งานเลี้ยง
"แม่ว่าอะไรนะคะ งั้มๆ …"
"แม่บอกว่าขิมหยุดหางานได้แล้วลูก เพราะว่าถึงได้งานขิมก็ไม่ได้ทำอยู่ดี แล้วก็หยุดกินแล้วฟังแม่ก่อน …"แม่บอกกับลูกสาว เมื่อลูกสาวคนเดียวของเธอกลับเข้าบ้านมา จากที่ออกไปหางานทำ หลังจากที่สมัครงานตามอินเตอร์เน็ตแล้วไม่มีใครเรียกสักที พอมาถึงบ้าน ลูกสาวคนเดียวของเธอก็เข้าไปในครัว แล้วหาของมากินทันทีด้วยความหิว
"แม่คะ จบมาขิมก็อยากทำงานตรงกับที่ขิมเรียนมาหนิคะ งั้มๆ …"ขิมเถียงแม่แต่ปากก็ไม่หยุดที่จะเอาข้าวเกรียบปากหม้อเข้าปาก แล้วกินไปเรื่อยๆ ข้าวเกรียบปากหม้อที่แม่ของเธอทำไว้ให้ เพราะรู้ว่าเป็นของโปรดลูกสาว
"ขิม …"แม่ของขิมเรียกลูกสาวแล้วมองลูกสาวนิ่ง
"อะไรคะ …"ขิมหันไปมองหน้าแม่ เพราะว่าแม่เรียกเธอแล้วไม่พูดสักที แต่ปากของเธอก็กินไม่หยุด
"คุณพ่อให้ขิมหมั้นกับลูกชายของเพื่อนคุณพ่อ …"
"ฮ่ะๆ แฮะๆอื้มม แอ่อ่าอะไออะอะ (แม่ว่าอะไรนะคะ) …"ขิมสำลักทันทีและข้าวเกรียบปากหม้อก็มีอยู่เต็มปากจนพูดออกมาไม่รู้เรื่อง
"ขิมต้องหมั้นตามคำสั่งของคุณพ่อ พ่อเขาตกลงกับเพื่อนว่าถ้าลูกเรียนจบแล้วยังไม่มีแฟนจะให้ลูกๆมาหมั้นกัน …"แม่มองลูกสาวคนเดียวอย่างเห็นใจ เพราะว่าสามีของเธอหรือพ่อของขิม เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด แต่ถ้าพูดคือคำไหนคำนั้นและที่สำคัญดุมาก
"หมั้น…!!? …"ขิมมองหน้าแม่ของเธอตาปริบๆ เกิดมาเธอยังไม่เคยมีแฟนเลย แต่ก็ใช่จะไม่มีคนที่ชอบ คือคนที่เธอชอบ แต่ไม่ใช่คนที่ชอบเธอ เธอชอบผู้ชายคนหนึ่งมากตอนที่เข้าปีหนึ่ง และคนที่เธอชอบอยู่ปีสาม เขาเป็นหนุ่มที่ผู้หญิงชอบทั้งมหาวิทยาลัย เขาเป็นอดีตเดือนของมหาวิทยาลัย และกำลังเป็นนายแบบที่มีคนติดตามเยอะที่สุด เพราะหน้าหล่อนิ่ง เฉยชาและมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ที่ผู้หญิงชอบ เธอชอบผู้ชายคนนั้น ถึงขนาดกล้าเสี่ยงเอาร่างอันอวบๆของเธอไปขอจีบเขา แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนมา คือเธอถูกมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเขาก็เดินไปเฉยๆโดยที่ไม่พูดกับเธอสักคำ และเดินไปโดยไม่หันกลับมามองหน้าของเธอเลย เธอยืนอึ้งเหมือนโดนเขาถอดรองเท้าตบหน้าอยู่กลางสี่แยก ที่คนกำลังเดินอยู่เต็มถนน แล้วทั้งรถและคนหยุดการเคลื่อนไหว แล้วมองมาที่เธอแค่คนเดียว เพราะมันก็ไม่ต่างกัน คนในมหาวิทยาลัยตอนนั้นก็หยุดการเคลื่อนไหว และมองเธอแค่คนเดียว พวกเธอเหล่านั้นมองเธอด้วยสายตาสมเพช ที่สารรูปอย่างเธอกล้ามาขอจีบคนที่หล่อระดับนายแบบ และหล่อระดับพระเอกในขณะที่ตัวเธอ เตี้ย อวบจนเกือบอ้วนหรืออวบในระยะสุดท้าย ไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลย และตั้งแต่นั้นมาเธอก็ปิดกลั้นตัวเองมาโดยตลอด ไม่กล้าที่จะคิดชอบใครอีกเลย ตั้งใจเรียนและกินอย่างเดียวและคิดว่าผู้ชายคนนั้น ไม่มีบุญพอที่จะได้ผู้หญิงที่ดีที่สุดอย่างเธอไป
"ขิม…ขิมฟังแม่อยู่หรือเปล่า …"
"คะ…แม่ว่าอะไรนะคะ …"ขิมกลืนของที่อยู่ในปากให้หมดแล้วตั้งสติถามแม่ของเธอใหม่
"แม่บอกว่า ขิมต้องย้ายไปอยู่กับพี่เขา หลังจากที่หมั้นกันแล้ว เพื่อศึกษาดูใจกันก่อนที่จะแต่งงาน …"
"แม่…!! ขิมเป็นผู้หญิงนะคะ มีด้วยเหรอจะให้ลูกสาวไปอยู่กับผู้ชายก่อนที่จะแต่งงานกัน แม่หลอกขิมเล่นรึเปล่าคะ …"ขิมมองหน้าแม่ตาค้าง และหาความจริงจังจากในดวงตาของแม่เธอ
"แม่ไม่ได้หลอกขิมเล่นลูก กำหนดวันหมั้นแล้วด้วยอาทิตย์ที่จะถึงนี้ แต่ลูกไม่ต้องห่วงนะ พี่เขาเป็นสุภาพบุรุษพอ ไปอยู่คอนโดพี่เขาแต่อยู่คนละห้องจ้ะ ขิมต้องไปดูแลพี่เขาหรือไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้พี่เขาจ้ะ …"
"ผู้จัดการส่วนตัว…? …"
"จ้ะ …"
"แม่คะ…แล้วคนที่จะหมั้นกับขิมเขาพิการขาขาดตาบอดรึไงคะ ขิมถึงต้องไปดูแลเขา แล้วเขาไม่มีแฟนหรือมีคนที่ชอบเหรอคะ ถึงไม่คิดจะปฏิเสธเลย …"ขิมถามแม่ด้วยความสงสัยปนโมโหนิดๆ
"ตรงกันข้ามจ้ะ ถ้าแม่บอกชื่อพี่เขา แม่ว่าขิมต้องรู้จัก …"แม่ของขิมมองลูกสาวที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งที่มีเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบอยู่ยิ้มๆ ลูกสาวเธอเป็นคนที่คิดบวกและแยกทุกอย่างออกจากเรื่องกินได้ ตอนนี้หุ่นกำลังอวบพอดี จากที่ตอนเรียนอ้วนกว่านี้ พอใกล้จะจบลูกสาวเธอดูแลตัวเอง ด้วยการออกกำลังกายตามสมัยนิยม ก็เลยทำให้อวบสมส่วนขึ้นกว่าตอนที่ยังเรียนอยู่
"ใครคะ ทำไมขิมต้องรู้จัก แล้วแม่ดูขิมสิคะ ถ้าเขาเห็นขิมแล้วปฏิเสธการหมั้นนี้ แม่กับพ่อต้องอายคนทั้งอำเภอเลยนะคะ ฮ่าๆ…"ขิมบอกแม่ของเธอขำๆ และรู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อย ที่รู้ว่าแค่ไปศึกษาดูใจกันหนึ่งปี ถ้าอยู่กันได้ก็แต่ง ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด และเธอคิดว่าไม่มีใครอยากปล้ำคนหุ่นอวบระยะสุดท้ายอย่างเธอแน่นอน
"พี่เขากำลังเป็นนักธุรกิจที่กำลังมาแรงตอนนี้ …"
"มาแรง…แล้วทำไมเขาหาเมียไม่ได้รึคะแม่ แถมยอมให้พ่อบังคับเหมือนเด็กๆด้วย …"ขิมถามแม่ด้วยความสงสัยแต่ปากก็กินไม่หยุด
"พี่นาวินเป็นคนเงียบๆนิ่งๆจ้ะ …"
"ฮ่ะๆแฮะๆ แฮะๆ อื้ม…ม …"
"เบาๆลูกตกใจเลยใช่ไหม ลูกรู้จักพี่เขาใช่ไหมจ้ะ …"แม่ของขิมถามลูกสาวพร้อมกับลูบหลังให้ด้วย
"คงไม่ใช่ นาวิน ฉฏากรปักยา หรอกใช่ไหมใครแม่ …"ขิมจ้องหน้าแม่ลุ้นๆและคิดว่าคงจะไม่ใช่คนเดียวกัน เพราะโลกมันคงไม่กลมขนาดนั้น และคนนั้น เขาคงจะแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้ว หล่อลากไส้สะขนาดนั้น
"ใช่จ้ะ พี่นาวิน ฉฏากรปักยา …"แม่ของขิมตอบลูกสาวพร้อมกับยิ้มให้
"ไม่…ไม่จริง โลกมันไม่ได้กลมขนาดนั้น …"ขิมพึมพำออกมาเบาๆเหมือนละเมอ หน้าเธอชาขึ้นมาทันที เพราะตั้งแต่วันนั้น ไม่ว่าจะเจอผู้ชายคนนั้นที่ไหน เธอจะหลบหน้าเขาตลอด และหนีไปอยู่อีกมุมหนึ่งทันที
"พรุ่งนี้ ขิมเตรียมตัวไปกินเลี้ยงกับพ่อแม่นะจ้ะ และไปรู้จักกับพี่เขาด้วย …"แม่ของขิมบอกลูกสาว เธอก็เป็นคนหนึ่งที่อยากได้นาวินเป็นลูกเขย เพราะนาวินมีคุณสมบัติที่เป็นผู้นำที่ดีและสามารถดูแลลูกสาวของเธอได้แน่นอน
"งานเลี้ยง…? …"ขิมหยุดกินทันที เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้ว
"จ้ะ แม่เตรียมชุดไว้ให้ขิมแล้วด้วย แม่ว่าขิมหยุดกินได้แล้วจ้ะลูกรัก …"แม่ของขิมเตือนลูกสาวเสียงเรียบ
"แม่คะ ทำไมกะทันหันจังคะ …"ขิมมองหน้าของแม่ตาปริบๆ
"ก็พ่อเขารอให้ลูกเรียนจบ และไม่มีแฟนถึงให้ลูกหมั้นกับพี่เขา ถ้าลูกมีแฟนตั้งแต่ตอนเรียนหรือมีแฟนแล้วพ่อเขาก็ไม่บังคับหรอกจ้ะ และถ้าไม่ทำแบบนี้ พ่อเขากลัวว่าจะไม่ได้อุ้มหลานจ้ะ …"แม่บอกลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่เอ็นดู
"งั้นขิมจะหาแฟน …"
"ไม่ทันแล้วจ้ะ กำหนดวันหมั้นแล้ว แม่ว่าขิมทำใจเถอะลูก แค่ปีเดียวเอง …"
"แม่คะ คนอื่นเขาจะมองขิมยังไงคะ ไปอยู่กับผู้ชายตั้งปีหนึ่ง ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะว่าลูกแม่บริสุทธิ์ …"ขิมหาทางออกให้ตัวเองจนนาทีสุดท้าย
"ไม่มีใครคิดหรอกลูก แต่ถ้าคิดและเสียหายลูกก็ต้องแต่งงานกับพี่เขา เพราะถึงจะไม่ได้นอนห้องเดียวกัน แต่ลูกก็ต้องออกงานกับพี่เขา ในฐานะคู่หมั้นและผู้จัดการส่วนตัวของพี่เขาอยู่ดีจ้ะ …"
"หึ…แม่คิดเหรอคะ ว่าคนอย่างนั้นจะให้ขิมออกงานในฐานะคู่หมั้น แค่คุยด้วยเขาจะคุยกับขิมหรือเปล่าเถอะ โห๊ะ…!! แค่คิดก็กินไม่ลงแหละ อิ่มดีกว่า …"
"ไม่อิ่มได้ยังไงคะลูก ก็มันหมดจานแล้วอ่ะ …"
"อุ๊ย…!! หมดจานจริงๆด้วย แฮ่ๆ …"ขิมยิ้มแหยๆให้แม่แล้วยกจานเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว
…
"แม่คะ…ชุดมันแน่นไปนิดหน่อยค่ะแม่ …"ขิมบ่นออกมาเบาๆ ในขณะที่พวกเธอเดินเข้ามาในงานเลี้ยง เธอมาในชุดเกาะอกสีขาวอมชมพูกระโปรงบานแค่เข่า แม่ชมว่าเธอเหมือนตุ๊กตา ก็ใช่นะสิ…ก็ลูกของตัวเองไง ถ้าคนอื่นเห็นอาจจะไม่ใช่ แต่เธอไม่สนหรอก เพราะเธอเชื่อแม่เธอ
"สวยกำลังพอดีแล้วลูก …"แม่บอกลูกสาวอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่พ่อของขิมเดินนำไปก่อนแล้ว วันนี้เป็นงานเดินแบบการกุศล ที่พ่อของขิมและเพื่อนจัดขึ้นไปช่วยเหลือเด็กบนดอยและขึ้นไปช่วยเด็กบนดอย ในนามของบริษัทที่ทั้งคู่กำลังรวมบริษัทเข้าด้วยกัน
"ค่ะแม่ พอดีอึดอัดเลยค่ะ …"ขิมกลอกตามองบน แล้วมองไปรอบๆงาน ก่อนที่จะไปสะดุดที่มุมจัดเลี้ยง มีขนมและเค้กมากมาย ที่ถูกจัดอย่างสวยงามและล่อตาล่อใจเธอ
"ยังกินไม่ได้ขิม หนูต้องไปรู้จักกับพ่อแม่ของว่าที่คู่หมั้นหนูก่อนจ้ะ …"แม่ของขิมมองตามสายตาของลูกสาว ก็รู้ทันทีว่าลูกสาวคนเดียวของเธอมองอะไรอยู่
"แม่คะ…แม่ไม่ต้องรู้ทันขิมไปหมดสะทุกเรื่องก็ได้ค่ะ ยังไงเขาก็รู้ว่าแม่เป็นแม่ของขิม …"ขิมมองค้อนแม่ของตัวเองที่รู้ทันเธอ
"สวัสดีค่ะคุณดาว คุณศิวะ ขิมมาสวัสดีคุณดาว คุณศิวะสิลูก …"แม่ของขิมเรียกลูกสาวให้มายืนข้างๆเธอ
"สวัสดีค่ะคุณดาว คุณศิวะ …"ขิมยกมือไหว้ตามที่แม่ของเธอบอกอย่างว่าง่าย
"ต๊ายแล้วคุณเคินอะไรกันคะ คนกันเองแท้ๆจะเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว เรียกแม่กับพ่อเถอะจ้ะหนูขิม ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะคะคุณ เหมือนตุ๊กตาอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ …"ดาวพูดพร้อมกับเข้าไปลูบแขนขาวอวบของขิมอย่างถูกใจ
"ขอบคุณค่ะ …"ขิมยกมือไหว้ขอบคุณอีกรอบ เธอได้แต่ยิ้มแล้วไม่พูดอะไร แล้วแอบชำเลืองมองศิวะ และคิดว่าไม่ผิดคนแน่ๆ เพราะผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุดในชีวิต ก็หน้าเดียวกันเลย ไม่ใช่แค่หน้าตาที่เหมือนกัน รูปร่างยังเหมือนกันเลย คือดูก็รู้ว่าเป็นพ่อลูกกันแน่นอน
"หนูขิมมาเป็นสะใภ้ของแม่นะลูก แม่ว่าตาวินต้องชอบน้องแน่ๆจริงไหมคะคุณ …"ดาวพูดพร้อมกับกอดเอวอวบของขิมไปด้วย
"หึๆได้เจอกันสะทีนะหนูขิม พ่อเห็นแต่ในรูป เราไม่ใช่คนแปลกหน้ากันแล้วนะ …"ศิวะคุยกับขิมพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย
"ขอบคุณค่ะที่เมตตาขิม …"ขิมยกมือไหวศิวะอีกรอบ
"รอพี่วินแป๊บหนึ่งนะลูก ถ้าเห็นพี่เขามากับแม่ดาราหน้าสวยอะไรนั้น หนูขิมก็อย่าคิดมากนะลูก เพราะแม่ไม่ยอมให้ตาวินหมั้นหรือแต่งกับใครทั้งนั้นนอกจากหนูขิมจ้ะ …"ดาวพูดอย่างเอาใจว่าที่ลูกสะใภ้
"เอ่อ… คือ…คือพี่นาวินมีแฟนอยู่แล้วเหรอคะ …"ขิมใจเต้นแรงเพราะคนทั้งประเทศก็รู้ว่านายแบบชื่อดังอย่างนาวิน กำลังคบหาดูใจอยู่กับนางเอกชื่อดังอยู่ในขณะนี้
"แฟนอะไรหนูขิม ไม่ใช่ลูก…ก็แค่คู่ควงจ้ะ แม่บอกแล้วว่าแม่ไม่ชอบคนในวงการอะไรนั่นหรอก แม่อยากได้หนูขิมมากกว่าจ้ะ …"ดาวบอกกับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง เธอไม่ชอบให้ลูกชายเป็นหรอกนายแบบอะไรพวกนั้น เธอชอบคนในแวดวงธุรกิจเดียวกันมากกว่า แต่เธอขัดลูกชายไม่ได้ ลูกชายของเธอไม่พูด แต่ก็ไม่เคยทำตามเธอเลย แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เธอแปลกใจ คือลูกชายของเธอยอมหมั้นกับคนที่เธอเลือกให้ง่ายๆ หลังจากที่ปฏิเสธมาแล้วหลายคน ทั้งที่ดูก็รู้ว่าคนที่เธอเลือกให้คนนี้ สวยและหุ่นดีไม่ได้ครึ่งหนึ่งของคนที่ลูกชายของเธอควงเลยสักคน
"ค่ะ …"ขิมแอบกลืนนํ้าลายลงคอ นี่เธอต้องมาแย่งผู้ชายจากแฟนเขาเหรอเนี่ย จะปฏิเสธเธอก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะผู้ใหญ่คุยกันเรียบร้อยแล้ว แล้วถ้าแฟนเขามาตบเธอกลางงานหมั้น "คุณพระ" เธอคงได้เป็นนางร้ายทันที เพราะนาวินมีข่าวว่าคบกับนางเอกคนนี้ตั้งนานแล้ว
"หนูขิม…หนูขิมจ้ะ คิดอะไรอยู่รึเปล่าลูก ถ้าคิดเรื่องพี่เขาไม่ต้องคิดมากนะ แม่ก็ถามพี่เขาแล้ว พี่เขาไม่ได้เป็นแฟนกัน พี่นาวินไม่เคยขอแม่นางเอกคนนั้นเป็นแฟนจ้ะ แล้วแม่นางเอกคนนั้นก็ตอบนักข่าวไม่ชัดเจน หนูก็น่าจะเห็นนะลูก …"ดาวรีบแก้ต่างให้ลูกชาย เพราะเธอกลัวขิมจะเข้าใจผิด แล้วไม่ยอมหมั้นกับลูกชายเธอ เพราะเธอก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกลูกสะใภ้เอง เธออยากได้คนในแวดวงธุรกิจเดียวกัน และเธอถูกใจขิมทันทีที่สามีเธอเอารูปขิมให้ดู ดูแล้วน่าจะเป็นคุณแม่ลูกดกน่าดู ขิมดูอวบมีนํ้ามีนวล ไม่ใช่รักษาสุขภาพจนผอมเกินงาม เหมือนพวกนางเอกทั้งหลายที่ลูกชายของเธอควงอยู่
"ค่ะ…ขิมขอตัวไปเข้าห้องนํ้าก่อนนะคะ …"ขิมขอดาวเข้าห้องนํ้า ก่อนที่จะเดินออกมา ในขณะที่ดาวก็มีคุณหญิงคุณนายมาคุยด้วยพอดี ทำให้เธอปลีกตัวออกมาได้ง่ายๆ
"เฮ้อ…!! หนีกลับแม่ง อึดอัดเป็นบ้าเลย เอาไงดีวะ …"ขิมพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด เธอยอมรับว่าพ่อแม่ของนาวินน่ารักมากและดีกับเธอมาก แต่กับตัวลูกชายนี่สิ เขาไม่ชอบเธออยู่แล้วเธอรู้ดี แถมเขายังมีแฟนอยู่แล้วด้วย เท่ากับเธอแย่งแฟนคนอื่นเลยนะ เครียดเว้ย…อย่างงี้ต้องกินขนม หุๆ พอคิดได้เธอก็เดินไปที่มุม ที่เธอเล็งเอาไว้ทันที หันไปดูพ่อแม่เธอก็คุยกับเพื่อนตัวเองกันอยู่ อย่างออกรสออกชาติตามวัยของพวกเขา
"นาวินคะ มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย เสียดายจังแก้มต้องเดินแบบพรุ่งนี้แก้มกินไม่ได้ …"แก้มพูดเสียงอ้อน
"ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน ผมไม่ได้บังคับหนิ …"นาวินบอกแก้มพร้อมกับกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย เขาเบื่องานแบบนี้เบื่อสังคมแบบนี้ แต่เขาหนีมันไปไม่ได้ แม้กระทั่งผู้หญิงที่ผู้ชายอยากได้เป็นแฟนมากที่สุดอย่าง แก้ม กานดา ชูกระมล นางเอกชื่อดังเขายังเบื่อเลย
"งั้มๆ อร่อยทุกอย่างเลย …"ขิมเดินเลือกขนมชิ้นเล็กๆพอคำใส่จานตัวเองไป ปากก็กินไปด้วยอย่างไม่สนใจใครนาทีนี้ นาทีทองของเธอเลยก็ว่าได้
"ไม่มีมารยาท กินอย่างกับคนไม่เคยเจอ …"แก้มพึมพำออกมาเบาๆ แต่เพราะความที่ขิมอยู่ใกล้เลยได้ยิน แต่เธอหาสนใจไม่ เพราะเธอไม่เคยสนใจคนที่เธอไม่รู้จัก และคนที่ไม่รู้จักเธออยู่แล้ว
"หลบหน่อยค่ะ ฉันจะหยิบขนมชิ้นนั้น …"ขิมหันไปบอกผู้หญิงที่ยืนมองขนมแล้วกลืนนํ้าลายอยู่ แต่ไม่กล้ากินและไม่กล้าหยิบด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ เธอไม่ได้สนใจ
"นี่เธอ…!! …"แก้มกัดฟันพูดด้วยความโมโห ที่คนตัวเตี้ยๆอ้วนๆเดินมาเบียดเธออย่างไร้มารยาท
"ขอโทษค่ะ ถ้าไม่หยิบก็ช่วยหลบหน่อย ฉันหยิบขนมไม่ถึง …"ขิมหันไปบอก
"ไม่มีมารยาท ที่มีอยู่เต็มจานก็กินให้หมดก่อนไหม …"แก้มบอกด้วยความไม่พอใจ เพราะคนตัวอวบข้างหน้าเธอ ไม่มองหน้าของเธอเลย เธอเป็นถึงนางเอกดัง แต่ทำไมคนตรงหน้าถึงทำเหมือนไม่รู้จักเธอเลย
"คุณแก้ม… คุณ…!! …"ขิมชาไปทั้งตัว เมื่อเธอหันไปมองผู้หญิงที่ยืนว่าเธออยู่ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ทำให้เธอตัวชา แต่คนที่ยืนทำท่าเซ็งที่กำลังมองมาที่เธอต่างหากที่ทำให้เธอตัวชา