ว่าที่คู่หมั้น
"พี่นาวิน …"ขิมพึมพำออกมาเบาๆคนเดียว พอได้สติเธอก็วางจานแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที
หมับ !!
"จะไปไหน …"นาวินจับแขนขาวอวบของขิมเอาไว้ ก่อนที่ขิมจะเดินผ่านหน้าเขาไป
"ปล่อย…!! …"ขิมสะบัดแขนสุดแรงที่มี
"นี่มันอะไรคะนาวิน…!! …"แก้มมองหน้าของนาวินทีหน้าของผู้หญิงตัวอ้วนที
"แก้ม…นี่ขิมว่าที่คู่หมั้นของผมเอง …"นาวินดึงขิมให้เข้ามาใกล้ตัวเขา แล้วกอดเอวอวบของขิมเอาไว้แน่น พร้อมกับแนะนำให้แก้มรู้จักสถานะของขิมไปด้วย
"ห้ะ…!! …"แก้มกับขิมอุทานออกมาพร้อมกัน แต่คนละความรู้สึก
"หมายความว่ายังไงคะ ว่าที่คู่หมั้น…!! …"แก้มถามนาวินเสียงสั่น
"ว่าที่คู่หมั้นหมายความว่า กำลังจะหมั่นกันในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ …"นาวินตอบหน้านิ่งไม่มีความรู้สึกอะไร ในขณะที่ขิมได้แต่อ้าปากค้าง เพราะคิดไม่ถึงว่านาวินจะแนะนำเธอให้แฟนของตัวเองรู้จัก ในฐานะคู่หมั้นแบบนี้ มันดูใจร้ายใจดำเกินไป
"อ้าว…!! นาวินเจอน้องแล้วเหรอลูก หนูขิม…เห็นไหมแม่บอกแล้ว ว่าพี่นาวินเขาต้องชอบหนูขิมเหมือนที่แม่ชอบ …"แม่ของนาวินเดินเข้ามาพร้อมกับพ่อของนาวินและพ่อแม่ของขิมด้วย
"เออ… คือ…คือว่า ปล่อยสิคะ …"ขิมเงยหน้าขึ้นไปบอกนาวินเสียงดุ แต่นาวินหาสนใจไม่ เขามองไปรอบๆงาน โดยที่ไม่ได้ก้มหน้าลงไปมองหน้าของคนที่เขากอดเอวไว้อยู่เลย
"แก้มขอตัวนะคะ …"แก้มเดินออกมาจากตรงนั้นทันที เพราะทุกคนทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน ทั้งๆที่เธอเป็นถึงดาราดัง เธอก็ศักดิ์ศรีเหมือนกัน เธอพอจะรู้ว่าพวกนักธุรกิจรวยๆพวกนี้ มักจะไม่ค่อยชอบคนที่มีอาชีพอย่างเธอนัก แต่อย่าคิดว่าเธอจะยอมแพ้ ในเมื่อคนทั้งประเทศก็คิดว่าเธอกับนาวินเป็นแฟนกัน ทำไมเธอจะต้องเสียนาวินให้กับผู้หญิง ที่หาความสวยไม่เจออย่างยายอ้วนเตี้ยนี่ด้วยล่ะ เสียหน้าดาราดังอย่างเธอตายเลย
"ได้เวลาที่เขาจะเดินแบบกันแล้วลูก ไปนั่งดูกัน …"แม่ของนาวินชวนทุกคนอย่างอารมณ์ดี
"ปล่อย…!! …"ขิมเงยหน้าขึ้นไปบอกนาวินอีกครั้ง แต่นาวินก็ยังไม่สนใจอีกเหมือนเคย เขายังกอดเอวของเธอไว้หลวมๆ แต่ไม่ปล่อยให้เธอหลุดไปจากวงแขนของเขาได้ เขาพาเธอเดินนำทุกคนไปก่อน และตลอดทางมีนักข่าวถ่ายรูปทั้งสองครอบครัว นักธุรกิจยักษ์ใหญ่เอาไว้ตลอดทาง ทำให้เธอทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก ทั้งๆที่เธอนึกเกลียดนาวินขึ้นมา ที่ใจร้ายหาความเป็นสุภาพบุรุษไม่มีเลย เขาพาแก้มมางานนี้แต่กลับทิ้งให้เธอเดินออกไปจากงานคนเดียว ช่างเป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจจริงๆ แต่เธอหารู้ไม่ว่าแก้มกับนาวินมาเจอกันที่หน้างาน โดยที่แก้มมาดักรอเจอนาวินแล้วเข้างานมาพร้อมกัน เพื่อให้นักข่าวทำข่าวของแก้มกับนาวิน
"นาวินนั่งกับน้องเลยลูก คริคริ …"แม่ของนาวินจัดแจงให้ลูกชายกับขิม นั่งตรงกลางระหว่างสองครอบครัว เพื่อให้นักข่าวจับภาพได้
"นั่งดีๆได้ไหมคะ ทำไมต้องกอดเอวด้วยเนี่ย …"ขิมพูดกับคนที่กอดเอวของเธอเสียงเบา อย่างทนไม่ไหว ที่นาวินทำหน้านิ่งเฉย แต่แขนไม่ยอมปล่อยออกจากเอวของเธอเลย
"เงียบไปเตี้ย อย่าพูดมาก …"นาวินก้มลงไปกระซิบใกล้ๆหูของขิม หรือจะพูดติดกับใบหูของขิมเลยก็ว่าได้
"โห๊ะ…!! เตี้ย…!! ปากเสียที่สุด …"ขิมเงยหน้าขึ้นไปกัดฟันพูดกับนาวิน พร้อมกับจ้องหน้าของนาวินอย่างหาเรื่อง หุ่นอย่างเธอเขาเรียกตัวเล็ก อวบกำลังพอดี กล้าดียังไงมาเรียกเธอเตี้ย
"หึหึ …"นาวินได้ยินที่ขิมพูดแล้วเขาหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ
"เฮ้อ…!! …"ขิมถอนหายใจออกมาอย่างอึดอัด เธอเกลียดนาวินจนไม่อยากจะมองหน้าเลย ยิ่งนึกถึงสิ่งที่หน้าวินทำกับเธอ ภาพเก่าๆมันก็ย้อนขึ้นมาจุกอกเธอ และเธอก็คิดว่านาวินคงจำเธอไม่ได้หรอก เพราะที่เธอไปขอจีบนาวิน นาวินไม่ได้มองหน้าของเธอเลย
"ชุดเขาสวยดีนะคะคุณ หนูขิมอยากได้ไหมลูกบอกแม่มาเลย แม่จะประมูลให้เลย …"แม่ของนาวินพูดกับสามีของเธอ ก่อนที่เธอจะหันไปพูดกับว่าที่ลูกสะใภ้ เมื่อนางแบบออกมาเดินอวดชุดกันอย่างอลังการ
"ไม่มีไซส์หรอก ไม่ต้องคิด …"นาวินพูดขึ้นลอยๆ
"โห๊ะ…!! ปากเหรอนั้น …"ขิมกัดฟันพูดเบาๆให้นาวินได้ยินแค่คนเดียว
"หึหึ …"นาวินก้มหน้าลงไปสบตากับขิมแล้วไม่พูดอะไร
"ปล่อยนะ ฉันไม่หมั้นกับคุณ …"ขิมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับนาวินแล้วกัดฟันพูดด้วยความโมโหคนปากปีจอ
"เหรอ…ไม่หมั้นแล้วเหรอ งั้นแต่งเลยก็แล้วกัน แม่ครับ อุ๊บ…!! …"นาวินกำลังจะหันไปพูดกับแม่ของเขา แต่โดนขิมเอามือที่ขาวขวบของเธอ ปิดปากของเขาเอาไว้ก่อนด้วยความรวดเร็ว
"นี่…!! คุณเป็นอะไรมากป่ะ ชาติที่แล้วเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันรึไง ทำไมฉันต้องมาเจอผู้ชายปากปีจอแบบนี้เนี่ย …"ขิมพูดออกมาเบาๆด้วยความโมโห พร้อมกับค่อยๆปล่อยมือออกจากปากของนาวิน เมื่อเธอมั่นใจว่านาวินไม่พูดแล้ว
"ฉันก็ไม่ได้อยากหมั้นกับเธอหรอก อย่าหลงตัวเอง…ยัยเตี้ย แต่พอดีฉันกำลังเบื่อ ฉันก็เลยหาอะไรที่สนุกๆทำแค่นั้นเอง …"นาวินพูดพร้อมกับมองขิมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
"คุณนาวิน…!! …"ขิมพูดไม่ออกที่นาวินมองเธอแบบนั้น
"คุณขวัญ ดูลูกๆของเราคุยกันสิคะ ท่าทางเราจะได้หลานหัวปีท้ายปี …"แม่ของนาวินชะโงกหน้าไปคุยกับแม่ของขิมด้วยความดีใจ ที่ลูกชายยอมคุยกับคนที่เธอเลือกให้ บอกตรงๆเธอก็ไม่ค่อยมั่นใจ ว่าลูกชายของเธอจะยอมคุยกับผู้หญิงที่เธอหาให้ เพราะที่ผ่านมาเธอหามาห้าหกคนแล้วลูกเพื่อนๆของเธอทั้งนั้น สาวๆเหล่านั้นต่างก็ชอบลูกชายของเธอทุกคน แต่ลูกชายตัวดีของเธอกลับไม่คุยด้วยสักคำ แถมทำตัวเองให้มีข่าวกับดาราดังประชดเธอสะงั้น
"แม่คะ…ขิมขอกลับก่อนนะคะ ขิมง่วงแล้วพรุ่งนี้ขิมก็มีนัดกับเพื่อนจะไปออกกำลังกายที่ยิมด้วยค่ะ …"ขิมหันไปกระซิบกับแม่ของเธอเบาๆ แล้วกุเรื่องขึ้นมา จริงๆแล้วเธอไม่อยากนั่งใกล้กับผู้ชายปากเสียคนนี้ต่อไปแล้ว
"รอกลับพร้อมกันลูก มันเสียมารยาท …"แม่ของขิมกระซิบกลับเบาๆ เพราะงานนี้สามีของเธอกับพ่อของนาวินร่วมกันจัดขึ้น
"ไม่เสียหรอกค่ะ พ่อกับแม่ก็อยู่ต่อสิคะ …"ขิมบอกกับแม่อย่างไม่ยอมง่ายๆ
"แล้วขิมจะกลับยังไงลูก…มันอันตราย แล้วชุดที่ลูกใส่ก็ไม่ควรกลับคนเดียว จริงไหมคะคุณ …"แม่ของขิมหันไปถามความเห็นของสามีเธอ
"น้าขวัญ…เดี๋ยวผมไปส่งเองครับ …"นาวินบอกกับแม่ของขิมเสียงเรียบนิ่ง
"จริงเหรอนาวิน น้าขอบใจมากนะลูก …"แม่ของขิมขอบคุณนาวินด้วยความดีใจ เพราะเธอรู้ว่ายังไงเธอก็ห้ามลูกสาวของเธอไม่ได้แน่ๆ ขิมถ้าคนอื่นเห็นจะคิดว่าเป็นเด็กดี ที่เชื่อฟังพ่อแม่ทุกอย่าง แต่จริงๆแล้วขิมดื้อเงียบ จะฟังพ่อแม่แค่ในบางเรื่องเท่านั้น
"ขิมกลับคนเดียวได้ค่ะแม่ …"ขิมพูดกับแม่แต่สายตาของเธอมองหน้าของนาวินนิ่ง
"หนูขิมจะกลับแล้วเหรอลูก …"แม่ของนาวินถามขิม หลังจากที่เธอได้ยินลูกชายบอกว่าจะไปส่งขิม
"ค่ะคุณปะ เออ…คุณแม่ พอดีขิมง่วงแล้วพรุ่งนี้ขิมก็มีนัดด้วยค่ะ …"ขิมพูดกับแม่ของนาวินเสียงนุ่ม
"งั้นให้พี่เขาไปส่งลูก กลับคนเดียวมันอันตราย เดี๋ยวมีใครมาอุ้มไป …"แม่ของนาวินพูดด้วยความเอ็นดูคนตัวอวบ
"เห็นไหมเตี้ย แม่เขายังเห็นเลยว่าเตี้ยเหมือนหมากระเป๋า ใครจะอุ้มไปไหนก็อุ้มไปได้ …"นาวินพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ที่เห็นจมูกของคนเตี้ยที่เขาว่า กำลังบานออกเพราะความโมโห
"หนูขอตัวกลับก่อนนะคะคุณแม่ คุณพ่อ สวัสดีค่ะ …"ขิมยกมือไหว้พ่อกับแม่ของนาวินก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วเดินออกมาเลย
หมับ !!
"เห็นเตี้ยๆแบบนี้ก็เดินไวใช้ได้นะ …"นาวินจับแขนขาวอวบของขิมแล้วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างนึกสนุก เพราะคนเตี้ยที่เขาว่า ถอนหายใจออกมาพร้อมกับจมูกที่บานออก
"สนุกมากไหมคะ พี่เสาไฟฟ้า …"ขิมสะบัดแขนให้หลุดออกจากมือของนาวิน แล้วเงยหน้าขึ้นไปถามนาวินเสียงเรียบ เธอพยายามเก็บความโมโหเอาไว้ เพราะไม่อยากเป็นตัวตลกของคนตัวสูง
"ก็ใช้ได้นะ พอหายเบื่อได้บ้าง …"นาวินตอบคนตรงหน้า เขากลั้นขำเอาไว้เพราะเขาดูออก ว่าคนตัวเตี้ยกำลังพยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้แค่ไหน
"จิ๊…ทำไมต้องมาเจอผู้ชายบ้าๆคนนี้ด้วย …"ขิมสะบัดหน้าเดินออกมาจากนาวินอย่างหัวเสีย
หมับ !!
"รถจอดอยู่ด้านนั้น …"นาวินเดินไปจับแขนของขิมไว้แล้วชี้บอกทิศทางที่จอดรถของเขา
"ขิม… เออ…ฉันจะกลับแท็กซี่เอง …"ขิมเงยหน้าขึ้นไปพูดกับนาวินพร้อมกับแกะมือที่เหนียวหนึบของนาวินออกไปด้วย
"อย่าดื้อ จะเดินเองหรือจะให้อุ้ม …"นาวินถามขิมเสียงดุ
"ทำไมต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย ต่างคนต่างอยู่สิ …"ขิมพูดด้วยนํ้าเสียงที่ไม่พอใจ
"คงจะไม่ได้ เพราะเธอเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉัน เธอควรจะดีใจนะ เพราะถ้าไม่มีฉัน ก็ไม่มีใครเอาเธออีกแล้วล่ะ …"นาวินพูดหน้าตาเฉย
"งั้นฉันยอมอยู่อย่างไม่มีใครเอาจะดีกว่า ดีกว่ามาเจอผู้ชายอย่างคุณ …"ขิมสวนกลับด้วยความเจ็บใจ ยิ่งภาพในอดีตมันย้อนกลับมาเธอยิ่งโมโห
"กลับได้แล้ว ฉันไม่ได้ว่างพอที่จะมาคุยเรื่องไร้สาระกับเธอหรอกนะ …"นาวินไม่พูดเปล่า เขาจูงมืออวบขาวให้เดินตามเขาไปที่รถด้วย
"ปล่อย…!! เดินเองได้ …"ขิมพูดเสียงดังพร้อมกับพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากมือของนาวินไปด้วย
"ถ้าไม่เงียบ ฉันจะอุ้มเธอ …"นาวินขู่คนตัวอวบเสียงดุ
"จิ๊…!! …"ขิมเงียบกริบทันที แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ยอมคน เธอก็เลยกระฟัดกระเฟียดให้เห็นนิดหน่อย
…
"ลงได้แล้ว …"นาวินบอกขิม หลังจากที่รถมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่
"ขอบคุณค่ะ …"ขิมขอบคุณอย่างเสียไม่ได้ เธอไม่อยากพูดด้วย แต่มารยาทที่ถูกสอนมา เลยจำใจพูดออกไปและแปลกใจที่นาวินมาบ้านเธอถูกได้ยังไง เพราะว่าตลอดทางที่มา เธอก็เงียบมาตลอดทาง โดยที่นาวินไม่ได้ถามทางจากเธอเลย
ปัง…!!
"ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ …"นาวินลงมาจากรถแล้วพูดกับขิม ก่อนที่ขิมจะเดินเข้าบ้านไป
"เฮ้อ…!! ไหนบอกมีธุระที่ต้องไปทำไงคะ จะลากสังขารอันมีค่าของคุณลงมาจากรถทำไม …"ขิมกลอกตาอย่างเซ็งๆ หลังจากที่เธอได้ยินนาวินพูด ก่อนที่เธอจะหันไปพูดกับนาวินด้วยความหมั่นไส้
"จัดของไว้รอเลยนะ อีกสองวันฉันจะเดินทางไปภูเก็ต เธอต้องไปกับฉันในฐานะคนดูแลฉันและในฐานะว่าที่คู่หมั้น …"นาวินบอกขิมเสียงเรียบ
"ห้ะ…!! แล้วทำไม …"
"ไม่ต้องถาม เธอมีหน้าที่ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ …"นาวินบอกขิมเสร็จ เขาก็เดินขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
"เห้ย…ย!! อะไรวะเนี่ย …"ขิมยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น สมองหยุดการทำงานไปชั่วขณะหนึ่ง ขาของเธอค่อยๆก้าวเข้าบ้านไป นี้เธอหนีไม่พ้นผู้ชายคนนี้จริงๆใช่ไหม งั้นก็คงต้องมาสู่กันให้ตายไปข้างหนึ่งนะ ต่อไปอย่าคิดว่าเธอจะยอมเป็นฝ่ายเจ็บอยู่คนเดียวอีก