ออยากกินแกงเขียวหวานไก่เย็นนั้น แม่ก็ไม่ยอมทำให้ พ่อก็เลยงอนมากอีกหน่อย ทำตีโพยตีพายมากอีกนิด หอบหมอนออกมาทำจะนอนนอกห้อง แม่เราก็ดันล็อคประตูห้องจริงๆ แล้วขึ้นหลังเสือไปแล้ว หวานจะให้พ่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็จะได้หรือลูก”
ฟังคำสารภาพจากบิดา แถมหน้าตาเจื่อนๆ จ๋อยๆ ของท่านก็ทำให้หวานใจเกือบจะหลุดขำออกมา โถ...พ่อของหวานใจ เล่นใหญ่แต่แม่จ๋าดันไม่ง้อสินะ เฮ้อ....
“ตอนนี้พ่อก็หายงอนเลิกเล่นใหญ่ คืนดีกับแม่ได้แล้ว หวานมาเป็นกาวให้แล้ว อิอิ”
“ก็...แม่จะคุยกับพ่อก่อนไหมล่ะ” เพลิงยังคงมีชั้นเชิง หวานใจถอนใจนิดๆ แล้วพยักหน้า
“แม่บอกว่าจะยอมง้อพ่อ แต่พ่อก็ต้องเลิกงี่เง่า เลิกพูดถึงอีตาสีสันอะไรนี่ เพราะมันไกลเกินกว่าที่พ่อเพลิงจะไปหวงหึงแม่จ๋าของหวานนะจ๊ะ”
“ก็ได้” เพลิงว่า แล้วยิ้มให้กับลูกสาว พร้อมกับยกมือชูสามนิ้วแบบลูกเสือ
“พ่อสาบานด้วยเกียรติของลูกเสือ ว่าจะไม่งี่เง่าหวงหึงแม่จ๋าของหวานเรื่องนายสีสันนี่อีกต่อไป ครับผม! ท่านนายกอง”
“ดีมาก” หวานใจทำเสียงขรึม แล้วหัวเราะคิก ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“พ่ออยู่ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวหวานจะพาแม่จ๋ามาง้อ”
เพลิงยิ้มขณะที่มองตามหลัง ‘กาวใจ’ ของเขาและตวงรัก เข็ดจริงๆ ที่หนนี้ตวงรักทำแบบนี้กับเขา เฮ้อ...ไม่น่าเลยจริงๆ เพลิง
รอไม่นาน ลูกสาวก็เดินมากับภรรยาของเขา ที่มองมายังเขาด้วยสีหน้ายังงอนิดๆ เพลิงยิ้มกว้างรับเธอเลยล่ะหนนี้ ไม่มีทำมาดทำฟอร์มอะไรอีก พร้อมกับอ้าแขนออก ปากก็เอ่ยเสียงดัง
“ตวงจ๋า พี่รอให้ตวงมากอดง้อ แล้วพี่จะดีด้วย จะยกโทษให้ทั้งหมดเลย”
“แหม...”
ตวงรักหัวเราะกับท่าทีนั้นของสามี ความขุ่นข้องเล็กน้อยระหว่างกัน ละลายหายไปเพียงแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมลงให้แก่กันก่อน ซึ่งการทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องหนนี้ของเธอและสามี จบลงด้วยดีเพราะลูกสาวคนเดียวแท้ๆ
“มาสิ”
เขาเอ่ยเร่ง หวานใจสะกิดมารดา แล้วตวงรักก็ยอมเดินเข้าสู่อ้อมกอดของสามีแต่โดยดี เขากอดเธอแน่น แล้วหอมแก้มซ้ายขวาฟอดๆ อย่างไม่เกรงใจลูกสาวที่ร้องอูย แล้วเอามือปิดตาเพราะเขิน
“ห้ามทำอีกนะพี่เพลิง”
ตวงรักคาดโทษ ขณะที่เงยหน้ามองสามี เพลิงยิ้มหวานจ๋อย จนรอยย่นจีบขึ้นที่หางตา แล้วเอ่ยเสียงหวาน
“จ้ะ ไม่ทำแล้ว ตวงก็ง้อพี่บ้างก็ได้ ถ้าพี่งอนเกินเลยไป มันกู่ไม่ค่อยกลับ”
“เป็นผู้ชายใครใช้ให้งอนขนาดนั้นกันล่ะคะ แล้วดูสิ อายุเท่าไหร่ไปล่ะ เอ๊อ...แล้วพี่เพลิงหวงหึงอะไร กรุณาดูตวงด้วยสิ หึงตวงกับเด็กสามสิบกว่า แถมอยู่ไกลตั้งหลายร้อยกิโลไปโน่น...”
“ไม่ทำแล้วล่ะจ้ะ” เขาอ้อนเธอ
“ต่อไปนี้ถ้าทำอะไรแบบนี้อีก ตวงโกรธจริงๆ นะคะ” ตวงรักย้ำ
“โกรธนานด้วย เพราะถือว่าพี่เพลิงไม่ให้เกียรติกัน ไม่ไว้ใจกัน เราอยู่กันมาตั้งกี่ปีแล้ว”
“ก็พี่รู้ล่ะ...ว่าตวงน่ะรักพี่ ซื่อสัตย์กับพี่ แต่มันก็อดวูบไม่ได้นี่นา”
เขาทำเสียงออด แล้วโอบประคองภรรยาข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งลูกสาวมาโอบเอวเขาไว้
“พ่ออย่าวูบบ่อยนะคะ อย่าทะเลาะ อย่างอนกันอีก หวานอะขี้เกียจมาง้อแทน หนหน้าอย่าหึงไร้สาระอีกล่ะ”
“แนะๆ ถือโอกาสสอนพ่อเลยนะเราน่ะ”
เขาก้มลงจุ๊บเหม่งของลูกสาว ตวงรักและหวานใจหัวเราะ ก่อนที่หวานใจจะเอ่ยออกมา
“นายสีสันอะไรนี่ ต่อให้โผล่มาตัวเป็นๆ ตรงหน้า พ่อก็ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แล้วถ้าเกิดว่ามาทำห้าว อยากจะจีบแม่ของหวานจริงๆ หวานจะจัดให้หนักเลยล่ะ”
เจ้าหล่อนว่า ตวงรักได้แต่ส่ายหน้า ส่วนเพลิงเอ่ยสนับสนุน สามพ่อแม่ลูกหารู้ไม่ว่า...สีสันที่ว่า...กำลังจะมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้วจริงๆ